สดสวยแบบ..บ้านๆ


เพิ่มเพื่อน    


    กว่าจะเข้าประเทศเบลารุส ก็เล่นเอาหิวตาลายเลยทีเดียว เพราะเครื่องลงประมาณเกือบเที่ยง สุดท้ายออกไปสู่โลกภายนอกเกือบ 4 โมงเย็นโน่น
    เมื่อท้องหิว อารมณ์ที่จะสำรวจตรวจสอบว่าบ้านเมืองของเขาแตกต่างจากบ้านของเรามากน้อยแค่ไหน ก็ลดลงไปเยอะเลย แต่จากการลากกระเป๋าเพื่อเดินไปขึ้นรถก็ต้องบอกว่า บรรยากาศของสนามบินแห่งชาติของเขาทันสมัยสู้สนามบินเชียงใหม่หรือหาดใหญ่ไม่ได้เลยจ้า ยิ่งเห็นเจ้าหน้าที่ของสนามบินในชุดเครื่องแบบสีทหาร มันก็ยิ่งดูเหมือน "ย้อนยุค" หลงเข้าไปในบรรยากาศช่วงสงครามโลกชอบกล
    บ้านเมืองในเบลารุส ไม่แตกต่างจาก "นอกเมือง" ในประเทศยุโรป ซึ่งก็คงเป็นผลมาจากที่กลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกนั้นปิดประตูบ้านของตัวเองมานาน ด้วยการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ ถึงแม้จะแยกออกมาจากรัสเซียแล้วก็ตาม กลิ่นอายของบรรยากาศก็ครือๆ กันค่ะ
    แต่ที่น่าสังเกตคือ ผู้หญิงและผู้ชายชาวเบลารุสนั้น หน้าตาดี๊ดี       ตาสีฟ้าสดใส จมูกโด่ง ตัดกับผิวขาวและผมสีทอง จนบรรดามนุษย์ลุงที่ร่วมคณะมองกันเหลียวหลัง  
    ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงกับมีคนในคณะของเราปรารภแบบเปิดเผยว่า ที่ตัดสินใจมาเบลารุสประการหนึ่งก็คือ ได้ยินว่าผู้หญิงที่นี่สวยที่สุดในโลก!!!
    อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความสวยและหล่อของคนเบลารุส ยังสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็น นิ่งและเฉย เหมือนหุ่นยนต์ชอบกลอยู่ ซึ่งก็คงเป็นผลจากวิถีชีวิตที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของระบอบการเมืองค้อนกับเคียวมานานนั่นแหละ
    เพราะความเป็นบ้าน..บ้านของเขานี่เอง เงินที่จะใช้จ่ายซื้อของที่นั่นได้ก็ต้องเป็นรูเบิลเบลารุสเท่านั้น หรือไม่ก็บัตรเครดิตทั่วไป ส่งผลให้การได้เหยียบประเทศเบลารุสของมนุษย์ป้าครั้งนี้ไม่เสียแม้แต่บาทเดียว เพราะเงินยูโรที่เตรียมไว้เขาไม่รับ และการจะซื้อไอศกรีมกินหรือซดกาแฟสักถ้วยต้องรูดบัตรล่ะก็ กลัวคนขายตีหัว หรือส่งภาษารัสเซียด่า..จริงๆ นะ
    การได้มีโอกาสรู้จักเบลารุสที่เรียกว่าครั้งหนึ่งในชีวิต และคาดว่าน่าจะเป็นครั้งเดียว (ไม่อยากจะไปเพราะขั้นตอนการขอวีซ่า) กับระยะเวลาสั้นๆ ก็เหมือนเราไปอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานีหรือขอนแก่น เพราะประชากรทั้งประเทศของเขานั้นมีแค่กว่า 10 ล้านคนเท่านั้น และสถานที่ท่องเที่ยวของเขาส่วนมากก็จะเป็นอนุสาวรีย์ตามรูปแบบของยุโรปตะวันออก
    แต่มนุษย์ป้าไปดูงานการทำเหมืองโพแตชให้เป็นเมือง ก็เลยได้ตื่นตาตื่นใจกับโรงพยาบาลใต้เหมือง ซึ่งต้องถือว่าเขา "ล้ำหน้า" กว่าบ้านเรามากในระบบเทคโนโลยีการขุดแร่ และรู้จักใช้เหมืองที่ผ่านการขุดแร่จนเสร็จสิ้นแล้วมาสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างน่าทึ่ง
    อยากให้บ้านเรามีเหมืองใต้ดินที่กลายเป็นสถานที่พักผ่อน สถานที่ท่องเที่ยวแบบเดียวกับเบลารุสค่ะ แต่สงสัยว่าเราจะหายใจได้ยาวจนถึงวันนั้นหรือเปล่าหนอ!!.
                                        "ป้าเอง"   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"