5 ก.ค.62 - สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า กรณีการถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2562 สื่อมวลหลายสำนักรายงานตรงกันว่า นายธนาธรให้สัมภาษณ์ว่า ไม่กังวลว่ากันไปตามกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้า ส.ส.คนอื่นไม่ถูกตัดสินว่าผิด เพราะแค่จดทะเบียน ไม่ได้ทำสื่อจริง ของตนคือนายธนาธรก็ไม่ผิด บริษัทที่ตนถือหุ้นสื่ออยู่หยุดทำสื่อ ไม่มีพนักงาน เลิกจ้างเตรียมปิดบริษัทตั้งแต่ 25 พ.ย.61 แล้ว
“แต่ถ้าทุกคนรอดหมด ผมผิดคนเดียวก็จะทำให้ประชาชนตาสว่าง เห็นองคาพยพในสังคมว่า องค์กรไหนหนุนการสืบทอดอำนาจของคสช.” (อ้างอิงข่าวจาก https://www.thaipost.net/main/detail/40015)
โดยข้อเท็จจริงแล้ว การถือหุ้นสื่อของนายธนาธร กับ การถือหุ้นสื่อของ ส.ส.อื่นที่ถูกร้องเรียน มีข้อเท็จจริงที่ เหมือนหรือต่างกัน หรือไม่ อย่างไร? สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปข้อมูลเชิงเปรียบเทียบให้เห็นดังนี้
กรณีนายธนาธรถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด
1.วัตถุประสงค์ตามที่ระบุในบริคณห์สนธิ
บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด แจ้งวัตถุที่ประสงค์ 31 ข้อ แบ่งเป็นวัตถุที่ประสงค์ทั่วไป 6 ข้อ (ข้อ 1-ข้อ 6) วัตถุที่ประสงค์ประกอบธุรกิจบริการ 25 ข้อ (ข้อ 7-ข้อ 31) ข้อที่เกี่ยวข้องกับการรทำสื่อมี 4 ข้อ ได้แก่
ข้อ (23) ประกอบกิจการออกหนังสือพิมพ์ โรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย
ข้อ (25) ประกอบกิจการโฆษณาด้วยสื่อการโฆษณาทุกอย่าง เช่น โฆษณาในหนังสือพิมพ์ แผ่นป้ายโฆษณา สิ่งพิมพ์ ใบปลิว กระจายเสียงผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ โทรเลข เคเบิลทีวี โทรสาร การสื่อสารด้วยระบบดาวเทียม และสื่ออื่นใด
ข้อ (26) รับออกแบบโฆษณา พิมพ์ภาพหรือแบบโฆษณา รับทำการโฆษณาด้วยภาพหรือทางเสียง
ข้อ (31) ประกอบกิจการให้บริการ ดำเนินการและส่งเสริมบริการระบบเครือข่ายโทรคมนาคมในประเทศ ระหว่างประเทศ รวมถึงระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายโทรคมนาคมอื่นๆ รวมทั้งผลิตเว็บเพจ โฮมเพจ เว็บไซต์ ข้อมูลข่าวสารและสื่อต่างๆ เพื่อเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ทั้งนี้ โดยได้รับสิทธิหรืออนุญาตจากส่วนราชการ รัฐวิสหกิจหรือบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ แบบ สสช.1 หรือ แบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนบริษัท ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับที่ 83 (พ.ศ.2515) ยื่นต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท เมื่อวันที่ 10 ม.ค.25551 หมวดกิจกรรม ระบุ การขายส่ง การขายปลีก และอื่นๆ
2.งบการเงิน บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด นำส่งงบกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2560
ปี 2560 รายได้จากการขายและบริการ 18,536,225.33 บาท รายได้อื่น 290,175.73 บาท รายได้รวม 18,826,401.06 บาท ก่อนน้านี้ ปี 2559 มีรายได้จากกการขายและบริการ 38,456,452.26 บาท รายได้อื่น 558,902.64 บาท รวมรายได้ 39,015,354.90 บาท ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.2560
ข้อ 1 ข้อมูลทั่วไป ระบุ “ประกอบธุรกิจผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม”
ข้อ 3 นโยบายการบัญชีที่สำคัญ “ข้อ 3.1 การรับรู้รายได้และค่าใช้จ่าย บริษัทบันทึกการรับรู้รายได้จากการขายนิตยสารเมื่อผู้รับฝากขาย ขายนิตยสารได้แล้ว บริษัทบันทึกรับรู้รายได้ค่าโฆษณา ค่าสมาชิก รายได้อื่น และค่าใช้จ่ายตามเกณฑ์คงค้าง
3.สถานะของบริษัทฯ
จดทะเบียนก่อตั้งวันที่ จดทะเบียนจัดตั้งวันที่ 10 ม.ค. 2551 ในชื่อ บริษัท โซลิดมีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเลิกกิจการ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2562
จากเท็จจริง 3 ข้อดังกล่าว สรุปได้ว่า บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ประกอบธุรกิจทำกิจการสื่อจริง และ มีรายได้มาจากการขายสื่อ เพิ่งจดทะเบียนเลิกกิจการเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากนายธนาธรสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อ 8 ก.พ.2562 และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. 8 พ.ค.2562
เทียบกับคดีถือหุ้นสื่อรายอื่นๆ 65 คน อยู่ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ 32 คน (พรรครัฐบาล) อยูในชั้นพิจารณาของประธานสภาผู้แทนราษฎร 33 คน (พรรคฝ่ายค้าน) ยังไม่ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ ขอยกมาเป็นตัวอย่าง 6 ราย
คดีที่อยู่ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ
1.คดีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ถือครองหุ้น บริษัท แปซิฟิค เอ็กซ์คลูซิฟ ซิตี้ คลับ จำกัด บริษัทนี้จดทะเบียนวันที่ 11 ต.ค. 2555 ทุน 70 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 142 อาคารทูแปซิฟิคเพลส ชั้น 11,12,28,29,30 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร บริคณห์สนธิแจ้งรายละเอียดวัตถุที่ประสงค์ 43 ข้อ ระบุ ข้อ (19) ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์ ,ข้อ (37) ประกอบกิจการจัดเก็บ รวบรวม จัดทำ จัดพิมพ์และเผยแพร่สถิติ ข้อมูล ในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การเงิน การตลาดรวมทั้งวิเคราะห์และประเมินผลในการดำเนินธุรกิจ,ข้อ (43) ประกอบกิจการสปา สปาเพื่อสุขภาพ ในแบบ สสช.1 ระบุสินค้าและบริการที่ประกอบการ จำนวน 1 ข้อ 1.ประกอบกิจการเมมเบอร์คลับ ขายอาหาร สถานบริหารร่างกายและฝึกสอนการเล่นกีฬาทุกชนิด (ดูเอกสาร)
2.คดีนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ถือครองหุ้นบริษัท พี.ที.รุ่งเรืองคอนกรีต จำกัดบริษัทนี้จดทะเบียนวันที่ 13 ต.ค. 2537 ทุน 3 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 8/9 หมู่ที่ 2 ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง บริคณห์สนธิแจ้งรายละเอียดวัตถุที่ประสงค์ 41 ข้อ ระบุ ข้อ (19) ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์ ข้อ (37) ประกอบกิจการบริการจัดเก็บ รวบรวม จัดทำ จัดพิมพ์และเผยแพร่สถิติ ข้อมูล ในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การเงิน การตลาดรวมทั้งวิเคราะห์และประเมินผลในการดำเนินธุรกิจ, ข้อ (41) ประกอบกิจการค้าขายปูนผสมสำเร็จ และอุปกรณ์ก่อสร้างทุกชนิด ในแบบ สสช.1 ระบุสินค้าและบริการที่ประกอบการ 2 ข้อ 1.ประกอบกิจการโรงงานผลิตคอนกรีตผสมสำเร็จ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตทุกประเภท 2.ประกอบกิจการค้าขายปูนผสมสำเร็จ และอุปกรณ์ก่อสร้างทุกชนิด
3.คดีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา ถือครองหุ้นบริษัท เอส.ซี.เค.แลนด์ จำกัด บริษัทนี้จดทะเบียนวันที่ 23 ก.พ. 2537 ทุน 30 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 102 หมู่ที่ 9 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร บริคณห์สนธิแจ้งรายละเอียดวัตถุที่ประสงค์ 41 ข้อ ระบุ ข้อ (19) ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์ , ข้อ (37) ประกอบกิจการบริการจัดเก็บ รวบรวม จัดทำ จัดพิมพ์และเผยแพร่สถิติ ข้อมูล ในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การเงิน การตลาดรวมทั้งวิเคราะห์และประเมินผลในการดำเนินธุรกิจ ,ข้อ 41 ประกอบกิจการค้าอสังหาริมทรัพย์ ไม่ปรากฎ แบบ สสช.1
คดีที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านถูกยื่นให้ตรวจสอบถือหุ้นสื่อขณะนี้อยู่ในชั้นพิจารณาของประธานสภาผู้แทนราษฎร
1.พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ถือครองหุ้นบริษัท ชายนิ่งสตาร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัดบริษัทนี้จดทะเบียนวันที่ 30 ส.ค. 2559 ทุน 2 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 22 ซอยเพชรเกษม 24 แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร มีผู้ถือหุ้น 3 คน นายพงศกร รอดชมภู ถือ 10,200 หุ้น (51%) แจ้งวัตถุที่ประสงค์ 43 ข้อ ข้อ (19) ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์ ข้อ (42) ประกอบกิจการการพัฒนาธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจทางด้านอินเตอร์เน็ต ถ่ายทอดความรู้และรับจัดอบรม จัดโปรแกรมแลกเปลี่ยนความรู้ด้านธุรกิจสื่อและการแสดง (โดยมิใช่ธุรกิจตลาดแบบตรงและขายตรง) ในแบบ สสช.1 ระบุสินค้าและบริการที่ประกอบการ 2 ข้อ ข้อ 1. บริการดำเนินการภาคอุตสาหกรรม การทำโครงการสร้างสะพานเชื่อมทางน้ำ รับบริหารจัดการนำทั้งหมด ข้อ 2. บริการด้านการพัฒนาธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจทางด้านอินเตอร์เน็ต ถ่ายทอดความรู้และรับจัดอบรม
2.นางลินดา เชิดชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ ถือครองหุ้นบริษัท เอ ครีเอทีฟ จำกัด
บริษัท เอ ครีเอทีฟ จำกัด เดิมชื่อ บริษัท ซีซีมอร์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 12 มิ.ย. 2557 ทุน 1 ล้านบาท ที่ตั้งสำนักงานเลขที่ 211 ซอยสำโรงจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นางลินดา เชิดชัย 3,000 หุ้น แจ้งวัตถุที่ประสงค์ 45 ข้อ ข้อ (23) ประกอบกิจการรับจัดสื่อโฆษณาทั้งทางสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ ตลอดทั้งจัดทำในรูปแบบแผ่นปลิว แผ่นพับ ,ข้อ (40) ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์,ข้อ (45) ประกอบกิจการรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด โฆษณาสินค้า แสดงสินค้า และกิจกรรมอื่นๆ ตลอดจนรับจ้างถ่ายทำภาพยนตร์ วิดิโอให้แก่บุคคล คณะบุคคล ส่วนราชการและองค์กรรัฐ ในแบบ สสช.1 ระบุสินค้าและบริการที่ประกอบการ 2 ข้อ ข้อ 1 ประกอบกิจการรับจัดสื่อโฆษณาทั้งทางสถานีวิทยุ,โทรทัศน์ตลอดทั้งจัดทำในรูปแบบแผ่นปลิวแผ่นพับ ข้อ 2 ประกอบกิจการรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด โฆษณาสินค้า แสดงสินค้า และกิจกรรมอื่นๆ
3.น.ส.พัชนี เพ็ชรจินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย ถือครองหุ้นบริษัท มัลติมีเดีย แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด บริษัทนี้ จดทะเบียนวันที่ 20 มี.ค. 2545 ทุน 1 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 88/8 หมู่ที่ 7 ชั้น 4 ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ณ วันที่ 21 ม.ค. 2562 น.ส.พัชนี เพ็ชร์จินดา ถือ 8,000 หุ้น (80%)
แจ้งวัตถุที่ประสงค์ 24 ข้อ ข้อ (23) รับปรึกษา เตรียมงาน กิจกรรมด้านต่างๆ ข้อ (24) รับจัดทำโฆษณากิจกรรมการตลาด ในแบบ สสช.1 ระบุสินค้าและบริการที่ประกอบการ 2 ข้อ ข้อ 1 รับปรึกษา เตรียมงาน กิจกรรมด้านต้างๆ 2 รับจัดทำโฆษณากิจกรรมการตลาด
จากข้อมูลทั้ง 6 ราย เห็นได้ว่าคดีถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนายธนาธร มีข้อเท็จจริงต่างกับคดีถือหุ้นสื่อของ ส.ส.หลายคน ที่อยู่ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ และ อยูในชั้นพิจารณาของประธานสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนกรณีอ้างว่า บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด “หยุดทำสื่อ ไม่มีพนักงาน เลิกจ้างเตรียมปิดบริษัทตั้งแต่ 25 พ.ย.61 แล้ว” ประเด็นนี้ยกไปเทียบเคียงกับคดีผู้สมัคร ส.ส. 3 ราย ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำพิพากษาไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้แก่
1.คดีนายอนุสรณ์ เกษมวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 1 กรุงเทพฯ พรรคชาติพัฒนา เจ้าของหนังสือพิมพ์ สื่อกลางสภาไทย (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1228/2562 วันที่ 7 มี.ค. 2562 )
