"ประยุทธ์" ใช้มาตรา 44 สั่งยกเลิกคำสั่ง-ประกาศ คสช.ล็อตใหญ่ มีทั้งปลดล็อกคุมเข้มสื่อ  โอนคดีที่อยู่ในศาลทหารไปยังศาลยุติธรรม เลิกห้ามบุคคลเดินทางออกนอกราชอาณาจักร 

    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เข้าพบเพื่อหารือเรื่องการยกเลิกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ว่านายวิรัชแจ้งว่ามีหลายญัตติที่จะเข้าสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงญัตติที่เกี่ยวกับคำสั่ง คสช. ซึ่งตนระบุว่ารัฐบาลพร้อมจะตอบทุกอย่าง และได้อธิบายให้ทราบว่ามีคำสั่ง คสช.กี่ฉบับ โดยบางฉบับไม่ต้องยกเลิก เพราะเมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่งมันจะยกเลิกด้วยตัวเอง เนื่องจากมีเวลากำหนดไว้ 
    นายวิษณุกล่าวว่า วันนี้จะมีการออกคำสั่ง คสช.ฉบับสุดท้าย เพื่อยกเลิกคำสั่ง คสช.อีกเป็นร้อยฉบับ อาทิ เรื่องสื่อ เรื่องศาลทหาร ดังนั้น ที่สุดจะเหลือจริงๆ ไม่กี่ฉบับ ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานเกี่ยวข้องเห็นว่าจำเป็นต้องอยู่ต่อไป เพราะออกมาเพื่อแก้กฎหมายให้เขา หากยกเลิกไปจะไม่มีอะไรเหลืออยู่ไว้ใช้ทำงาน จึงต้องคงไว้จนกว่าสภาจะเปลี่ยนเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หรือยกเลิก
    รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า นายวิรัชยังสอบถามเรื่องบุคลากรของท้องถิ่น ซึ่งมีจำนวนมากที่ยังไม่ได้มีการปลดล็อกกลับคืนตำแหน่งว่าจะทำอย่างไร จึงตอบไปว่าผู้ที่ยังไม่ถูกปลดล็อกยังมีอยู่จริง เพราะคนเหล่านั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แต่ได้มีการเขียนไว้แล้วว่า หาก คสช.ไปแล้ว ไม่มีมาตรา 44 แล้ว ในอนาคตพบว่าคนเหล่านี้กระทำผิดจริงให้ดำเนินการตามกฎหมาย แต่ถ้าไม่ผิด จะเป็นอำนาจของนายกฯ ที่จะสั่งให้กลับเข้ารับตำแหน่งเดิมได้ จึงไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ดังนั้น ขอให้เร่งสอบให้เสร็จเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ปลดล็อกให้แล้วก็มีหลายคน อย่างเมื่อวันที่ 8 ก.ค. กับวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ได้มีการเซ็นคำสั่งยกเลิกไปจำนวนมากแล้ว
    วันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 9/2562 เรื่องการยกเลิกประกาศ คสช. คำสั่ง คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. บางฉบับที่หมดความจำเป็น มีเนื้อหาสรุปว่า ตามที่หัวหน้า คสช.และ คสช.มีประกาศและคำสั่งต่างๆ ออกมา ขณะนี้สมควรยกเลิกประกาศ คสช. คำสั่งคสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่หมดความจำเป็น อาศัยอำนาจตามมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญ ประกอบมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว หัวหน้าคสช.โดยความเห็นชอบของ คสช. มีคำสั่งให้ยกเลิก ประกาศ คสช. คำสั่ง คสช. คำสั่งหัวหน้า คสช. ตามบัญชีหนึ่งท้ายคำสั่งนี้ รวมถึงให้ยกเลิกประกาศ คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. เกี่ยวกับการกำหนดให้คดีอยู่ในศาลทหาร ตามที่ระบุในบัญชีสองท้ายคำสั่งนี้ และให้บรรดาความผิดตามประกาศ คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. ให้อยู่ในอำนาจศาลยุติธรรม ส่วนคดีที่อยู่ในศาลทหารก่อนคำสั่งนี้มีผลให้โอนไปยังศาลยุติธรรม แต่ไม่หมายรวมถึงการกระทำผิดที่กฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลทหารให้อำนาจพิจารณาของศาลทหาร
    นอกจากนี้? ให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 40/2558 เรื่องการได้มาซึ่งคณะกรรมการประกันสังคม ที่ปรึกษาของคณะกรรมการประกันสังคม คณะกรรมการการแพทย์ และคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน เป็นการชั่วคราว ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
    ในบัญชีสามท้ายคำสั่งนี้ ให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช.เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา การทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ที่กำหนดในบัญชีสี่ท้ายคำสั่งนี้ และให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.เกี่ยวกับการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษเพื่อรองรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในบัญชีห้าท้ายคำสั่งนี้ และการยกเลิกประกาศ คสช. คำสั่ง คสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช.ตามคำสั่งนี้ ไม่กระทบการกระทำตามประกาศและคำสั่งก่อนวันที่ประกาศหรือคำสั่งนั้นๆ สิ้นผลใช้บังคับ ให้การกระทำชอบด้วยรัฐธรรมนูญ โดยให้คำสั่งนี้มีผลตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 9 ก.ค. พ.ศ.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บัญชีหนึ่งท้ายคำสั่งดังกล่าวประกอบด้วย ประกาศ คสช. อาทิ เรื่องขอความร่วมมือจากสื่อสังคมออนไลน์, เรื่องการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต, เรื่องห้ามบุคคลเดินทาง ออกนอกราชอาณาจักร, เรื่องการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีวิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบแอนาล็อกและสถานีวิทยุกระจายเสียง 
    เรื่องระงับการออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและสถานีวิทยุกระจายเสียง ที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ, เรื่องการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลและระบบผ่านดาวเทียม,  เรื่องการออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ 
    เรื่องการให้ความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ คำสั่ง คสช. อาทิ เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้   เรื่องการระงับการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุ กระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม คำสั่งหัวหน้า คสช. อาทิ เรื่องการแก้ไขปัญหาการกำกับดูแลและพัฒนาการบินพลเรือนของประเทศไทย.