2 ก.ค.62-  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย พร้อมนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ สหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) นำมวลชนกว่า 30 คน ร่วมกันสวมชุดดำชู 3 นิ้ว เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ และนำพวงหรีดข้อความ “ไว้อาลัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” และดอกไม้จันทน์ มาวางหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

โดยมีการชูป้ายเขียนข้อความระบุ “หยุดคุกคามประชาชน,หยุดทำร้ายคนเห็นต่าง” หลังเกิดเหตุนักกิจกรรมทางการเมืองถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่ายมา นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนตัวแทนกลุ่มจะยื่นหนังสือถึงพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อเรียกร้องให้นำตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษอย่างเร็วที่สุด โดยมีพ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.6 เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ

น.ส.ชลธิชา กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2561 ถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีนักกิจกรรมการเมือง 3 ราย ได้แก่ นายเอกชัย,ฟอร์ด เส้นทางสีแดง และจ่านิว ถูกลอบทำร้ายรวมแล้วกว่า 13 ครั้ง แต่มีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นที่จับกุมผู้ก่อเหตุได้ ขณะที่อีก 11 ครั้ง ไม่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิด หรือไม่สามารถสาวไปถึงผู้จ้างวาน เพราะมีการวางแผนเป็นกระบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ,ปกปิดอำพรางตัว และใช้ยานพาหนะหลบหนี 

ยังไม่นับรวมถึงผู้ลี้ภัยทางการเมือง 8 คน ที่สูญหายหนึ่งในนั้นคือนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน และบุคคลอื่นที่ถูกฆาตกรรมอย่างปริศนา โดยไม่สามารถจับกุมตัว ทั้งยังมีการข่มขู่ประทุษร้ายนายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน โดยโทรศัพท์เข้ามือถือ เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทั้งที่อยู่อาศัยและคนในบ้าน

เธอบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงถึงความล้มเหลว ของ คสช. ที่ปล่อยปละละเลยให้มีการทำร้ายประชาชนที่อยู่ขั้วการเมืองตรงข้ามซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะท้อนถึงความล้มเหลวของ ตำรวจและกระบวนการยุติธรรมไทยที่ไร้ประสิทธิภาพในการคุ้มครองชีวิตประชาชน และทำให้ผู้ก่อเหตุ ไม่เกรงกลัวต่อกฏหมาย จึงขอเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เร่งรัดสืบหาผู้กระทำผิดในคดีลอบทำร้ายร่างกายนักกิจกรรม โดยเฉพาะคดีของจ่านิว มาดำเนินคดีทางกฎหมายภายใน 7 วัน.