ใกล้เข้ามาแล้วกับช่วงวันหยุดยาว วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 12-17 กรกฎาคมนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเช่นกรมขนส่งทางบก ได้ออกมาคาดการณ์ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวประชาชนมีการเดินทางใช้รถใช้ถนนเพื่อไปทำบุญตามประเพณีหรือท่องเที่ยวปริมาณมากกว่าช่วงเวลาปกติ ดังนั้น เพื่อควบคุม กำกับ ดูแลความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ขนส่งทางบกได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศดำเนินการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้แก่ประชาชน เน้นมาตรการตรวจความพร้อมของตัวรถและพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะก่อนออกเดินทางตั้งแต่ต้นทางที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอดทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรง มีอุปกรณ์ส่วนควบและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยครบถ้วนถูกต้อง และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา เช่น การติดตั้ง GPS Tracking สามารถส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเบรก ยาง ล้อ ระบบไฟ อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง มีถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจกกรณีเหตุฉุกเฉิน
ขณะที่พนักงานขับรถจะมีการตรวจสอบระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็น 0 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตรวจสอบชั่วโมงการทำงาน สมุดประจำรถ เป็นต้น หากพบสภาพรถหรือพนักงานขับรถมีข้อบกพร่องที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการให้บริการ ดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด และสั่งห้ามให้บริการ โดยผู้ประกอบการต้องจัดหารถคันใหม่และพนักงานขับรถที่มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่แทนทันที และไม่กระทบต่อการบริหารจัดการเดินรถในเส้นทางซึ่งต้องเพียงพอเพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง
ทั้งนี้ เนื่องจากช่วงวันหยุดอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาและต่อเนื่องตลอดเดือนกรกฎาคม ยังอยู่ในช่วงฤดูฝน อาจส่งผลให้สภาพถนนและสภาพจราจรเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรวจสอบรถและกำชับพนักงานขับรถให้ใช้ความระมัดระวังในการขับรถ โดยกรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการตรวจสอบการใช้ความเร็วของรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ทั้งการออกหน่วยเคลื่อนที่ตรวจจับความเร็วในเส้นทางสายหลักเข้า-ออกกรุงเทพมหานครไปสู่ภูมิภาค พร้อมติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าจากสถิติช่วงเทศกาลต่างๆ มักจะมีการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกติ เนื่องจากสาเหตุเมาแล้วขับและความประมาท ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน กรมขนส่งทางบกในฐานะกำกับดูแลจึงได้ออกมาตรการเพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนให้เกิดความระมัดระวังในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ต้องเดินทาง กรณีเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่มีสาเหตุจากสภาพตัวรถหรือการละเลยการปฏิบัติตามเงื่อนไขความปลอดภัยที่กำหนด จะพิจารณาลงโทษผู้กระทำผิดในสถานหนัก และผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบทุกกรณี ถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการและพนักงานขับรถหรือผู้ประจำต้องดูแลให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง หากพบผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ห้ามทำการออกเดินรถจากสถานีอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ ได้มีการตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียนเฉพาะกิจที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเพื่อเฝ้าระวังป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพไม่ให้ผู้โดยสารถูกเอาเปรียบ ทั้งการฉวยโอกาสจำหน่ายตั๋วโดยสารเกินราคา รับผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งให้ผู้โดยสารยืนบนรถ รวมถึงให้คำแนะนำการเดินทางและรับเรื่องร้องเรียนกรณีประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้บริการ
ขณะเดียวกัน ประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ หากพบว่าไม่มีปลอดภัยหรือมีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง เรื่องแบบนี้เราสามารถร่วมเป็นหูเป็นตาเพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.
กัลยา ยืนยง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |