5 ก.ค.62 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้มอบอำนาจให้ทนายความเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
กรณีเมื่อวันที่ 13 พ.ค 2562 เวลากลางวัน จำเลยได้กระทำผิดต่อกฎหมาย ด้วยการแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนและประชาชนทั่วประเทศตอนหนึ่งว่า "การต่อสู้ทางการเมืองครั้งนี้อาจมองในแง่หนึ่งได้ว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายเอาสถาบันกับไม่เอาสถาบัน ดังนั้นสมาชิกพรรคของเรา จะมีมติให้เราเลือกข้างที่รักษาสถาบัน โดยพรรคพลังธรรมใหม่จึงต้องประกาศจุดยืนตามเสียงข้างมากของสมาชิกพรรคทั่วประเทศที่จะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในการจัดตั้งรัฐบาล"
ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว พรรคการเมืองของโจทก์และพรรคการเมืองอื่นๆ รวม 7 พรรค ร่วมกันแถลง เพื่อแสดงจุดยืนทางการเมือง เป็นแนวร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่สืบทอดอำนาจโดยมีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไปอีก โดยโจทก์และกลุ่ม 7 พรรคการเมืองเรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย ได้กล่าวอยู่เสมอว่าเป็นฝ่ายที่ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่เคยนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในการหาเสียงตามที่ถูกกล่าวหาให้ร้ายจากพรรคการเมืองอื่น แต่จำเลยพยายามเอาใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเหตุคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) คำนวณให้จำเลยได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งๆ ที่จำเลยมีคะแนนเพียง 35,099 คะแนน ต่ำกว่าคะแนนที่พึงมี 71,065 คะแนนเสียอีก ด้วยการใส่ร้ายโจทก์และพรรคการเมืองอื่นๆ ว่า "เป็นฝ่ายไม่เอาสถาบัน"
ทั้งนี้คำว่าไม่เอาสถาบันนั้นเมื่อนำมาใช้กับความหมายรวมกับข้อความทั้งหมดที่จำเลยกล่าวมีความหมายในลักษณะแบ่งพวกแบ่งฝ่าย ทางการเมือง มีเพียงความเห็นความหมายเดียวคือไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น
ข้อความที่จำเลยกล่าวทั้งหมดย่อมหมายความว่า เหตุที่จำเลยและสมาชิกพรรคของจำเลยไม่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับโจทก์และพรรคการเมืองอื่นๆ รวม 7 พรรค แต่ไปเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐนั้น เนื่องจากโจทก์เป็นหนึ่งในพรรคการเมือง 7 พรรคที่เป็นฝ่ายไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ คิดที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น เพราะความจริงแล้วโจทก์และสมาชิกพรรคทุกคนมีความจงรักภักดีเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศไทยดังนั้นประชาชนชาวไทยจึงมีหน้าที่ต้องปกป้องรักษาไม่ให้บุคคลใดมาล้มล้างทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
ข้อความที่จำเลยกล่าวจึงทำให้โจทก์และสมาชิกพรรคโจทก์ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทำให้ประชาชนทั่วไปในสังคมเข้าใจว่าโจทก์เป็นพรรคการเมืองที่ไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่เทิดทูนและไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
การกระทำของจำเลยจึงเป็นการหมิ่นประมาทโจทท์ด้วยการโฆษณา โจทก์จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาล ออกหมายเรียกจำเลยมาแก้ต่างคดีและพิพากษาลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 ด้วย
ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ อ.1729/2562 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 26 ส.ค. นี้ เวลา 9.00 น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |