2วันเห็นโฉมรัฐบาล ธรรมนัสผงาดนั่งแรงงาน/วิษณุห่วงสนิมในกัดกินครม.ตู่


เพิ่มเพื่อน    


    นายกฯ ยืนยันได้รัฐบาลใหม่ในเดือนก.ค.แน่นอน ดีใจได้ทำเพื่อประเทศ-เป็นนายกฯ รอบ 2 ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง "วิษณุ" เตือนเรือแป๊ะลำใหญ่เกิดสนิมเนื้อใน โผ ครม.รอบสุดท้ายพลิกอีก "ผู้กองมนัส"  กลับมาผงาดนั่ง รมว.แรงงาน "หม่อมเต่า-เทวัญ" รมต.ประจำสำนักนายกฯ "พุทธิพงษ์" รมว.ดีอี "ณัฏฐพล”แย้ม 2-3 วันเห็นหน้ารัฐบาลใหม่ ยันปัญหาภายในสงบแล้ว ส.ส.ส้มหวานโวย "ประยุทธ์" หนีกระทู้ถาม 100 วันหลังเลือกตั้งยังตั้ง ครม.ไม่ได้ แถมข่มขู่จะปฏิวัติ "เพื่อไทย" จองกฐิน "อุตตม" หากได้นั่ง รมว.คลัง เจอซักฟอกกรณีปล่อยกู้ ธ.กรุงไทย
    ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.30 น.วันที่ 3 กรกฎาคม นายมังกร ประทุมแก้ว กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส นำคณะเยาวชนไทยและผู้เข้าร่วมโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 12 รวม 200 คน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า วันนี้แม้ตนจะมีภารกิจหลายอย่าง แต่เห็นว่าการพบปะกับคณะเยาวชนก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะเยาวชนไทยและชาวไทยในสหรัฐอเมริกานั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย เราสามารถช่วยกันส่งเสริม สนับสนุนประเทศไทยให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไปได้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไทยและสหรัฐมีความสัมพันธ์ยาวนานมาถึง 286  ปี เป็นมิตรที่ดีกันมาตลอด ความเชื่อมโยงกับประชาชนวันนี้ ย่อมจะดีไปสู่วันข้างหน้าด้วย รัฐบาลยินดี เราอยู่ประเทศเดียวในโลกนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ขอบคุณคนไทยและเยาวชนไทย ที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนงานของรัฐบาลที่ผ่านมา และรัฐบาลก็ต้องดูแลทั้งหมด ไม่ว่าอยู่ไหนเราก็คือคนไทย การที่คณะเยาวชนไทยและผู้ปกครองกลับมาเยือนไทยครั้งนี้ ตนถือเป็นโอกาสพิเศษด้วย เพราะปีนี้เป็นปีมหามงคลของประเทศไทย ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้จัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งประกอบพระราชพิธีอย่างสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณีที่เรายึดถือปฏิบัติมายาวนาน และถือเป็นพระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์ ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้ร่วมกันเฉลิมฉลอง ร่วมกันถวายพระพรในโอกาสมหามงคลนี้ โดยเฉพาะเดือนนี้ถือเป็นเดือนของวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 ก.ค.นี้ด้วย
    “ในเรื่องของการเมือง ประเทศไทยปีนี้ได้จัดการเลือกตั้งเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมปทุกประการ และมีพระราชพิธีในช่วงดังกล่าวด้วย เชื่อว่าทุกคนได้ติดตามข่าวสารอยู่เป็นระยะเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และผมยืนยันว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้แน่นอนตามโรดแมป คือพิธีเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะถือเป็นการทำงานของรัฐบาลโดยสมบูรณ์” 
    นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า เราจะสานต่อนโยบายสำคัญที่ดำเนินมาให้ลุล่วง และปีนี้ไทยเป็นประธานอาเซียนด้วย จึงต้องส่งเสริมให้อาเซียนก้าวไปด้วยกันสู่อนาคต ทุกประเทศเราต้องอยู่ร่วมกันอย่างพหุสังคม ไม่ว่าศาสนาใดก็ตาม ต้องอยู่ให้ได้ โดยปราศจากความขัดแย้ง และเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาล ในการทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อเกียรติภูมิของประเทศไทย และเพื่อคนไทย เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ไม่ว่าอยู่ในประเทศไทย อยู่ในสหรัฐอเมริกา หรืออยู่ส่วนใดของโลกก็ตาม ทุกคนจะได้มีที่ยืนอย่างมีศักดิ์ศรี สง่างาม
    "หลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร วันนี้ประเทศไทยก็เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลกเช่นกัน ปีที่แล้วมีคนมาเที่ยวประเทศไทย 38 ล้านคน ไม่เคยสูงเท่านั้นมาก่อน และปีนี้ก็คาดว่าจะสูงถึง 40 ล้านคนในอนาคต และหวังว่าการมาดูงานของพวกเราครั้งนี้ จะทำให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ก็ขอให้รักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ สร้างความคุ้นเคยกับแผ่นดินแม่มากๆ เราจะต้องไม่ลืมแผ่นดินเกิด ไม่ลืมหัวใจความเป็นไทย เหมือนคนไทยต้องไม่ลืมแผ่นดินไทยที่อยู่อาศัยมายาวนานหลายร้อยปี ต้องรักษาประเทศของเรา แกนหลักของเรา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้ยั่งยืน ยาวนานตลอดไป"
"มนัส"นั่งรมว.แรงงาน
    ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์สอบถามสภาพอากาศที่สหรัฐว่าเป็นอย่างไร ซึ่งคณะคนไทยตอบว่าอากาศดี จากนั้นนายกฯ ถามว่า “มีอะไรอีกไหม” โดยหญิงคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า ดีใจที่ท่านได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวตอบว่า “เหรอ ไม่ถามผมบ้างว่าดีใจไหม ก็ดีใจที่ได้ทำเพื่อประเทศไทย ด้วยกลไกต่างๆ ที่มันมาอย่างที่เขาต้องการ ไม่ได้มีวิธีการอย่างอื่นที่มันไม่ถูกต้อง โอเคนะครับ ขอบคุณนะจ๊ะ เดี๋ยวคงได้คุยทักทายกัน สวัสดีนะจ๊ะ” จากนั้นนายกฯเดินทักทายคณะคนไทยและเปิดโอกาสให้ทุกคนถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน
    สำหรับความคืบหน้าการจัดโผ ครม.นั้น มีรายงานว่า ชื่อของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค รปช. ที่เดิมมีชื่อนั่ง รมว.การต่างประเทศ แต่มีการชี้แจงออกมาว่าไม่ถนัด ก่อนที่ต่อมาจะมีชื่อนั่ง รมว.แรงงาน ล่าสุดจะมานั่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ ส่วน รมว.แรงงาน เป็นชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เคยมีชื่อตั้งแต่โผแรก แต่ต่อมาเกิดกระแสวิจารณ์เรื่องภาพลักษณ์ จึงให้นายอัครา พรหมเผ่า น้องชายมานั่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในโควตาตัวเอง ก่อนที่นายอัคราจะออกมาประกาศถอนตัวในช่วงของการกรอกประวัติ ขณะที่นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ยังมีชื่อเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ส่วนนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จะไปเป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
    ส่วนรายชื่อโผ ครม.ตอนนี้ 36 คน ประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.กลาโหม 2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี 3.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ 4.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย 5.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ ควบ รมว.พาณิชย์ 6.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ควบ รมว.กระทรวงสาธารณสุข 
    7.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย 8.นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย 9.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย 10.พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม 11.นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง 12.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง 13.หม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 14.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 15.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ 16.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ 17.น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ 
    18.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม 19.นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม 20.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน 21.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม 22.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 23.นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม 24.นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  
    25.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม 26.นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม 27.นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม 28.ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.แรงงาน 29.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ 30.น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 31.นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ 32.นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข 33.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา 34.นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ 35.นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 36.นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ
เตือนเรือแป๊ะขึ้นสนิม
    ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการนำรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายว่า ไม่ทราบ และไม่มีกรอบเวลาว่ารัฐบาลต้องนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในช่วงเวลาใด แต่เรารู้ว่าดำเนินการเร็วหน่อยจะเป็นเรื่องดี เพราะมีหลายอย่างต้องเร่งดำเนินการ ในส่วนของตน ได้กรอกประวัติและส่งไปแล้ว จากที่คุยกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทราบว่าเขาตรวจประวัติเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าเสนอไปถึงนายกรัฐมนตรีหรือยัง
    รองนายกฯ กล่าวว่า ในชั้นการยกร่างนโยบายได้มีการพิจารณากันไปแล้ว จะนำให้ที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลได้พิจารณาอีกครั้งเพื่อให้โอกาสแต่ละพรรคได้ปรับ เติม แก้ไข และตัดทอนในสิ่งที่ไม่ตรงกับความประสงค์ ทุกพรรคต้องมีโอกาส โดยกรอบนโยบายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 กำหนดว่ารัฐบาลต้องแถลงนโยบาย และนโยบายนั้นต้องสอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐ สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐในรัฐธรรมนูญ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และสอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจว่าจะทำในเวลาที่เหลือต่อจากนี้ไป 
    ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ไปปาฐกถาพิเศษเรื่อง บทบาทของสมาชิกวุฒิสภาตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ โดยเปรียบเปรยเรือแป๊ะได้จอดเทียบท่าและเปลี่ยนเป็นเรือลำใหม่แล้ว ถ้าไม่ช่วยพาก็อย่าเอาเท้าราน้ำ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณไปถึงคนในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เท่านั้น แต่ส่งสัญญาณให้หมดทั้งประเทศ ส่วนที่เปรียบเทียบว่าหากเรือล่ม ส.ว.จะได้รับผลกระทบด้วยนั้น ต้องดูว่าเรือล่มลักษณะไหน ไม่มีอะไร อย่าไปคิดมาก พูดให้มันขบขันบ้าง ขนาดนายกฯ ส่งสารคุณยังหาว่าจะรัฐประหาร 
    “ไม่มีเรือแป๊ะแล้ว จบ บัดนี้เรือลำใหญ่มาก เพราะบรรทุกคนก็เยอะกว่า สินค้าก็เยอะกว่า ความรับผิดชอบก็มากกว่า แต่ว่าบังเอิญเรือมันใหญ่ยังไม่รู้ ยังตั้งไม่ออก มันใหญ่กว่าเรือแป๊ะ เพราะเรือแป๊ะมันเป็นไม้ เรือลำนี้พื้นมันเป็นเหล็ก ดังนั้น เมื่อเป็นเหล็กสนิมมันเกิดได้ และปกติสนิมเกิดแต่เนื้อในเหล็ก อะไรก็ตามที่เป็นเหล็กสนิมมันเกิดได้ทั้งนั้น อะไรก็ตามที่เป็นแผล บาดทะยักก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น อะไรที่ป่วย โลหิตก็เป็นพิษได้ทั้งนั้น ส่วนวิธีป้องกันก็ต้องหามา ซึ่งทุกคนจะเป็นคนป้องกัน” นายวิษณุกล่าว    
     นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้เห็นความสงบเกิดขึ้นแล้ว ทั้งในพรรคพปชร.และพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจเพื่อเดินหน้าบริหารประเทศต่อไป โดยส่วนตัวคิดว่าอีก 2-3 วันการตั้งรัฐบาลจะเรียบร้อย 
     เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หากภายหลังโปรดเกล้าฯแล้วตำแหน่งไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันจะเกิดความวุ่นวายอีก นายณัฏฐพลกล่าวว่า จากเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่หลายฝ่ายออกมาแสดงจุดยืน ทำให้เห็นว่าทุกคนเห็นประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ซึ่งคงรับในการตัดสินใจของนายกฯ และมั่นใจว่านายกฯ จะนำพาบริหารประเทศในแนวทางที่เหมาะสมได้ เชื่อมั่นว่า เหตุการณ์ขณะนี้ไม่ได้เป็นความสงบชั่วคราว เพราะในการประชุม ส.ส.ได้เปิดให้แสดงความเห็น และปรับการทำงานในบางส่วน โดยทางกรรมการบริหารพรรค ก็มานั่งวิเคราะห์ว่าอะไรสามารถปรับปรุงได้ ซึ่งมีหลายอย่างที่สามารถทำให้สถานการณ์น่าจะดีขึ้น
    นายณัฏฐพลกล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีสังกัดพรรคพปชร. ต้องลาออกจาก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องที่พรรคได้มีการหารือกันมาระยะหนึ่ง และอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด เพราะการทำงานในสภาก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ต้องดูว่าใครสามารถบริหารเวลาในการทำหน้าที่ได้ทั้ง 2 ส่วน ใครที่ต้องลาออกจากการเป็น ส.ส.หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลไป
อนค.โวยลุงตู่หนีกระทู้
    ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงแนวทางการทำงานในการประชุมสภาสัปดาห์นี้ว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ก.ค. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรค อนค. ขอยื่นกระทู้ถามสดถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกฯ เพื่อถามถึงความคืบหน้าการจัดตั้ง ครม.ที่มีความล่าช้า แต่นายกฯ ไม่มาตอบ จึงทำให้กระทู้ตกไป จึงหวังว่าสักวันนายกฯ จะต้องมาชี้แจงตอบข้อสงสัยที่สภาบ้าง 
    นายปิยบุตรกล่าวว่า สำหรับการทำงานของพรรคอนค. ในการประชุมสภาวันที่ 3-4 ก.ค.นี้ จะยื่นญัตติ 5 เรื่องคือ 1.ญัตติขอให้ตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาข้อเท็จจริงจากการที่นักกิจกรรมถูกคุกคามทำร้าย 2.ญัตติขอให้ตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาโครงการการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี 3.ญัตติขอให้ตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการทำเหมืองแร่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย  4.ญัตติขอให้ตั้ง กมธ.วิสามัญช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการทวงคืนผืนป่าที่มีประชาชนติดคุกไปแล้ว 6 ราย และ 5.ญัตติขอให้ตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาสำหรับสังคมไทยหากเกิดการรัฐประหารขึ้นอีก 
     นายณัฐชากล่าวว่า วันนี้ตนตั้งใจกระทู้สดถามพล.อ.ประยุทธ์เรื่องปัญหาการจัดตั้ง ครม.ล่าช้าว่า ขณะนี้ผ่านการเลือกตั้งกว่า 100 วันเรายังไม่มี ครม.มาบริหารประเทศ ตอนนี้ประชาชนกำลังรอคอยความหวัง และความช่วยเหลือจากรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ  
     ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนค. กล่าวเสริมว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าเข้ามาแก้ปัญหาโดยใช้วิธีเดิมๆ นั้น เราก็รู้กันว่าหมายถึงรัฐประหาร เพื่อไม่ให้สภาผู้แทนฯ ต้องถูกกระทำโดยวิธีการที่ผิดกฎหมาย ตนและสมาชิกพรรคอนาคตใหม่จึงขอตั้งญัตติด่วนให้สภาตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต  ซึ่งไม่รู้ว่าสุดท้ายจะตั้งคณะกรรมการได้หรือไม่ 
    ทั้งนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อรับฟังข้อปรึกษาของสมาชิก ส.ส. โดย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นหารือว่า วันนี้ (3 ก.ค.) เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เป็นวันที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก และใช้เวลาไม่ถึง 1 เดือนจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่ปัจจุบันผ่านมา 3 เดือนแล้วยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงขอให้ประธานสภาฯ ส่งหนังสือไปยังนายกฯ ขอให้เร่งรัดการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จโดยเร็ว เพราะมีปัญหาของประชาชนที่คั่งค้างรอให้แก้ไขจำนวนมาก
พท.จองกฐินอุตตม
    ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นหารือกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ออกสารขอโทษประชาชนกรณีความขัดแย้งภายในพรรค พปชร.ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการเริ่มต้นแก้ไขปัญหา ต้องยอมรับต่อปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน แต่ตนไม่อยากเห็นการผลักภาระภายในพรรค พปชร.มาเป็นปัญหาของประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ตนไม่หลับ สงสัยเช่นเดียวกับพี่น้องประชาชนว่าการแก้ไขปัญหาแบบเดิมหมายถึงอะไร จะใช้มาตรา 44 คุกคามคนเห็นต่าง จะสืบทอดอำนาจ หรือข่มขู่เพื่อจะปฏิวัติรัฐประหารอีกหรือไม่ จึงอยากฝากประธานสภาฯ ไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ให้หน่อย เพราะถ้าต้องการปฏิวัติจริงๆ ถือว่า มีความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5) เกี่ยวกับจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และขอให้ประธานทำเรื่องถอดถอน แล้วตนร่วมจะลงชื่อด้วย
    ต่อมาเวลา 17.50 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังที่ถูกเลื่อนกระทู้ถามสดการแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญมาเป็นรัฐมนตรีว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้งนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร. ซึ่งคาดว่าเป็นรมว.การคลัง ถือว่ากระทำความผิดรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 160 (4) ว่าด้วยเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ สืบเนื่องจากวันที่ 9 ธ.ค.2546 นายอุตตม ในฐานะกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการทั้ง 4 คน ได้ลงนามอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัทในกลุ่มเครือกฤษดานคร จำนวน 9,900 ล้านบาท จากนั้นได้มีการฟ้องร้องว่าเป็นการอนุมัติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 
    "ซึ่งนายอุตตมถือเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา แต่เมื่อถึงขั้นตอนของ คตส. กลับไม่มีชื่อของนายอุตตม แต่เหลือคณะกรรมการ 3 คนที่ถูกส่งชื่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จนถูกตัดสินว่ามีความผิด แต่นายอุตตมกลับรอด หากพล.อ.ประยุทธ์ตั้งนายอุตตมเป็นรัฐมนตรี ก็จะเป็นรัฐมนตรีที่ไม่ชอบโดยรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะติดตามต่อไป และทำหน้าที่ตรวจสอบในสภา อีกทั้งจะดำเนินการอภิปรายไม่ไว้วางใจ" นพ.ชลน่านกล่าว   
    ที่สำนักงาน กกต. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นคำร้องถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง หลังจากที่มีหนังสือแจ้งกลับข้อร้องเรียนใน 5 คำร้องว่า บางส่วนเห็นด้วย และมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย เพราะในบางคำตอบยังไม่สะเด็ดน้ำ โดยเฉพาะใน 2 เรื่องคือกรณีโต๊ะจีนและเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ จึงขอให้นายอุตตมและนายสนธิรัตน์ เลขาธิการพรรค ชี้แจงข้อมูล และให้ส่งเอกสารตั้งแต่การตั้งพรรคจนปิดบัญชีว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าใด รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส่วนเรื่องการเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐของ พล.อ.ประยุทธ์ตนจะนำข้อมูลของศาลปกครอง กกต. และศาลรัฐธรรมนูญมาประมวล โดยเฉพาะคำวินิจฉัยของเจ้าหน้าที่รัฐคดีอื่นๆ.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"