แจงคดีเสี่ยเบนซ์ ไม่ฟ้องฐานฆ่าผู้อื่น


เพิ่มเพื่อน    


    อัยการแจงไม่ฟ้องเสี่ยเบนซ์ชนรองตี๋ ข้อหาฆ่าและพยายามฆ่า ถือเป็นดุลพินิจของอัยการเจ้าของคดี และ ผบ.ตร.ไม่เห็นแย้ง
    นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ถึงคดีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เสี่ยเจ้าของโรงงาน ขับรถเบนซ์สปอร์ตชนกับรถของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล หรือรองตี๋ รอง ผกก.สอบสวน กก.2 กองบังคับการปราบปราม ที่เดินทางมาพร้อมครอบครัว จน พ.ต.ท.จตุพรเสียชีวิตพร้อมภรรยา ส่วนลูกสาวคนเล็กได้รับบาดเจ็บ แล้วพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 ได้ยื่นฟ้องนายสมชายเป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน ในฐานความผิด ขับรถด้วยความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด, ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย, ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายสาหัส รวม 3 ข้อหา ว่า ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นฯ ตามที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนแจ้งข้อหาดังกล่าวมาด้วยนั้น ทางสำนักงานอัยการสูงสุดให้ดุลพินิจในการพิจารณาพยานหลักฐานทั้งหมดที่เป็นอิสระกับอัยการเจ้าของสำนวนและคณะทำงาน คดีนี้มีอัยการพิเศษฝ่ายร่วมพิจารณาอยู่กับอัยการเจ้าของสำนวนที่รับผิดชอบ และมีคำสั่งฟ้อง 3 ข้อหาดังกล่าว โดยข้อหาที่อัยการสั่งไม่ฟ้องนั้น ไม่ตัดสิทธิหากญาติผู้เสียหายจะไปยื่นฟ้องเอง
    นายโกศลวัฒน์กล่าวว่า คดีนี้ ภายหลังจากที่อัยการยื่นฟ้องไป 3 ข้อหา ในส่วนข้อหาความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นฯ ตามกฎหมายยังต้องส่งให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทำความเห็นแย้งกลับมาได้ แต่ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์มีความเห็นด้วย คือไม่เห็นแย้งกับความเห็นของอัยการ เท่ากับว่าความเห็นเป็นที่สุดให้ฟ้องตามความเห็นของอัยการ ซึ่งหลังจากอัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาล ทางผู้เสียหายได้ขึ้นแถลงในศาลว่าไม่ติดใจเอาความ โดยที่ลูกสาวของ พ.ต.ท.จตุพร โดยผู้รับมอบอำนาจแถลงว่าได้รับแคชเชียร์เช็คจำนวน 45 ล้านบาท เป็นชื่อของลูกสาว พ.ต.ท.จตุพร จริง ซึ่งขณะนี้ศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ได้สอบคำให้การจำเลยแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลพิเคราะห์แล้วจึงเห็นสมควรให้มีการสืบเสาะและพินิจจำเลยก่อนมีคำพิพากษา รอฟังคำพิพากษาวันที่ 31 ก.ค.นี้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้มีข้อกฎหมายน่าสนใจที่ทางพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนแจ้งข้อหาในความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นฯ โดยในช่วงที่มีการแจ้งข้อหานั้น พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ออกมาให้ความเห็นถึงการเเจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลว่า พฤติการณ์ผู้ต้องหาดื่มสุรามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 260 มิลลิกรัม และขับรถออกจากจุดที่ดื่มเพียง 400 เมตร ก็เกิดอุบัติเหตุ ต้องทราบอยู่แล้วว่าจะต้องเมา ไม่สามารถควบคุมร่างกายตนเอง ไม่พร้อมขับรถ ย่อมเล็งเห็นผลอยู่แล้วว่าจะต้องเกิดอุบัติเหตุ และทางพนักงานสอบสวนได้มีการปรึกษากับพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องแล้ว ก่อนที่ภายหลัง พนักงานอัยการจะมีคำสั่งไม่ฟ้อง 2 ข้อหาหนัก และ ผบ.ตร.ไม่เห็นแย้งกับอัยการ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"