"จักรทิพย์" ตั้ง "ผู้ช่วย ผบ.ตร." คุมคดีจ่านิว ไล่ดูกล้องวงจรปิดพบรถ จยย.คนร้ายมาจากย่านลาดปลาเค้าก่อนหนีไปทาง ถ.รามอินทรา "บิ๊กป้อม" ลั่นไม่นิยมความรุนแรง ส่ง จนท.ดูแล "สิรวิชญ์" ที่ รพ. ห่วงปมทำร้ายจะโยงการเมือง "ปณิธาน" แย้มคนลงมือคล้ายแก๊งทวงหนี้ "เหลิม" โผล่โวยข่าวโยง "ลูกวัน" ส่งมือทุบจ่านิว ด่ากราดพวกจัญอัป ซัดคนทำเหมือนคนในเครื่องแบบ เชื่อ ตร.รู้แต่กล้าจับหรือไม่ เหตุมีผู้มีอิทธิพลทางการเมืองเป็นแบ็ก "พรรคฝ่ายค้าน" เล็งตั้ง กมธ.ตรวจสอบละเมิดสิทธิมนุษยชน "แม่จ่านิว" ปัดลูกเป็นหนี้นอกระบบ
ความคืบหน้าคดีกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมืองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณปากซอยรามอินทรา 109 (ซ.พระยาสุเรนทร์) แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ช่วงเที่ยงวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้แต่งตั้งชุดคณะทำงานคดีนี้ขึ้น โดยมอบให้ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เป็นหัวหน้าชุดทำงาน ซึ่งชุดทำงานดังกล่าวจะประชุมติดตามความคืบหน้าทุกวันในเวลา 10.00 น.
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดีเพิ่มเติม ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลา
ถามว่า มีกระแสข่าวกลุ่มคนร้ายเป็นลูกน้องของนักการเมืองชื่อดัง ผบ.ตร.กล่าวว่ายังไม่ทราบรายละเอียด อย่างไรก็ตามกรณีที่มีผู้เชื่อมโยงไปสู่ประเด็นทางการเมือง เจ้าหน้าที่ต้องรับฟังเพื่อพิจารณาด้วยเช่นกัน
มีรายงานว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่าคนร้ายทั้ง 4 คนใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ขับขี่เริ่มมาจากย่านลาดปลาเค้า เวลาประมาณ 08.00 น. ก่อนจะมาจอดรอทำร้ายนายสิรวิชญ์บริเวณจุดเกิดเหตุ และหลังจากก่อเหตุได้ขี่รถหลบหนีไปตามเส้นทางถนนรามอินทรา โดยเจ้าหน้าที่ได้ไล่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางถึงบริเวณห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์แล้ว
"การสอบปากคำพยานเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปแล้ว 3 คน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม โดยเน้นเรื่องตำหนิรูปพรรณของคนร้าย รวมทั้งให้ฝ่ายสืบสวนนำภาพรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีขาว มาเทียบเคียงกับภาพในกล้องวงจรปิด โดยจะให้จ่านิวเป็นผู้ยืนยันว่าลักษณะของรถจักรยานยนต์รุ่นดังกล่าวตรงกับพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุใช่หรือไม่ รวมทั้งจะมีการสอบปากคำจ่านิวในประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง และเรื่องส่วนตัวต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในอดีต และช่วงก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน รวมถึงประเด็นที่เจ้าตัวสงสัยว่าถูกบุคคลอื่นติดตามในช่วง 2-3 วันก่อนเกิดเหตุ" แหล่งข่าวระบุ
ที่กระทรวงกลาโหม (กห.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้าทางคดีจาก ผบ.ตร.ที่ให้ไปประชุมติดตามการดำเนินคดี คงอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจหาพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด
คนร้ายคล้ายแก๊งทวงหนี้
"ผมไม่ได้นิยมความรุนแรง ใครที่มาทำให้เกิดความไม่เรียบร้อยของประเทศก็ต้องถูกลงโทษ ซึ่ง ผบ.ตร.ได้รับไปดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือการเมืองนั้นยังไม่ทราบ ต้องให้ตำรวจหาพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน เราก็เป็นห่วงว่าจะไปเกี่ยวข้องกับทางการเมือง" พล.อ.ประวิตรกล่าว
ถามถึงการจัดเจ้าหน้าที่ไปรักษาความปลอดภัยนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง รองนายกฯ กล่าวว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลรักษาความปลอดภัยนายสิรวิชญ์แล้ว ส่วนนักกิจกรรมคนอื่นๆ อย่างนายเอกชัย หงส์กังวาน หากต้องการคนดูแลรักษาความปลอดภัยก็ต้องร้องขอมา
ซักว่า มีนักการเมืองนำไปขยายความต่อและมองรัฐบาลเป็นแพะในคดีนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าจะให้ทำอย่างไรได้ เราได้ดำเนินการอย่างเต็มที่อยู่แล้วในขณะนี้ ก็เร่งรัดตำรวจดำเนินคดีและให้รายงานความคืบหน้ามาในเวลา 19.00 น.ทุกวันอยู่แล้ว
ส่วนนายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้รับรายงานจากตำรวจล่าสุดว่ากลุ่มคนที่ทำร้ายมีพฤติกรรมใกล้เคียงกับแก๊งทวงหนี้ และมีข่าวเรื่องของการย้ายบ้านหนีด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ต้องเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ได้คลี่คลายคดีก่อน ความสงสัยทุกคนก็มีได้แตกต่างกันไป ดังนั้นต้องให้คดีคลี่คลายและชัดเจนก่อน
"ในส่วนต่างประเทศที่ให้ความสนใจเรื่องนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้แจ้งความคืบหน้าของคดีนี้ให้นานาชาติที่กังวลต่อเรื่องนี้ผ่านทางเอกอัครราชทูตไปแล้ว ว่ารัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยทุกคน และเรื่องที่เกิดขึ้นรัฐบาลไม่ได้ประโยชน์อะไร ไม่มีแรงจูงใจอะไรที่จะทำให้ประชาชนเดือดร้อน" นายปณิธานกล่าว
ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คดีนี้ยอมรับว่าได้รับความสนใจจากทั้งในและต่างประเทศ และเป็นคดีที่นายกฯ และรองนายกฯ ได้กำชับแล้ว และ ผบ.ตร.ก็ลงมาดูแลด้วยตัวเอง ซึ่งนานาชาติก็มีความเข้าใจดีถึงความตั้งใจและให้ความสนใจต่อคดีนี้ เชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไรบานปลายจนกระทบมาถึงรัฐบาล เพราะไม่มีใครได้ประโยชน์ อาจจะได้ประโยชน์เฉพาะกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ซึ่งก็ต้องไปพิสูจน์ทราบว่าการทำแบบนี้ใครได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามหากเจ้าหน้าที่สามารถคลี่คลายคดีได้เร็ว ลดความเคลือบแคลงสงสัยได้ก็จะเป็นผลดี
ที่พรรคเพื่อไทย (พ.ท.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรค พท.กล่าวว่า คดีของจ่านิวถูกทำร้ายร่างกายมีความพยายามโยงมาว่าคนสั่งการคือนายวัน อยู่บำรุง บุตรชายที่เป็น ส.ส.กทม. ซึ่งขอสาปแช่ง ใครก็ตามที่เป็นผู้สั่งการและเป็นผู้ปฏิบัติการทำร้ายจ่านิวครั้งนี้ ขอให้วิบัติและมีอันเป็นไป
