"จ่านิว" กลับบ้านแล้ว
    จะเคลื่อนไหวต่อหรือไม่ อยู่ระหว่างการตัดสินใจ
    แต่คนที่เคลื่อนไหวแน่ๆ คือ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ"
    วันนี้ (๘ กรกฎาคม) "ธนาธร" ต้องไปศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนี้น่าจะเข้าข่ายปากกล้าขาสั่น อ้างว่ามีหลักฐานเป็นลังๆ พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ทุกเมื่อ แต่สุดท้าย....เข้าชี้แจงกับศาลในวันสุดท้าย
    และยังเป็นวันสุดท้ายของการขอขยายเวลาอีกต่างหาก
    กระบวนการในศาลรัฐธรรมนูญหลังจากนี้จะดำเนินไปอีกสักพัก ส่วนคำวินิจฉัยว่า "ธนาธร" ทิ้งหุ้นสื่อก่อนหรือหลังสมัครรับเลือกตั้งนั้น รอฟังศาลรัฐธรรมนูญอย่างเดียว 
    แต่ที่ไม่ต้องรอเพราะพูดไปแล้ว นั่นคือ การท้าทายศาลรัฐธรรมนูญของ "ธนาธร"
    "ถ้าทุกคนรอดหมด ผมผิดคนเดียว ก็จะทำให้ประชาชนตาสว่าง เห็นองคาพยพในสังคมว่า องค์กรไหนหนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช." 
    สำนวนคุ้นๆ แบบนี้ ในอดีตเราเคยได้ยินมาก่อน ไม่ใช่อื่นไกล "ทักษิณ ชินวัตร" นั่นเอง
    หากไม่ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการก็พร้อมที่จะข่มขู่!
    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ "ธนาธร" ข่มขู่การตรวจสอบ
    "ผมก็มีข้อมูลผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ กับประชาธิปัตย์ ที่เข้าข่ายกรณีแบบนี้อยู่เหมือนกัน ถ้าแบบนี้ยุบพรรค ก็ต้องยุบทุกพรรค เราก็จะฟ้องผู้สมัคร พปชร.ในเคสเดียวกันด้วยเหมือนกัน"
    "ธนาธร" พูดไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
    มันคือตรรกะเอ็งชั่วข้าเลว 
    อนาคตข้างหน้านักการเมืองอย่าง "ธนาธร" จะสร้างปัญหาให้ประเทศไม่ต่างจากที่ "ทักษิณ" ทำมา หรืออาจมากกว่า!
    ไม่ใช่อนาคตใหม่ของประเทศแต่อย่างใด
    "ธนาธร" ยึดตรรกะว่าตัวเองแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้เท่ากับอีกฝ่ายเลว   
    และยกตนเยี่ยงเทวดา คือผู้ที่ไม่เคยทำผิดเลย 
    คนที่มีทัศนคติเช่นนี้ไม่ควรมาเล่นการเมืองตั้งแต่แรกเริ่ม 
    การบอกว่าหากตัวเองแพ้ในศาลเท่ากับ ศาลรัฐธรรมนูญ คือองค์กรหนึ่งที่หนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. เป็นการเบี่ยงประเด็นจากเรื่องคุณสมบัติการสมัคร ส.ส. ไปเป็นการต่อต้าน คสช.
    ซึ่งมันคนละเรื่องกัน
    รายละเอียดการถือหุ้นสื่อ การจดทะเบียนบริษัทสื่อ การทำธุรกิจสื่อของ "ธนาธร" นั้น แตกต่างจาก ส.ส.รายอื่นมาก 
    มากเสียจนไม่อาจนำมาเทียบว่า ถ้าคนอื่นถูกตัวเองต้องถูกด้วย 
    นักการเมืองนอกจากต้องซื่อตรงต่อประชาชนแล้ว ต้องซื่อสัตย์กับตนเองด้วย 
    รัฐธรรมนูญกำหนดห้าม ส.ส.มีสื่อไว้ในครอบครอง จึงมีบทบัญญัติห้ามผู้สมัคร ส.ส.เป็นเจ้าของสื่อ
    "ธนาธร" ต้องถามตัวเองว่า วันนี้ปลดเปลื้องความเป็นเจ้าของสื่อ ไม่ว่าจะทางนิตินัยหรือพฤตินัยไปหมดหรือยัง
    ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ แม่ เมีย คนในครอบครัว ยังมีใครไปประชุมกรรมการบริษัทสื่ออยู่หรือไม่ 
    นักการเมืองที่ดี ต้องปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ นอกจากตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับสื่อแล้ว  คนในครอบครัวใกล้ชิดก็ควรจะถอยให้ห่าง
    หากยังใช้ช่องว่างหลบเลี่ยง ใช้นอมินีถือหุ้นเป็นเจ้าของแทน เหมือนนักการเมืองเลวๆ ทำในอดีต
    คุณก็แค่นักการเมืองกากๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง.