สหรัฐวางเป้ารวบรวมชาติพันธมิตรจัดตั้งเป็นกองกำลังผสมเพื่อปกป้องเสรีภาพของการเดินเรือในน่านน้ำนอกชายฝั่งของอิหร่านและเยเมน หลังจากเรือน้ำมันโดนวางระเบิดซึ่งสหรัฐสงสัยว่าเป็นฝีมืออิหร่าน คาดขานชื่อประเทศร่วมก๊วนได้ภายใน 2 สัปดาห์

แฟ้มภาพ วันที่ 15 มิถุนายน 2562 เรือบรรทุกน้ำมันแล่นในอ่าวโอมาน นอกชายฝั่งตะวันออกของเมืองฟูไจราห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ / AFP

    ตามแผนการนี้ ซึ่งเพิ่งเป็นชิ้นเป็นอันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สหรัฐจะจัดเตรียมเรือบัญชาการและควบคุม และเป็นผู้นำปฏิบัติการตรวจการณ์ของกองกำลังผสมชาติพันธมิตร โดยที่เรือของชาติพันธมิตรจะทำหน้าที่ลาดตระเวนในทะเลใกล้กับเรือบัญชาการของสหรัฐ และตามคุ้มกันเรือสินค้าของประเทศตนเองด้วย

    รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2562 กล่าวว่า พลเอกโจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม เปิดเผยแผนดังกล่าวต่อนักข่าวภายหลังประชุมร่วมกับมาร์ค เอสเปอร์ รักษาการรัฐมนตรีกลาโหม และไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ เมื่อวันอังคาร

    นายพลจากกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐผู้นี้กล่าวว่า ขณะนี้สหรัฐกำลังติดต่อทาบทามหลายประเทศ เพื่อลองดูว่าจะสามารถจัดตั้งเป็นกองกำลังผสม ที่จะช่วยรับประกันเสรีภาพในการเดินเรือ ทั้งในช่องแคบฮอร์มุซ และช่องแคบเบบอัลมันเดบ ได้หรือไม่

    "ผมคิดว่าอาจจะเป็นภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า เราจะสามารถระบุได้ว่า ประเทศใดบ้างที่มีเจตจำนงทางการเมืองที่จะสนับสนุนความริเริ่มนี้ แล้วจากนั้นเราจะทำงานกับกองทัพเหล่านั้นโดยตรง เพื่อระบุขีดความสามารถจำเพาะเจาะจงที่จะสนับสนุนแผนนี้" พลเอกดันฟอร์ดกล่าว

    รอยเตอร์กล่าวว่า อิหร่านเคยขู่มานานแล้วว่า พวกเขาจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ที่เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันเกือบ 1 ใน 5 ของโลก หากอิหร่านไม่สามารถส่งออกน้ำมันของตนได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เป็นเครื่องมือกดดันให้อิหร่านหวนเจรจาทำความตกลงนิวเคลียร์กันใหม่

    ข้อเสนอของสหรัฐที่จะจัดตั้งกองกำลังผสมนานาชาติเพื่อปกป้องการเดินเรือในช่องแคบนี้และปากทางเข้าอ่าวเปอร์เซีย เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นภายหลังเกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันหลายลำโดนโจมตีในน่านน้ำของอ่าวฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน เดือนที่แล้วอิหร่านยังยิงโดรนลำหนึ่งของสหรัฐตกใกล้ช่องแคบฮอร์มุซด้วย ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ออกคำสั่งให้กองทัพตอบโต้ทางทหาร แต่เขาเปลี่ยนใจยกเลิกแผนนี้ก่อนปฏิบัติการไม่กี่นาที

    รายงานกล่าวด้วยว่า ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐเคยกล่าวถึงแผนปกป้องช่องแคบฮอร์มุซมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่การเปิดเผยของพลเอกดันฟอร์ดที่ว่ากลุ่มพันธมิตรจะรักษาความปลอดภัยในช่องแคบมันเดบนอกชายฝั่งเยเมนนั้น เป็นเรื่องใหม่

    นักรบฮูตีในเยเมนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ทำให้สหรัฐ, ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กังวลมาช้านานเรื่องการโจมตีในน่านน้ำแคบๆ ของเบบอัลมันเดบ ซึ่งเชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดนและทะเลอาหรับ ทางน้ำสายนี้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าและน้ำมันวันละเกือบ 4 ล้านบาร์เรลไปยังยุโรป, สหรัฐ และเอเชีย

    พลเอกดันฟอร์ดกล่าวว่า สหรัฐจะส่งเรือบัญชาการและควบคุมหลายลำเข้าร่วมกองกำลังผสมนี้ แต่ก็มีเป้าหมายให้ชาติพันธมิตรส่งเรือร่วมลาดตระเวนน่านน้ำที่อยู่ระหว่างเรือบัญชาการของสหรัฐ นอกจากนั้นยังต้องการให้ชาติสมาชิกร่วมภารกิจคุ้มกันเรือสินค้าของประเทศนั้นๆ ด้วย โดยขนาดของภารกิจนี้จะถูกปรับให้เข้ากับจำนวนชาติสมาชิกที่เข้าร่วม

    ปอมเปโอเคยกล่าวไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า เขาหวังว่าจะมีมากกว่า 20 ประเทศ ซึ่งรวมถึงยูเออีและซาอุดีอาระเบีย จะร่วมกันจัดตั้งกองกำลังรักษาความมั่นคงทางทะเล.