รัฐบาลสิงคโปร์อ้างบทเรียนจากเหตุการณ์ก่อการร้ายในประเทศอื่น เตรียมผลักดันกฎหมายเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถห้ามการสื่อสารทุกชนิดจากสถานที่เกิดเหตุโจมตีก่อการร้าย เพื่อหลีกเลี่ยงการชี้เป้าปฏิบัติการของฝ่ายความมั่นคง
แฟ้มภาพ นักท่องเที่ยวนั่งรถบัส 2 ชั้นชมย่านการค้าของสิงคโปร์ ภาพ AFP
ประเทศเกาะขนาดเล็กอันมั่งคั่งแห่งนี้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความปลอดภัยที่สุดในโลก ช่วงหลายปีที่ผ่านมาสิงคโปร์ยังได้วางมาตรการป้องกันการก่อการร้ายอย่างเข้มแข็งมากขึ้น นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง เคยกล่าวไว้ว่า การก่อการร้ายโจมตีสิงคโปร์ ไม่ใช่ปัญหาที่ว่าจะเกิดหรือไม่ แต่เป็นปัญหาว่าจะเกิดเมื่อไรเท่านั้น
รายงานของหนังสือพิมพ์สเตรทไทมส์เมื่อวันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 อ้างแถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ว่า มาตรการที่เสนอใหม่นี้จะบรรจุไว้ในกฎหมายความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสาธารณะ (อำนาจพิเศษ) ฉบับปี พ.ศ. 2561 ที่จะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร
มาตรการนี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับผู้สื่อข่าวด้วยและกำหนดบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับ 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 475,850 บาท) จะอนุญาตให้ตำรวจสามารถออก "คำสั่งยุติการสื่อสาร" หลังจากได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
แถลงการณ์กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวจะห้ามบุคคลทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ ถ่ายทำหรือสื่อสารภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวเกี่ยวกับพื้นที่ที่เกิดเหตุ และห้ามการสื่อสารผ่านข้อความอักษรหรือข้อความเสียงเกี่ยวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงที่กำลังดำเนินอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ
กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์อ้างเหตุผลว่า ข้อมูลที่รั่วไหลถึงผู้ก่อการร้ายสามารถก่ออันตรายต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและประชาชนที่ติดอยู่ในสถานการณ์นั้น
ผู้คนในสิงคโปร์ขึ้นชื่อว่าใช้อุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก และยังมีการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วมากด้วย คำแถลงอ้างตัวอย่างเหตุการณ์ในประเทศอื่นๆ ที่การถ่ายทอดสดเหตุการณ์ก่อการร้ายได้เปิดเผยตำแหน่งที่ตั้งของตำรวจและเผยข้อมูลเชิงยุทธการอื่นๆ ของปฏิบัติการ
กระทรวงอ้างถึงการถ่ายทอดสดปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ที่นครมุมไบของอินเดียเมื่อปี 2551 ที่มีเหยื่อโดนฆ่าตายถึง 100 คน และการจับตัวประกันที่ซูเปอร์มาร์เกตของชาวยิวในกรุงปารีสเมื่อปี 2558 ที่ตัวประกันโดนฆ่า 4 ราย
สิงคโปร์มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการสนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ภายในประเทศเพื่อนบ้านของตน เมื่อปี 2559 ตำรวจสิงคโปร์สามารถสกัดกั้นแผนการยิงจรวดจากเกาะหนึ่งของอินโดนีเซียเพื่อโจมตีศูนย์กลางเศรษฐกิจของตน.
กระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า ข้อเสนอเพิ่มอำนาจแก่ตำรวจนี้มีความจำเป็น เพราะสิงคโปร์ยังคงเผชิญกับภยันตรายที่คุกคามความมั่นคงอย่างแท้จริง ทั้งจากบุคคลในประเทศนี้ที่เพาะบ่มความคิดรุนแรง และจากผู้ก่อการร้ายต่างชาติที่มองว่าสิงคโปร์เป็นเป้าหมายที่มีค่า.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |