เข้าหน้าร้อนที่ไรเป็นต้องนึกถึง “สมุนไพรไทยป้องกันผิวไหม้แสบร้อน” ทุกทีไป เนื่องจากมีคำเตือนของกรมอุตุวิทยาออกมาบอกว่า ปลายเดือน ก.พ.นี้ อากาศบ้านเราจะเริ่มร้อนจัด ดังนั้นภูมิปัญญาพื้นบ้านอย่างการกินและพอกสมุนไพรฤทธิ์เย็น เพื่อดูแลสุขภาพผิวหนังของผู้สูงวัยกำลังกลับมาฮิตอีกครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเทรนด์ของการดูแลสุขภาพด้วยวิถีธรรมชาติเป็นสิ่งที่นอกจากไม่ตกยุคแล้ว ยังเป็นการดูแลผิวพรรณจากของดีที่มีอยู่รอบๆ บ้านเรา ที่สำคัญเป็นสมุนไพรหาได้ไม่ยุ่งยาก และเสี่ยงต่อการแพ้ในผู้สูงวัยค่อนข้างน้อย
(พท.ป.เบญจวรรณ หมายมั่น)
พี่เบญ-พท.ป.เบญจวรรณ หมายมั่น แพทย์แผนไทยประยุกต์ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารข้อมูล ศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้ข้อมูลว่า “หลักของการดูแลอาการผิวหนังแห้ง แดง แสบไหม้ จากแสงแดดที่ร้อนระอุ แนะนำว่าควรใช้ “สมุนไพรฤทธิ์เย็น” ที่นอกจากบรรเทาอาการดังกล่าวแล้ว ยังช่วยทำให้ผิวของผู้สูงวัยชุ่มชื่นอีกด้วย เริ่มจาก “ว่านรางจืด” ที่มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็น ช่วยลดการอักเสบ อีกทั้งป้องกันอาการแสบไหม้ก่อนออกแดด ที่สามารถใช้ได้ในรูปแบบของสเปรย์ว่านรางจืดของ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร นอกจากนี้ยังมี “แตงกวา” ที่มีฤทธิ์เย็นอีกเช่นกัน โดยลูกหลานสามารถนำมาปั่นให้ละเอียด และพอกโดยการชุบสำลีและโปะทิ้งไว้ที่ผิวหนังของผู้สูงวัยหลังจากที่ท่านออกไปทำธุระนอกบ้าน โดยทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที หรือจนกว่าอาการแสบร้อนที่ผิวจะดีขึ้น จากนั้นจึงล้างด้วยน้ำสะอาด
(ช่วงหน้าร้อนให้นำ“ผักเบี้ยใหญ่” มาตำให้ละเอียดและพอกผิวหนัง เพื่อสร้างความชุ่มชื่นผิวพรรณให้กับตายาย)
สำหรับสมุนไพรที่ชื่อแปลกอย่าง “ผักเบี้ยใหญ่” และเมื่อลองจับดูที่ใบจะพบว่ามีความเย็นตามธรรมชาติ และมีคุณสรรพคุณต้านการอักเสบได้ดี ซึ่งทางการแพทย์แผนจีนใช้สารสกัดจากสมุนไพรดังกล่าวผสมกับครีมขี้ผึ้งสำหรับเพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงิน แต่ถ้าจะให้ใช้ง่ายที่สุด บ้านไหนที่ปลูกสมุนไพรดังกล่าวสามารถเด็ดมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำมาตำและพอกบริเวณอาการแสบไหม้หลังการออกแดดในช่วงหน้าร้อน โดยทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
(“ว่านหางจระเข้” ตัวช่วยไล่ความร้อนที่ผิวในราคาย่อมเยา)
นอกจากนี้ สมุนไพรริมรั้วที่ปลูกประดับบ้านอย่าง “ว่านหางจระเข้” ก็มีสรรพคุณต้านการอักเสบและมีฤทธิ์เย็น ที่สำคัญยังอุดมไปด้วยวิตามินอีซึ่งช่วยลดริ้วรอยจากแผลไฟไหม้อีกด้วย วิธีการใช้ให้นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกออก จากนั้นให้ตัดวุ้นใสๆ มาโปะทิ้งไว้ที่ผิวหนังแสบแดงจนกว่าอาการจะดีขึ้น จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ปิดท้ายกันที่ “ใบบัวบก” ซึ่งสามารถนำมาต้มเป็นน้ำใบบัวบก เพื่อดื่มดับความร้อนในร่างกายของผู้สูงอายุ หรือจะเด็ดใบมาตำให้ละเอียดและพอกที่ผิวหนัง ก็ช่วยอาการบวมแดง แสบร้อนจากแสงแดดจ้าช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนได้ค่อนข้างดี
หน้าร้อนนี้รีบมองหาของดีในบ้าน หรือหากไม่มีจะปลูกตอนนี้ก็ยังทัน ว่าไหมค่ะ...
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |