1ก.ค.62-นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า เนื่องจากในเดือนตุลาคม พ.ศ.2562 นี้ โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะมีผู้บริหารสถานศึกษาที่เกษียณอายุราชการ จำนวน 2,293 คน และยังมีตำแหน่งรอง ผอ.สถานศึกษาที่ว่างอยู่อีก ประมาณ 4,000 อัตรา แต่ขณะนี้ สพฐ. ไม่สามารถดำเนินการการคัดเลือกได้ เพราะหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สพฐ. ที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่เข้าสอบ ว่า จะต้องผ่านการอบรมก่อน ซึ่งหากต้องอบรม จะต้องใช้ระยะเวลา 3-4 เดือน ซึ่งจะไม่ทันกับช่วงเวลาเกษียณอายุราชการ จึงว่าถือเป็นเรื่องวิกฤตอย่างมากและเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ ดังนั้นตนจึงเตรียมที่จะเข้าพบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เพื่อหารือถึงเรื่องดังกล่าว และขอให้มีคำสั่งเรียกประชุม ก.ค.ศ. โดยเร็ว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุที่จะต้องเร่งให้มีการประชุม ก.ค.ศ.นั้น เนื่องจากต้องมีการพิจารณาหลักเกณฑ์การคัดเลือกผอ.สถานศึกษาและรองผอ.สถานศึกษาในส่วนของคุณสมบัติ เพื่อให้ดำเนินการคัดเลือกตำแหน่งดังกล่าวได้ทันกับช่วงเวลาเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคม เพราะตำแหน่งนี้มีความสำคัญมาก และผู้บริหารสถานศึกษาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาตามนโยบายรัฐบาลให้ไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งการขาดผู้บริหารสถานศึกษาเป็นเวลานานและจำนวนมากขนาดนี้ไม่เกิดผลดีแน่ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราจะต้องดำเนินการ
"แต่ถ้าหาก ท่านรองนายกฯ สมคิด เห็นว่า อยากให้รอ รมว.ศธ.คนใหม่มาดำเนินการ สพฐ.ก็จะประกาศสอบคัดเลือกตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ไปก่อน โดยในส่วนของการคัดเลือกตำแหน่ง ผอ.สพท.นั้น ขณะนี้ สพฐ. มีตำแหน่ง ว่างอยู่ 35 อัตรา เพราะตนเชื่อว่าอย่างน้อยหากได้มี ผอ.สพท. มาช่วยคุมงานก้จะสามารถขับเคลื่อนไปได้"นายสุเทพ กล่าว