บึ้มคุ้มครองครู ‘อส.’บาดเจ็บ3 สั่งเข้ม ยานยนต์


เพิ่มเพื่อน    

 

ป่วน! ยะลา คนร้ายลอบวางระเบิด อส.ขณะขี่ จยย.ลาดตระเวนเส้นทางคุ้มครองครู รร.บ้านกะตูปะ อ.เมืองยะลา บาดเจ็บ 3 ราย เชื่อฝีมือ "อุสตาซโซะ" แกนนำระดับปฏิบัติการในพื้นที่ "ผบ.ฉก.ปัตตานี" กำชับ จนท. 3 ฝ่ายเพิ่มความเข้มงวด พร้อมตรวจเข้มรถทุกชนิด หลังพบคนร้ายพยายามก่อเหตุทุกรูปแบบ  

    เมื่อวันที่ 12 ก.ค. เวลา 07.55 น. ร.ต.อ.หญิงกิจสุภา เจริญพร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งทางวิทยุว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาสมัครอำเภอเมืองยะลา จ.ยะลา ซึ่งเป็นชุดรักษาความปลอดภัย (ชุด รปภ.) เส้นทางและคุ้มครองครู ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน เพื่อลาดตระเวนเส้นทางเข้าโรงเรียนบ้านกะตูปะ ม.6 ต.บันนังสาเรง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ อส.ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย 
     หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ อส.ในบริเวณใกล้เคียงได้ช่วยกันนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือ 1.อส.สาธิต รู้รอบ ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหน้าท้อง 2.อส.ดิเรก ทองประดับ ได้รับบาดเจ็บบริเวณคอ และ 3.อส.ต่วนสุไลมาน ต่วนกอแต อาการหูอื้อแน่นหน้าอก
     จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริเวณถนนชนบท หมู่ 6 ต.บันนังสาเรง อ.เมืองยะลา พบรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ อส.ล้มคว่ำอยู่ข้างทาง ใกล้กันริมถนนบนจุดที่คาดว่าคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องมาวางซุกไว้ในพงหญ้า เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดต้องปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุ และเข้าตรวจสอบหารายละเอียด พบเศษสะเก็ดระเบิด และเศษวิทยุสื่อสาร 
    เบื้องต้นเชื่อว่าระเบิดแสวงเครื่องดังกล่าวถูกจุดระเบิดด้วยสัญญาณวิทยุสื่อสาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องตรวจพิสูจน์หาหลักฐานและรายละเอียดในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม 
    อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือนายอิสมาแอ ระยะหลง หรืออุสตาซโซะ แกนนำระดับปฏิบัติการ ก่อเหตุในครั้งนี้
    ที่ จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบยิงคู่รักซึ่งเป็นใบ้เสียชีวิต 2 ราย เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าผลปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ของคนร้ายที่ได้ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่มีความเชื่อมโยงกลุ่มของนายมาหามะ สะอิ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงและมีหมายจับกว่า 10 หมาย ส่วนอาวุธปืนเคยนำไปก่อเหตุในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.มายอ และ อ.ทุ่งยางแดง กว่า 10 คดี ทั้งยิงเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน รวมไปถึงยิงสาวท้องแก่เสียชีวิตขณะยืนซื้อไก่ย่างที่ตลาดปาลัส อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เมื่อกลางปี 2561
    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สามารถยึดรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุเพิ่มได้อีก 1 คัน เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน ขงน 145 ยะลา เจ้าของรถแจ้งหายไว้ที่ สภ.ยะรัง จึงได้เก็บดีเอ็นเอและตรวจสอบรถจยย.ดังกล่าวอย่างละเอียด
    "หลังการตรวจสอบวัตถุพยานและสอบปากคำพยานจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหา 2 ใน 3 ที่ร่วมก่อเหตุ ส่วนคนร้ายอีก 1 รายนั้นได้เสียชีวิตหลังปะทะและพบศพอยู่ในป่ากลางทุ่งนา เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา " แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุ
    ขณะที่ พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ ทั้งเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัยที่เข้ามาในพื้นที่ โดยให้ทุกจุดตรวจจุดสกัด ตรวจเข้มรถทุกชนิดและบุคคลต้องสงสัยอย่างละเอียด เนื่องจากมีรายงานว่าคนร้ายมีความพยายามที่จะเข้ามาก่อเหตุทุกรูปแบบ 
    วันเดียวกัน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ซึ่งกันและกันเกี่ยวกับหลักคำสอนและหลักปฏิบัติของแต่ละศาสนา ตามโครงการศาสนิกสัมพันธ์ สร้างสันติสุข เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องศาสนาด้านศาสนิกสัมพันธ์และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ของข้าราชการตำรวจและบุคลากรของรัฐ ที่ จ.ปัตตานี เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
    พล.ต.อ.สุชาติกล่าวว่า เดิมในอดีตที่ผ่านมาอาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจกันและไม่เคยที่จะเข้ามาพูดคุย แต่พอมาปัจจุบันเริ่มเข้าใจกัน ในส่วนรัฐเองไม่ว่าตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ก็ได้พยายามเน้นในการสร้างความเข้าใจและให้เกียรติซึ่งกันและกันมากขึ้นกว่าเดิม จนสถานการณ์เริ่มจะดีขึ้นตามลำดับ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"