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนเคยอยู่กองปราบฯ มาหลายปี พฤติกรรมอย่างนี้ทำไมรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงถึงความรู้สึกช้า เรื่องเกิดตั้งแต่ 28 มิ.ย. ทำไมจึงไม่ดำเนินการทันที พอสังคมออกมาต่อต้านจึงออกมาสั่งการ ภาษานักเลงเรียกว่าช้าไปต๋อย การก่อเหตุที่มีคนออกไปกันรถแล้วให้อีกคนหนึ่งตามทำร้ายจ่านิว บุคลิกลักษณะทะมัดทะแมงเหมือนคนในเครื่องแบบ การกันรถในลักษณะนี้เรียกว่าหน่วยระวังป้องกัน คนธรรมดาทำแบบนี้ไม่ได้หรอก เสียดายที่ไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่เช่นนั้นจะยื่นญัตติอภิปรายเรื่องนี้ จะได้ดูว่าจะตอบอย่างไร เป็นการเล่นการเมืองที่สกปรกมัดมือชก คนจะเห็นต่างไม่ได้ ถามว่าคนในแวดวงประชาธิปไตยเขาจะทำไปเพื่ออะไร ส่วนบางคนโพสต์มาน่ารังเกียจ จิตใจต่ำทรามชั่วร้าย
"การตีเข้าไปที่อวัยวะสำคัญไม่ใช่เป็นเพียงการทำร้ายร่างกาย แต่อาจจะถึงตายได้ ตระกูลผมไม่มีเรื่องอย่างนี้แน่นอน เชื่อว่าเป็นคนในเครื่องแบบโดยมีผู้มีอิทธิพลทางการเมืองเป็นแบ็ก ตำรวจไม่ได้โง่ รู้หมดเพียงแต่เขาไม่กล้าจับ ทำไมเวลาตีพวกนักทำกิจกรรมวงจรปิดสามัคคีกันเสีย คนธรรมดาทำได้ที่ไหน ไม่อับอายหรือ เขาเรียกว่าจัญอัป" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
'เหลิม' โวยโยง 'วัน' เอี่ยว
ถามว่าเหตุใดถึงมีการโยงมาที่นายวัน แกนนำพรรค พท.กล่าวว่า พวกที่โยงมาว่าเป็นนายวันสั่งทำ เป็นพวกลูกอีช่างโยง เดิมตนไม่อยากพูดเรื่องนี้ แต่มันมาแหมะลงที่ลูกชายตน บัดซบไม่มีทางไปแล้ว ขอสาปแช่งทั้งคนที่สั่งการและคนทำ ขอให้ครอบครัววิบัติภายใน 3 วัน 7 วัน ขอให้คนที่ทำผิดเข้าคุกเข้าตะรางไปตามกัน
"การทำร้ายร่างกายจ่านิวแบบนี้ ก็เพื่อป้องปรามไมให้คนมาวิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจ ใครทำแบบจ่านิวก็จะโดนหนักแบบนี้ ขอถามตำรวจจริงๆ ว่าท่านไม่รู้จริงๆ หรือ หรือว่าถ้ารู้แล้วไม่กล้าจับก็กระซิบมา แต่ถ้าไม่รู้ก็ลาออกทั้งกรมไปเลย การก่อเหตุครั้งนี้ตีช่วงกลางวัน แสดงว่าไม่กริ่งเกรงกฎหมายอาญาบ้านเมือง เพราะมีแบ็กเพราะคนสั่งใหญ่ คดีนี้จริงๆ แล้วเล็กนิดเดียวเพียงแต่ไม่กล้าจับ" แกนนำพรรค พท.กล่าว
ต่อมานายวันได้โพสต์ข้อความสั้นๆ ว่า "ขว้างระเบิดใส่ผมซะงั้น..เวรแท้ๆ"
วันเดียวกัน พรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคเสรีรวมไทย และพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมประชุมหารือกันที่พรรคเพื่อไทยถึงแนวทางการทำงานในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชน แถลงตอนหนึ่งระบุว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการกระทำที่เป็นการประทุษร้ายต่อผู้ใช้สิทธิโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีผู้เห็นต่างทางการเมืองถูกทำร้ายหลายครั้ง จะเชิญผู้มีความรู้ความสามารถในเรื่องนี้มาทำงาน
ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า พรรคจะตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามเรื่องการคุกคามและละเมิดสิทธินักกิจกรรมทางการเมือง โดยกรณีทำร้ายนายสิรวิชญ์อยากให้ย้อนกลับไปดูภาพกว้าง จ่านิวไม่ใช่คนแรกที่ถูกทำแบบนี้ และที่น่าเสียใจไปกว่านั้นคือ ไม่ใช่คนสุดท้ายที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกทำร้าย โดยไม่มีใครรับผิดชอบหรือหาคนผิดมาลงโทษ
"จากข้อมูลของไอลอว์ 18 เดือนก่อนการเลือกตั้ง สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ มีการทำร้ายนักเคลื่อนไหวอย่างน้อย 15 ครั้ง ที่โดนมากที่สุดคือนายเอกชัย หงส์กังวาน รองลงมาคือนายสิรวิชญ์ที่โดนมาแล้ว 2 ครั้ง หากย้อนไปไกลกว่านั้น เจ้าตัวเคยถูกชายแต่งกายคล้ายทหารอุ้มไปจากหน้าประตูเชียงราก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โชคดีที่กล้องไม่พัง ก่อนที่จ่านิวจะได้รับการปล่อยตัวออกมา ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำๆ" น.ส.พรรณิการ์กล่าว
โฆษกพรรค อนค.กล่าวว่า พรรคมีแคมเปญที่จะให้คนธรรมดาร่วมกันส่งคลิป พยานแวดล้อมต่างๆ มา เพราะเวลาที่เกิดเหตุเป็นเวลาที่ประชาชนทั่วไปก็เห็นเหตุการณ์ หากท่านประชาชนท่านใดมีข้อมูล จากกล้องมือถือหรือกล้องหน้ารถ ขอให้ส่งมาที่พรรคอนาคตใหม่ เหตุใดต้องส่งมาให้เรา เพราะบางคนอาจไม่กล้า หรือกลัวการถูกคุกคาม หรือไม่มีเวลามากพอ พรรคอนาคตใหม่จึงขอเป็นสื่อกลางในการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำตัวคนผิดมาลงโทษ
"ขณะที่การทำงานในสภาจะมีการตั้งกระทู้ในภายในสัปดาห์นี้ เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน เพื่อสนับสนุนให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญ ทำหน้าที่ตรวจสอบการคุกคามและการละเมิดสิทธินักเคลื่อนไหวทางการเมืองและนักประชาธิปไตยด้วย" โฆษกพรรค อนค.กล่าว
ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ มารดานายสิรวิชญ์ กล่าวถึงอาการล่าสุดของจ่านิวว่า เมื่อวาน (30 มิ.ย.) มีการผ่าตัดที่บริเวณจมูกและใบหน้า อาการขณะนี้คือต้องหายใจทางปากเพราะมีผ้าพันแผลปิดอยู่ เบื้องต้นมีสติพูดคุยได้แล้ว แต่มีอาการเหนื่อยเล็กน้อยเพราะต้องหายใจทางปาก แต่สามารถทานอาหารได้เอง
มารดาจ่านิวปฏิเสธข่าวที่ว่าลูกชายเป็นหนี้นอกระบบว่า เรื่องนี้ตัดไปได้เลยไม่มีแน่นอน จริงอยู่ครั้งหนึ่งจ่านิวเคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ไว้ แต่เป็นเรื่องที่มาจากความทรงจำวัยเด็กสมัยที่พ่อจ่านิวยังขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ ส่วนจ่านิวตอนนี้มีแค่หนี้ กยส.ที่กู้ยืมมาเรียนสมัยอยู่คณะรัฐศาสตร์ มธ.เท่านั้น
"ตั้งแต่ถูกทำร้ายนิวไม่เคยให้การอะไรกับตำรวจ แต่กลับมีข่าวว่าไปให้การตำรวจว่าคนที่ทำร้ายเป็นลูกน้องนักการเมืองดัง ซึ่งไม่จริงยืนยันว่าไม่ได้ออกมาจากปากบุตรชายตนอย่างแน่นอน และแม้แต่กับตนนิวก็ยังไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ฟัง ล่าสุดได้เล่าให้ลูกฟังแล้ว นิวเองก็พูดว่าไม่จริง ไม่ได้ให้ข่าว ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบนั้นก็เช่นกัน นิวบอกบ้ารึเปล่าให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ไปตั้งนานแล้ว" มารดาจ่านิวกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |