4 ก.ค.62 - ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีก่อตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก สาขา 2 World Peace University (WPU) สำนวนที่ 3 คดีหมายเลขดำ อ.513/2561 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายศุภณัฐ ดอนจันทร์ อายุ 56 ปี อธิการบดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก WPU สาขา 2, นายเรวัตร์ ชาตรีวิศิษฏ์ อายุ 67 ปี นายกสภามหาวิทยาลัยฯ และนายเอนก หิรัญรักษ์ อายุ 80 ปี นายกสภากิตติมศักดิ์ประเภทสภาวิชาการ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน ร่วมกันจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่ามีหน้าที่ในการจัดการศึกษาระดับปริญญา อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 มาตรา 9, 10, 104, 121
คำฟ้องโจทก์ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ.- 21 ก.ค. 2556 จำเลยที่ 1-3 ร่วมกันจัดตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก 2 ตั้งอยู่ที่ 2991/19 โครงการวิสุทธานี ซ.ลาดพร้าว 101/3 ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจำเลยทั้งสามร่วมกันจัดการศึกษาระดับปริญญาโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำด้วยประการใดๆ ให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าตนมีอำนาจหน้าที่ในการจัดการศึกษาระดับปริญญา โดยการดำเนินการจัดตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก 2 จำเลยทั้งสามร่วมให้มีแต่งตั้งตำแหน่งทางวิชาการและตำแหน่งทางการบริหารในลักษณะเดียว กับมหาวิทยาลัยที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมาย กำหนดหลักสูตรการเรียนการสอน การมอบปริญญาชั้นต่างๆ และตำแหน่งทางวิชาการ ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่ามหาวิทยาลัยสันติภาพโลก 2 มีการจัดตั้งขึ้นโดยถูกต้องทั้งที่ความจริงแล้ว จำเลยทั้งสามไม่ได้รับอนุญาตให้จัดการศึกษาระดับปริญญาตามกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โดยจำเลยที่ 1-3 ต่อสู้คดีและให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ ในส่วนของนายศุภณัฐและนายเรวัตร์ จำเลยที่ 1-2 นั้น นอกจากคดีนี้ก็มีคดีที่ศาลลงโทษร่วมกันจัดตั้ง ม.สันติภาพโลกสำนวนแรก จำคุกคนละ 10 ปีซึ่งคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์โดยทั้งสองก็ได้รับการประกันตัว ก็เดินทางมาศาลในวันนี้ ส่วนนายเอนก จำเลยที่ 3 ที่ได้รับการประกันตัวชั้นพิจารณาก็เดินทางมาพร้อมฟังคำพิพากษาเช่นกัน ขณะที่มีบุคคลใกล้ชิดและญาติสนิทมาติดตามให้กำลังใจ 4-5 คน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า โจทก์มีนิติกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นพยานโจทก์เบิกความเกี่ยวกับการตรวจสอบการจัดตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก 2 พบว่าไม่มีการเรียนการสอน ไม่มีสถานที่ตั้ง การมอบปริญญาบัตรโดย ม.สันติภาพโลก มีการลงประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ลักษณะมีการเรียนการสอนและมอบปริญญาบัตร ขณะที่จำเลยทั้งสามได้ร่วมในการมอบปริญญาบัตรด้วย ซึ่งเจือสมกับพยานต่างๆ แสดงว่าจำเลยย่อมต้องรู้หรือควรรู้การดำเนินการดังกล่าวที่ไม่ชอบนั้น
พิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิด ตาม พ.ร.บ.อุดมศึกษาเอกชนฯ มาตรา 10,104,121 ให้จำคุกคนละ 6 เดือน ฐานร่วมกันจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้ปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงิน 60,000 บาท กับจำคุกอีกคนละ 6 เดือน ฐานร่วมกันทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่ามีหน้าที่ในการจัดการศึกษาระดับปริญญา โดยปรับจำเลยที่ 3 อีก 60,000 บาท รวมจำคุกจำเลยคนละ 12 เดือน และปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงินทั้งสิ้น 120,000 บาท ซึ่งคำให้การในชั้นสอบสวนและคำเบิกความชั้นศาลของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง เห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 จึงจำคุกจำเลยคนละ 8 เดือน และปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงินทั้งสิ้น 80,000 บาท
ในส่วนของจำเลยที่ 3 พิเคราะห์แล้วเห็นว่าไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ประกอบกับจำเลยที 3 มีอายุมาก และเคยประกอบคุณงามความดีอันเป็นประโยชน์แก่สังคม จึงเห็นสมควรให้รอการลงโทษไว้เป็นเวลา 1 ปี หากไม่ชำระค่าปรับให้ดำเนินการกักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 โดยให้นับโทษของนายศุภณัฐ อธิการบดี WPU 2 จำเลยที่ 1 และนายเรวัตร์ นายกสภามหาวิทยาลัยฯ จำเลยที่ 2 ต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.3414/2560 ด้วย (คดีก่อตั้ง ม.สันติภาพโลก ที่เชียงใหม่ สำนวนแรกหมายเลขแดง อ.1036/2562 อยู่ระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2562 ให้จำคุก 10 ปี)
ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษนายเรวัตร์ นายกสภามหาวิทยาลัยฯ ต่อจากคดีหมายเลขแดง อ.1202/2562 (คดีก่อตั้ง ม.สันติภาพโลกปากีสถาน World Peace Academy Cyber U Pakistan (WPACU) ที่ จ.สมุทรปราการ สำนวนที่ 2 หมายเลขดำ อ.514/2562) นั้น ปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายเรวัตร์ จึงไม่อาจนับโทษต่อได้
ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว นายศุภณัฐและนายเรวัตร์ จำเลยที่ 1-2 ที่ศาลลงโทษให้จำคุก 8 เดือนนั้น ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เดิม 100,000 บาทขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี ส่วนนายเอนก จำเลยที่ 3 ที่ศาลให้รอการลงโทษไว้โดยสั่งปรับเงิน 80,000 บาทนั้น ก็ได้ชำระค่าปรับตามคำพิพากษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีกล่าวหาก่อตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกนั้น ศาลมีคำพิพากษาแล้วรวม 3 สำนวน สำนวนแรกก่อตั้ง ม.สันติภาพโลก แห่งแรกที่เชียงใหม่ คดีหมายเลขดำ อ.3414/2560 อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง นายสวัสดิ์ บรรเทิงสุข อธิการบดีผู้ก่อตั้ง WPU ที่เชียงใหม่, นายศุภณัฐ อธิการบดี WPU 2, นายเรวัตร์ นายกสภามหาวิทยาลัย WPU, นางวรางคณา เผ่าวงศา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ใน จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ช่วยนายสวัสดิ์ ดูแลเรื่องการเงิน, นายมาณพ ภาษิตวิไลธรรม กรรมการบริหารมหาวิทยาลัย, นายนาวิน พรมใจสา นายทะเบียนมหาวิทยาลัยคนที่ 2, นายศุภชัย ขจรศิริภักดี อธก.WPU สาขานนทบุรี, นายนิยม ป้องคำสิงห์ อธก.WPU สาขาภาคตะวันเฉียงเหนือตอนล่างและประธานฝ่ายนิติกร WPU และนางวัชราพร ป้องคำสิงห์ เป็นผู้ช่วยนายนิยมและดูแลการเงินมหาวิทยาลัยสาขาใน จ.ขอนแก่น เป็นจำเลยที่ 1- 9 ซึ่งศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2562 ให้จำคุกจำเลยทั้ง 9 คนละ 10 ปี และให้ร่วมกันชดใช้ ค่าเสียหายกับผู้ได้รับใบปริญญา ซึ่งเป็นผู้เสียหายแต่ละรายตามจำนวนของแต่ละคนด้วย (คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ จำเลยที่ 1-6 ประกันตัวคนละ 1 ล้านบาท)
ส่วนสำนวนที่ 2 ก่อตั้ง ม.สันติภาพโลกปากีสถาน WPACU ที่.สมุทรปราการ คดีหมายเลขดำ อ.3414/2560 อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง นางประภาจิต ศรีสว่างพัฒนา ซึ่งมีสามีชาวปากีสถาน ที่ติดต่อขอจัดตั้งมหาวิทยาลัยดังกล่าวในประเทศไทย และนายเรวัตร์ เป็นจำเลยที่ 1-2 โดยศาลอาญา มีคำพิพากษาวันที่ 14 พ.ค. 2562 ให้จำคุกนางประภาจิต จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี 12 เดือนและปรับ 1.2 แสนบาท ตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาฯ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกีบคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงสมควรให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ส่วนนายเรวัตร์ จำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |