27 ก.พ.61- เมื่อเวลา 16.30 ภายหลังจากที่ศาล จ.ขอนแก่น นัดสอบคำให้ปากนัดที่ 4 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ระหว่างโจทก์คือพนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น กับจำเลย คือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว พร้อมพวก โดยหลังการสอบคำให้การครั้งที่ 4 แล้วเสร็จ นายบุญยงค์ แก้วฝ่ายนอก ทนายความของ นางสาว อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ และ นายอมรพงษ์ จันทร์กวี ทนายความของ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว และ น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีเลขดำที่ อ. 1957/60 ระหว่างพนักงานอัยการจ.ขอนแก่น กับ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว,น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิน, น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือเบนท์,นายวศิน นามพรม และ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ โดยพนักงานอัยการได้เบิกพยานฝ่ายโจทก์ เข้าสอบคำให้การ 4 นัด เสร็จสิ้นไปแล้ว15 ปาก
นายอมรพงษ์ กล่าวว่า ศาลได้นัดสอบพยานโจทก์อีกในวันที่ 28 ก.พ. และวันที่ 13 มี.ค.ที่จะถึงนี้ แต่ในฐานะทนายความของน.ส.เปรี้ยว และ น.ส.เอิน มั่นใจว่าเหตุดังกล่าวไม่ได้ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ถึงแม้ทนายฝ่ายโจทก์จะบอกว่ามีความผิดตามมาตรา 289 ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนก็ตาม
"การตายของน้องแอ๋มนั้น จำเลยทั้ง 5 คน ยอมรับว่าอำพราง ซ่อนเร้นจริงแต่ไม่มีเจตนาฆ่า หรือวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า"
ทนายความผู้นี้ยังกล่าวว่าหลักฐานต่างๆของฝ่ายโจทก์นั้น ส่วนใหญ่เป็นพยานกล่าวอ้าง ที่นำมารวมต่อกัน จึงไม่ใช่ประจักษ์พยานที่ชัดเจน แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอให้การสอบพยานโจทก์จบสิ้นก่อน ว่าฝ่ายโจทก์จะมีพยานใดมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เพราะขณะนี้ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นการลวงมาฆ่า หรือวางแผนฆ่า อีกทั้งการสอบพยานโจทก์ทั้ง 15 ปาก ทีมทนายฝ่ายจำเลยก็ถามค้านทุกปาก ซึ่งก็ไม่เป็นที่หนักใจ และมั่นใจว่าจำเลยจะพ้นผิดในข้อหา ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ด้านนายบุญยงค์ กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนทีมทนายความฝ่ายจำเลย ภาพรวมขณะนี้ไม่มีความหนักใจใดๆ เพราะฝ่ายโจทก์ยังไม่มีพยาน หลักฐานที่ชี้ชัดว่า เป็นการวางแผนฆ่า หรือฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะเหตุการณ์ที่น้องแอ๋มตายนั้นเกิดขึ้นในรถยนต์ ไม่มีบุคคลภายนอกเห็นเหตุการณ์ จึงมีเพียงจำเลยที่อยู่ในรถเท่านั้นที่รู้และเห็นเหตุการณ์ ส่วนการอำพราง ซ่อนเร้นศพคนตาย จำเลยที่อยู่ในรถ ก็ยอมรับว่าร่วมกันทำ ฉะนั้นจึงไม่หนักใจ
"ในคดีนี้ฝ่ายจำเลยศาลนัดสอบพยานในวันที่14-15 มีนาคม นี้ ซึ่งพยานฝ่ายจำเลยก็คือตัวจำเลยทั้ง 5 คน ที่ต้องเป็นพยานให้กันและกัน เพราะในเรื่องนี้มีเพียงจำเลยเท่านั้นที่รู้เหตุการณ์ต่างๆ และพยานคนกลางอีก 3 คน รวม 8 คน"
นายบุญยงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการสอบพยานโจทก์นัดที่ 4 ฝ่ายจำเลยทั้ง 5 คนได้รวบรวมเงินกันรวม 55,000 บาท มอบให้กับทางมารดาของน้องแอ๋มเพื่อเป็นการมอบค่าสินไหมทดแทนหรือค่าทำบุญ ซึ่งในจุดนี้ก็จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาในคดีแพ่งที่มีการเรียกค่าสินไหม ค่าทำบุญด้วย
ทั้งนี้ใบเสร็จทางศาล 50,000 บาท โดย น.ส.เบนท์จ่ายเงินสด 5,000 บาท รวม 55,000 บาท
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |