เมียระแวงผัวซึ่งอยู่คนละบ้านพากิ๊กมานอนค้าง รอจนดึกขี่ จยย.มาแอบดู ระหว่างปีนหน้าต่างทำผัวตื่นและคิดว่าเป็นคนร้ายเพราะตัวเองเป็นอาสาตำรวจ ยิงปืนสวนไป 1 นัดถูกเมียตายอนาถ ถึงเข่าอ่อนเข้ามอบตัว
    เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รอง ผกก.สส.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สอบปากคำนายขจรศักดิ์ นวลพูล หรือ “อส.ตร.กุ้ง" อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 305/1 หมู่ 2 ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.มลฑาทิพย์ เรืองทอง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/12 ซอยหัวหลาง แยก 1 ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นภรรยา หลังจากยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. กระสุนเจาะเข้าหน้าท้อง 1 นัด อาการสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าต่างข้างบ้านเลขที่ 43 ถนนมุมป้อม ต.ในเมือง อ.เมือง เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. หลังเกิดเหตุหน่วยกู้ภัยรีบนำร่าง น.ส.มลฑาทิพย์ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา 
    หลังเกิดเหตุ นายขจรศักดิ์ หรือ อส.ตร.กุ้ง ได้เดินทางนำอาวุธปืนเข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยนายขจรศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยกล่าวว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่าภรรยา แต่คิดว่าเป็นคนร้ายบุกงัดบ้านหวังทำร้ายตน หลังสอบปากคำเสร็จ ทางญาติๆ ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ให้ประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวเองและรับสารภาพ สำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำ 
    นายขจรศักดิ์ หรือ อส.ตร.กุ้ง ให้การว่า มีอาชีพช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ โดยเช่าบ้านที่เกิดเหตุเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ช่วยเหลือสังคม เป็น อส.ตร. สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่ผ่านมาตนออกตรวจร่วมกับตำรวจ ทั้งกวาดล้างและจับกุมผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก ทั้งคดียาเสพติด คดีอาวุธปืน ซึ่งบ้านเกิดเหตุตนอาศัยเพียงคนเดียว ส่วนภรรยาและลูกอาศัยบ้านอีกหลังภายในซอยหัวหลาง ก่อนเกิดเหตุตนกลับจากออกตรวจความสงบในเขตเมืองร่วมกับตำรวจ และกลับเข้าบ้านช่วงเที่ยงคืน กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ขณะนอนหลับอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขี่มาจอดข้างบ้าน และมีเสียงผิดปกติบริเวณหน้าต่างคล้ายคนกำลังงัด เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่กี่วันตนร่วมกับตำรวจจับผู้ต้องหาคดีพกอาวุธปืน และผู้ต้องหารายนี้กล่าวอาฆาตข่มขู่ตน ตั้งแต่นั้นมาช่วงกลางดึกที่บ้านของตนจะถูกคนร้ายไม่ทราบเป็นใครขวางปาก้อนหิน ขวดเบียร์ใส่บ้านแล้วหลายครั้ง หลังจากนั้นตนเริ่มระวังตัวมากขึ้น 
    นายขจรศักดิ์ยอมรับด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ภรรยาก็เกิดความระแวงว่าตนแอบคบหาสาวคนใหม่ คาดว่าก่อนเกิดเหตุภรรยาอาจแอบขี่รถจักรยานยนต์พร้อมสวมหมวกกันน็อกมาจอดข้างบ้าน แล้วปีนขึ้นบนรถจักรยานยนต์มองผ่านทางช่องลมกำแพง และพยายามเปิดหน้าต่างดูว่าตนอยู่กับหญิงสาวหรือไม่ ตอนนั้นตนคิดว่าเป็นคนร้าย จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ไปที่หน้าต่างบ้าน 1 นัด สิ้นเสียงปืนได้ยินเสียงของภรรยาร้องขึ้นมาว่า “กูเองนิกุ้ง" ตนจึงรีบวิ่งเปิดประตูบ้านออกมาและพบภรรยาถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงรีบแจ้งขอความช่วยเหลือหน่วยกู้ภัย นำภรรยาส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงเดินทางเข้ามอบตัว รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะตนรักภรรยามาก เนื่องจากภรรยาดูแลลูกทั้ง 2 คนของตนที่เกิดกับภรรยาเก่าที่เสียชีวิตไปหลายปีก่อนเป็นอย่างดี 
    ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ พบเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ตั้งอยู่ริมถนนมุมป้อม ตรวจสอบบริเวณหน้าต่างข้างบ้านพบร่องรอยกระสุนเจาะทะลุจำนวน 1 รู ในขณะที่ชาวบ้านละแวกที่เกิดเหตุได้ให้ข้อมูลว่า นายขจรศักดิ์ ผู้ต้องหา เป็นคนดี ขยันทำมาหากิน และเป็น อส.ตร. สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่ผ่านมาทราบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถวนเวียนที่บ้าน และขวางปาก้อนหิน ขวดเบียร์ เข้ามาในบริเวณบ้านหลายครั้ง เพื่อหวังข่มขู่ เนื่องจากนายขจรศักดิ์ร่วมกับตำรวจจับกุมคนร้ายมาแล้วหลายราย ชาวบ้านรู้สึกสงสาร เห็นใจ และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น.