2.คดีนายสุวัฒน์ชัย สวัสดี ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดนครราชสีมา เขต 1 พรรคความหวังใหม่ เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ โคราชการเมือง (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 1220/2562 วันที่ 8 มี.ค.2562)
และ 3. คดีนายทวีป ขวัญบุรี ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ระยอง พรรคพลังประชารัฐ เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สื่อกลางรายวัน (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 1111/2562 วันที่ 8 มี.ค.2562)
ทั้งสามคนรับว่า เป็นเจ้าของจริง อ้างว่าหยุดตีพิมพ์มาก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว แต่ไม่ได้จดทะเบียนยกเลิกต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วันตามพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเมื่อยังไม่ได้จดทะเบียนยกเลิกการเป้นเจ้าของ ตามพระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ภายใน 30 วัน ต้องถือว่ายังเป็นเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ จึงเป็นบุคคลอันมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช่สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.
ยังมี คดีนายติณณ์ ศรีงาม ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กำแพงเพชร เขตเลือกตั้งที่ 2 พรรคอนาคตใหม่ เจ้าของหนังสือพิมพ์สื่อ ศิลป์เมืองกําแพง อ้างว่า จดทะเบียนเลิกกิจการพิมพ์แล้วเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2562 ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเห็นว่า การจดทะเบียนเลิกกิจการ เกิดขึ้นหลังจากนายติณณ์ ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แล้ว จึงต้องถือว่าในวันที่นายติณณ์ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ยังเป็นเจ้าของกิจการ จึงเป็นบุคคลอันมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 1064/2562 วันที่ 4 มี.ค.2562)
นอกจากนี้ คดีนายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.สกลนคร พรรคอนาคตใหม่เจ้าของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส ซึ่งมีวัตถุประสงค์ 2 ข้อที่เกี่ยวข้องกับสื่อ คือ ประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียง และโทรทัศน์ และออกหนังสือพิมพ์ อ้างเหตุผลข้อหนึ่งว่า หจก. มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง ฯ สิ้นสภาพนิติบุคคล โดยจดทะเบียนยกเลิกห้างฯ ไปตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.2562 แล้ว ศาลฎีกาฯวินิจฉัยว่า เป็นระยะเวลาหลังจาก ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แล้ว จึงต้องถือว่า ในวันที่นายภูเบศวร์ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ยังเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้น ในกิจการหนังสือพิมพ์หรือ สื่อมวลชน จึงเป็นบุคคลอันมีลักษณะ ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2562 วันที่ 19 มี.ค.2562 ) (อ่านเรื่องประกอบ:ชำแหละ 10 คดีผู้สมัคร ส.ส. ถือหุ้นสื่อ เทียบ ‘ภูเบศวร์ - คมสัน’)
เห็นได้ว่าข้ออ้างนี้ศาลฎีกามีแนววินิจฉัยในประเด็นนี้ไว้แล้วซึ่งอาจแตกต่างจากศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ตามที่นายธนาธรอ้างว่า "บริษัทที่ตนถือหุ้นสื่ออยู่หยุดทำสื่อ ไม่มีพนักงาน เลิกจ้างเตรียมปิดบริษัทตั้งแต่ 25 พ.ย.61 แล้ว" ประเด็นนี้นายธนาธรยอมรับข้อเท็จจริงแล้วใช่ไหมว่า ‘ถือหุ้น วี-ลัค มีเดีย’? หลังจากก่อนหน้านี้อ้างว่าโอน (ขาย) ให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2562
บรรทัดสุดท้าย รอดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามคำกล่าวของนายธนาธรหรือไม่? อ่านต้นฉบับ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |