ยะลาป่วน! คนร้ายใส่ชุดดำคล้ายทหาร ใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงคนหาของป่า อ.ยะหา ดับ 1 คน บาดเจ็บ 1 ราย ทหารพรานเข้าตรวจจุดเกิดเหตุโดนบึ้มซ้ำเสียชีวิต 1 นาย เจ็บอีก 3 นาย "มทภ.4" สั่งเพิ่มมาตรการ รปภ.ชุมชนไทยพุทธและเป้าหมายอ่อนแอ พร้อมเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
    เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ตั้งแต่เวลา 06.10 น. ศูนย์วิทยุสภ.ยะหาได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ในพื้นที่หมู่ 6 บ้านฮูยงซูแง (บ.ย่อย บ.กูวิง) ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา จึงได้แจ้ง ร.ต.อ.ประสพโชค ตระกูลอินทร์ พนักงานสอบสวน สภ.ยะหา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ทหารพราน 47  เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ 
    พบผู้บาดเจ็บคือ นายธนาวุฒิ เข็มกระโทก อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 ม.9 ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ลำตัว ถูกนำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชยะหา ใกล้กันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายพิศิษฐ์ ไชยสิทธิ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 ม.3 บ้านหินลูกช้าง ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา  
    เบื้องต้นทราบว่าคนร้าย 3 คน แต่งกายด้วยชุดดำคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารพราน ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิง นายพิศิษฐ์และนายธนาวุฒิขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากการเข้าไปหาของป่าในพื้นที่ ทำให้นายพิศิษฐ์เสียชีวิต ส่วนนายธนาวุฒิได้รับบาดเจ็บ 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุหน่วยเฉพาะกิจ กองร้อยทหารพรานที่ 4703 กรมทหารพรานที่ 47 ได้จัดชุดปฏิบัติการจำนวน 1 ชุดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เมื่อชุดปฏิบัติการดังกล่าวเดินทางถึงบริเวณฝายกั้นน้ำ บ้านกูวิง หมู่ที่ 6 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา จอดรถอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 400 เมตร และเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ระหว่างนั้นคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดแบบแสวงเครื่องน้ำหนักกว่า 20 กิโลกรัม แรงระเบิดทำให้ อส.ทพ.นพดลเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย ประกอบด้วย สิบเอกธงศักดิ์ ชุมเกตุ อายุ 36 ปี บาดเจ็บสาหัส, อส.ทพ.สมนึก รกไพร อายุ 31 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย และ อส.ทพ.ณรงค์กร สุวรรณชาตรี อายุ 25 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย
    พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้แสดงความเสียใจมายังครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง และเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยต่อเป้าหมายอ่อนแอ โดยเฉพาะชุมชนไทยพุทธมากยิ่งขึ้น พร้อมกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานโดยใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้มาลงโทษตามกระบวนยุติธรรมโดยเร็วที่สุด
    วันเดียวกัน พล.ท.พรศักดิ์ เป็นประธานการประชุมพบปะกำลังพลและหัวหน้าชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ เพื่อให้คำแนะนำมอบนโยบายการปฏิบัติงาน โดยมีหน่วยใน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าร่วมชี้แจงและเสริมสร้างความรู้นำมาพัฒนาปรับปรุงให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติงานของ ชป. (ชุดปฏิบัติการ)เชิงรุก 735 ชป. โดยมีหัวข้อชี้แจงที่สำคัญเรื่องสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้, แนวทางการปฏิบัติด้านการเมือง และแนวทางการปฏิบัติตามหลักของ ชป.จรยุทธ์ ณ สโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
    พล.ท.พรศักดิ์ได้มอบนโยบายและเน้นย้ำต่อ หน.ชป.จรยุทธ์ ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ว่า ให้กำลังพล ชป.จรยุทธ์ในทุกพื้นที่เข้าไปเคลื่อนไหวในหมู่บ้าน เข้าไปเจอประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานงานสร้างมิตรสัมพันธ์ ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านหมดสิ้นความหวาดระแวงจากเจ้าหน้าที่รัฐ และที่สำคัญเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องตื่นตัว รู้รักษาตัวรอดให้เกิดความปลอดภัย ครองตนด้วยความไม่ประมาท ปฏิบัติงานในทุกภารกิจจะต้องตระหนักถึงหลักการทางยุทธวิธีในการป้องกันตนเองอยู่เสมอ ไม่สร้างเงื่อนไขกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่ากรณีใดๆ 
    "เชื่อมั่นหากพวกเราทุกคนมีความตั้งใจ ทุ่มเทอย่างจริงจัง ฝ่ายเราจะสามารถเอาชนะฝ่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงและสามารถยุติสถานการณ์ความรุนแรงได้ในไม่ช้า ซึ่งถ้าฝ่ายเราสามารถแสวงหาข้อมูลจากฝ่ายตรงข้าง รู้เขารู้เราจะส่งผลอย่างมากในการยับยั้งการก่อเหตุรุนแรงของฝ่ายตรงข้ามได้" แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว.