ทั่วไทยยามนี้ได้รับผลกระทบจาก “พายุโซนร้อนมูน” ถ้วนทั่ว เล่นเอากรมอุตุนิยมวิทยาถึงกับต้องออกประกาศเตือนอย่างต่อเนื่อง 3 เวลากันเลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่ต่างจาก “พายุทางการเมือง” ที่แม้จะสงบราบเรียบแล้ว แต่ก็เชื่อว่าจะมีกระแส “คลื่นใต้น้ำ” ที่รอจะกระเพื่อมและกลายเป็นคลื่นยักษ์ หรือสึนามิในวันใดวันหนึ่งก็เป็นได้ เพราะอย่างที่รู้ “สันดาน” ของบรรดา “เสือ สิงห์ กระทิง แรด” ทางการเมืองเป็นอย่างดี ว่ายามใดที่ผลประโยชน์ยังลงตัวก็ยังเกี้ยเซียะกันได้ แต่หากเมื่อใดทับเส้นทับไลน์กัน สันดานที่อยู่ในเส้นเลือดก็ต้องโผล่ออกมาแน่นอน ...๐ ดูได้จากคำกล่าวของ “เนติบริกร” อย่าง “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ยามนี้และในอนาคต รัฐนาวาประยุทธ์ 2/1 ได้อย่างดี ที่บอกว่าตอนนี้ มีเรือลำใหม่ไม่ใช่เรือแป๊ะที่ทำจากไม้แล้ว แต่เป็น “เรือเหล็ก” ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความแข็งแกร่งกว่าเดิม แต่ ”กูรูกฎหมาย” ก็บอกต่อให้ได้ตระหนักอีกว่า “ต้องระวังเป็นสนิมได้ เพราะสนิมเกิดจากเนื้อใน มีแต่กัดกร่อนจากข้างใน” เรียกว่าเป็นการทำนายอนาคตของรัฐบาลประยุทธ์ได้อย่างดี แม้ “'จารย์วิษณุ” จะกัดฟันปลอบใจว่า “การเกิดสนิมต้องใช้เวลา มองว่าอีกนานกว่าสนิมจะเกิด” นั้น แต่หาก ดูจากการฟอร์มรัฐบาลทั้งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวมถึงบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลเองก็บอกได้คำเดียวว่า “สนิม” น่าจะมาเร็วกว่าที่คิด แน่นอน ...๐ หันกลับมาดูในซีกพรรคที่มี ส.ส.มากที่สุดแต่กลับเป็นพรรคฝ่ายค้านอย่าง “พรรคเพื่อไทย” กันบ้าง ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงผลัดใบ (จริงหรือ) เมื่อจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งก็แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งว่า หัวหน้าพรรคคนใหม่คงชื่อ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ แบบไม่พลิก แทนที่ “พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์” ในขณะที่เลขาธิการพรรคที่ชื่อ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ก็จะกลายเป็นอดีต และส่งไม้ต่อให้ “น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” ส.ส.กทม. ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็น ยุคเพื่อไทยที่ถูกว่ายุคเพื่อแม้ว อาจต้องเป็นยุค “เพื่อหน่อย” ก็เป็นได้ หากดูจากทิศทางของหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ซึ่งมีเงาของคุณหญิงหน่อย “สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ทาบอยู่แบบปฏิเสธไม่ได้ ...๐ พูดถึง “หญิงหน่อย” ไม่พูดถึง “อดีตนายกฯ แคตวอล์ก” ไม่ได้ เพราะล่าสุด “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "8 ปีผ่านไปแล้ว ก็ยังไม่เคยลืมบุญคุณที่ประชาชนให้ความไว้วางใจในวันที่ดิฉันและพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 ขอขอบคุณอีกครั้งนะคะ" แหม! เล่นเอาจี๊ดขึ้นหัวเลย บอกมาได้ไม่เคยลืมบุญคุณประชาชน แล้วประเทศเล่า  “นารีปู” ไม่ขอบคุณบ้างเหรอ และไม่คิดว่าจะตอบแทนหรือล้างบาปที่ทำไว้กับชาติบ้านเมืองบ้าง หรืออย่างไร ...๐ พูดถึง สาว (แก่) กันเยอะแล้ว ต้องหันมาพูดถึง “สาว” ระดับพริตตี้ กันบ้าง เพราะขนาด บก.ปอท.ยังหยิบยกกรณี “น.ส.จิรารัตน์ ชานันโท” หรือ “ครูบลู” ที่กำลังเป็นข่าวดังในเรื่องมือที่สามมือที่สี่มาสร้างกระแสกันเลย ในกรณีไลฟ์สดโชว์เรือนร่างวาบหวิวดังกล่าว เป็นการเชิญชวนให้เข้ากลุ่มและเรียกเก็บเงินอย่างโจ่งแจ้ง อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 (4) ซึ่ง อยากบอก บก.ปอท.ว่า ไม่ใช่มีแค่ครูบลูคนเดียว มีพริตตี้และเน็ตไอดอลกันบานตะเกียง ซึ่งกรณี “ครูบูล” ต้องบอกว่าระดับประถมด้วยซ้ำ หากไปหาไปดูหรือเสิร์ชใน “กูเกิล” ยังมีมากกว่า และเรียกได้ว่าระดับมหาวิทยาลัยหรือระดับอาชีพกันเลย โดยเฉพาะที่เรียกกันว่า “คู่เทพ” ซึ่งหากจะทำทั้งทีก็ควรทำให้หมด ไม่ใช่เลือกแต่อะไรที่เป็นข่าวดังเท่านั้น  ...๐ หันกลับมาดูเรื่องบ้านๆ แต่ดูแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และเรื่องใหม่ที่ รมว.พาณิชย์คนใหม่ควรเร่งดูแล โดยหากเป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้ คือ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ควบ รมว.พาณิชย์ ซึ่งเรียกว่าเป็น การสานและต่อยอดนโยบายคุมราคาค่ารักษาและค่ายาของโรงพยาบาลเอกชน นั่นคือ ค่าซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เพราะทุกวันนี้ต้องเรียกว่าเป็นธุรกิจที่เป็นล่ำเป็นสันและมีมูลค่ามหาศาล ที่สำคัญยังไม่ต่างจากค่ารักษาพยาบาลที่มี “ค่าชะโงก” แต่อย่างใด เพราะมี “ค่าเปิดบิล” หรือ “ค่าเปิดเครื่อง” ยกตัวอย่างเครื่องซักผ้ายี่ห้อฮิตาชิ ซึ่งรับประกันมอเตอร์ 10 ปี แต่เมื่อใช้ไปเพียง 1-2 ปีแล้วมีปัญหา ติดต่อศูนย์บริการก็ได้ชี้แจงว่าจะส่งพนักงานไปดูแลให้ โดยคิดค่าบริการและค่าเดินทาง 963 บาทเป็นขั้นต่ำ!!! หากเสียหายมากกว่านี้ก็ต้องชำระเพิ่มเติมยกเว้นกรณีมอเตอร์ เรียกว่าแพงกว่าค่าแรงขั้นต่ำถึง 3 เท่า ซึ่งก็ไม่รู้ว่ายี่ห้ออื่นๆ จะคิดขั้นต่ำกันในราคาไหน งานนี้ก็ไม่รู้ว่า “อู๊ดด้า” จะสนใจเพิ่มเติมนอกเหนือจากเรื่องยาง-ลำไยบ้างก็ดี เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวแต่ถูกลืมอย่างแท้จริง ...๐