10ก.ค.62- ที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) - กสศ. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แถลงข่าวปฏิบัติการระดมความร่วมมือลดจดหมายลาครู ช่วยเด็กกลุ่มเสี่ยงหลุดออกนอกระบบการศึกษา และเปิดมิติใหม่ของการช่วยเหลือสังคม ตอบโจทย์ CSR ภาคธุรกิจ ชี้เป้าช่วยเหลือถูกคน พร้อมรายงานผลรายคน มั่นใจช่วยเด็กได้จริง
โดยนายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า สำหรับนโยบายการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักเรียนของ สพฐ.และการคัดกรองนักเรียนยากจนพิเศษ ให้ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไขของ กสศ. สพฐ. เพิ่มความเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งเป้าลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเพื่อช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มยากจนที่สุดทันท่วงที หากประมวลปัญหาของนักเรียนยากจนพิเศษ ซึ่งควรได้รับการช่วยเหลือเร่งด่วนพบว่ามีทั้งเรื่องสภาพครัวเรือนที่มีภาระพึ่งพิง มีผู้พิการ เจ็บป่วยเรื้อรัง หรือพ่อแม่แยกทางกัน อาศัยอยู่กับปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้อง บ้านที่อยู่อาศัยมีสภาพทรุดโทรมหนัก ถึงขั้นไม่ปลอดภัยต่อชีวิต ไม่คุ้มแดดคุ้มฝน ไม่มีห้องน้ำในบริเวณบ้าน สภาพแวดล้อมไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่มีไฟฟ้าหรือน้ำประปาใช้ ไม่มีเงินค่าอาหาร และค่าเดินทางในการมาโรงเรียน ดังนั้น สพฐ.และกสศ. จะบูรณาการฐานข้อมูลศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สพฐ.กับระบบปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน หรือ CCT เพื่อดูแลนักเรียนรายบุคคลในทุกมิติ พร้อมส่งต่อความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่างๆ ที่สำคัญจะช่วยลดภาระงานให้ครูในการบันทึกข้อมูลต่างๆ ด้วย โดยจะมีการประชุมเรื่องนี้ในวันที่ 23-24 กรกฎาคมนี้
“ผมต้องขอขอบคุณในความทุ่มเทของคุณครู และเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 225 เขต ที่ไม่นิ่งเฉยกับความทุกข์ยากของเด็กๆ แม้พื้นที่ห่างไกลยากลำบากก็ไม่มีตกหล่น จนนำมาสู่ความร่วมมือของหลายภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนเพื่อช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจะไม่สำเร็จถ้าทำเพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เพราะเป็นปัญหาขนาดใหญ่และซับซ้อน โดยตลอดเดืนกรกฎาคมนี้ สพฐ.กำชับให้เขตพื้นที่การศึกษาดูแลสนับสนุนครูลงพื้นที่เยี่ยมบ้านให้ครบร้อยละ 100 เพื่อไม่ให้มีเด็กยากจนตกหล่นแม้แต่คนเดียว”รองเลขาฯ กพฐ.กล่าว
ด้านนพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ทาง กสศ.จะจัดสรรเงินอุดหนุนให้นักเรียนยากจนพิเศษกลุ่มเดิมที่ยืนยันการมีตัวตนในสถานศึกษาแล้ว ราว 320,000 คน เพื่อเป็นค่าครองชีพ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ให้แก่นักเรียนและจัดสรรไปยังสถานศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพของนักเรียน คนละ 1,000 บาทในภาคเรียนที่ 1 รวมแล้วกว่า 300 ล้านบาท ทั้งนี้ตลอดเดือนกรกฎาคม ครูจากสังกัด สพฐ. ตชด.และอปท.กว่า 400,000 คนยังคงเดินหน้าคัดกรองนักเรียนเข้าใหม่ได้แก่ชั้น ป.1 ป.4 และม.1 เพื่อรับการจัดสรรอีกครั้งในเดือน สิงหาคม อีกราว3 แสนคน เพื่อไม่ให้มีเด็กคนไหนตกหล่นจากการช่วยเหลือ ทั้งนี้ปีการศึกษา 2562 กสศ.จะช่วยสนับสนุนค่าเดินทางในการเยี่ยมบ้านเพื่อเติมให้กับโรงเรียนด้วย โดยในส่วนของอัตราการอุดหนุนในเทอมที่ 2 ทางคณะรัฐมนตรีอนุมัติปรับเพิ่มให้แล้วเป็นเทอมละ 1,500 บาท (หรือปีละ 3,000 บาท) ในงบประมาณปี 2563 แต่ยังอยู่ในขั้นตอนรอการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอยู่
“อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของระบบการศึกษาโดยตรง แต่เนื่องจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจทำให้เด็กกลุ่มนี้ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษามากกว่าครอบครัวร่ำรวยถึง 4 เท่า ซึ่ง กสศ.มุ่งบรรเทาความเดือดร้อนขั้นต้นเพื่อบรรเทาอุปสรรคในการมีเรียน ล่าสุดจึงมีโครงการระดมความร่วมมือจากภาคธุรกิจเพื่อช่วยเด็กกลุ่มนี้เพิ่มเติมจากที่กสศ.จัดสรร โดยใช้ระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาหรือ iSEE เป็นเครื่องมือชี้เป้าตอบโจทย์ CSR ของภาคธุรกิจ โดยเบื้องต้นมี 2 แนวทาง คือ 1.ชี้เป้าโรงเรียนที่มีนักเรียนยากจนพิเศษมากที่สุดในรัศมีชุมชนโดยรอบกิจการของภาคเอกชน เพื่อร่วมบริจาคเติมความช่วยเหลือ 2. ชี้เป้านักเรียนยากจนพิเศษจาก 100 โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร (พื้นที่เกาะ พื้นที่สูง และพื้นที่ห่างไกล ชุมชน) ซึ่งการสนับสนุนสามารถเลือกได้เป็นค่าครองชีพ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง กิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพ หรือสมทบทุนการศึกษา”ผู้จัดการ กสศ.กล่าว
ด้านนายทวีศักดิ์ บรรลือสินธุ์ กรรมการและผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท เอสโซ่(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอสโซ่ใช้ระบบ ISEE ของ กสศ. ช่วยชี้เป้าโรงเรียนที่มีนักเรียนยากจนพิเศษมากที่สุดซึ่งอยู่บริเวณรอบสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่สาขาวังมะนาว จ.เพชรบุรี ประมาณ 18 โรงเรียน ครอบคลุมนักเรียนทุนมากกว่า 300 ทุน และจะขยายต่อไปในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นทุนการศึกษาและบรรเทาอุปสรรคในการมาเรียน การลดความเหลื่อมล้ำด้วยการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายยากจนที่สุดให้สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างเต็มศักยภาพ จะสามารถขจัดความยากจนข้ามชั่วคนได้ ถือเป็นเส้นทางสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นจุดยืนสำคัญของเอสโซ่
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |