ถือเป็นข่าวที่สร้างความโกลาหลไม่น้อย กรณีที่มีกระแสข่าวทุบทำลายรถเมล์เอ็นจีวี หรือโครงการจัดหารถโดยสารประจำทางที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (รถเมล์เอ็นจีวี) ให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 489 คัน วงเงิน 4,261 ล้านบาท ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือบี 5 และซี 3 เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนต้องการทราบข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อได้สอบถามไปยัง ร.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผอ.ท่าเรือแหลมฉบังได้กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบถามไปยังรองซีอีโอของบริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด หรือเอสทีซี ผู้รับสัมปทานท่าเรือบี 5 และซี 3 ซึ่งเป็นจุดจอดรถเมล์เอ็นจีวีที่ถูกทุบทำลายแล้ว ยอมรับว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง
ซึ่งทางรองซีอีโอเอสทีซีแจ้งว่า รถเมล์เอ็นจีวีดังกล่าวอยู่ระหว่างขนส่งออกจากท่าเรือ โดยล่าสุดเจ้าของรถเมล์ได้มีการว่าจ้างบริษัทหัวลากรถในท่าเรือ จำนวน 2 บริษัท มาทำการลากและขนย้ายรถ แต่ 2 บริษัทหัวลากกลับเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน จึงมีการทุบทำลายรถเมล์ ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
เรื่องข่าวการทุบทำลายรถเมล์เอ็นจีวีนั้น ทำให้มีการตั้งข้อสงสัยว่าเพราะเหตุใดรถเมล์เอ็นจีวีได้รับความเสียหาย 7-8 คัน โดยได้มีการตั้งข้อสังเกตตามภาพถ่ายที่ได้มีการแชร์ตามโซเชียล ซึ่งลักษณะเหมือนมีการทุบด้วยค้อนบริเวณกระจกหน้ารถ รวมถึงกระจกข้างรถหลุดหาย และในบริเวณที่เกิดเหตุมีร่องรอยของการเหยีบย้ำด้วย ซึ่งทางเจ้าของพื้นที่อย่างท่าเรือแหลมฉบังได้ออกมาบอกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่
ขณะที่นายกริน ชยวิสุทธิ์ ผู้จัดการโครงการ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีรถเมล์เอ็นจีวีของบริษัท จำนวน 7 คัน ถูกทุบทำลายที่ท่าเรือแหลมฉบังเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ในฐานะผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นของการท่าเรือฯ คนนอกไม่สามารถเข้าไปก่อเหตุได้
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นคิดเป็นวงเงินไม่มากนัก ส่วนใหญ่เสียหายที่กระจก ไฟ และภายในตัวรถ โดยเป็นความเสียหายเล็กน้อย บริษัทสามารถซ่อมแซมได้หมดและไม่กระทบต่อการส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวี 100 คันแรกให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในปลายเดือน มี.ค.อย่างแน่นอน แต่ประเด็นใหญ่ที่บริษัทติดใจคือ ท่าเรือแหลมฉบังเป็นพื้นที่ราชการ ไม่มีคนนอกเข้าไปได้ ดังนั้นผู้ก่อเหตุต้องเป็นคนใน โดยการท่าเรือฯ อยู่ระหว่างสอบสวนเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยบริษัทส่งตัวแทนไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย โดยตอนนี้ทางท่ารือแหลมฉบังกำลังดูกล้องวงจรปิดอยู่ และมีเจ้าหน้าที่เราไปดูด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น
แหล่งข่าวจากบริษัท ช ทวี ให้ข้อมูลว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รถเมล์เอ็นจีวีถูกคนร้ายทุบรอบคัน เสียหาย 7-8 คัน จากจำนวน 10 คันที่จอดรอเคลื่อนย้ายออกจากท่าเรือแหลมฉบังนั้น เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ แต่รถที่เสียหายอยู่ในพื้นที่ของท่าเรือแหลมฉบัง อย่างไรก็ตาม จากความเสียหายที่เกิดขึ้น บริษัทจึงต้องรีบนำรถดังกล่าวมาตรวจความเสียหายและซ่อมแซม รวมถึงสั่งนำเข้ากระจกจากต่างประเทศเพื่อมาเปลี่ยนให้ทันส่งมอบล็อตแรกให้ ขสมก.ในเดือนมีนาคม
ส่วนรถที่เหลือที่จะส่งมาจากประเทศจีนอีก 40 คัน ในล็อตนี้โดยจะส่งมาสัปดาห์หน้า และจะทยอยส่งมาอีก 438 คันนั้น ทางกลุ่มบริษัทจะหารือร่วมกันเพื่อทำหนังสือถึงท่าเรือแหลมฉบังในการขออนุญาตให้บริษัทนำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทไปดูแลรักษารถเมล์เอ็นจีวีที่เข้ามาเพิ่มเติมเอง เบื้องต้นอาจจะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหารให้เข้ามาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย
เรื่องนี้ถือว่ายังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า ที่สุดแล้วเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ เพราะคนร้ายรู้จุดสำคัญของรถ ทำลายในจุดที่สำคัญ และการเปลี่ยนแปลง ซ่อมแซมอุปกรณ์ เช่น กระจกรถ ที่บริษัทนำเข้ามา นอกจากค่ากระจกแล้วก็จะมีค่าใช้จ่ายเรื่องภาษีอีกด้วย เป็นที่รู้กันว่ากว่าโครงการดังกล่าวจะมาถึงวันนี้ ที่บริษัท ช ทวี จัดหารถเมล์เอ็นจีวี ใช้เวลามานานหลายรัฐบาล แม้จะได้ตัวผู้ชนะการประมูล แต่ก็ยังเจอปัญหาอุปสรรคต่อเนื่อง ก็ได้แต่หวังว่าโครงการดังกล่าวจะจบลงอย่างสมบูรณ์โดยที่ประชาชนได้นั่งรถเมล์ใหม่ในเร็วๆ นี้.
กัลยา ยืนยง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |