1 ก.ค.62- น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชน สรุปประเด็นที่ได้รับข้อมูลจากภาคประชาชนที่เป็นห่วงเรื่องกระบวนการยุติธรรมและนิติธรรมที่เท่าเทียม ปัญหาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ และจริยธรรมของผู้นำที่สืบทอดอำนาจในรอบสัปดาห์นี้ คือ 1. กระบวนการทำให้บุคคลสูญหายต้องหมดไปจากความเคยชินสังคมไทย จากกรณีจ่านิวถูกทำร้ายต้นทางของปัญหาคือต้องการทำให้คนคิดต่างสูญหาย ซึ่งเป็นความเคยชินของสังคมไทยมาหลายศตวรรษแล้ว 2. ประชาชนต้องการผู้นำที่มีจริยธรรม ไม่ต้องการผู้นำที่ไม่มีสัจจะ ประชาชนได้หลักฐานการยืนยันความไม่มีสัจจะของผู้นำที่มาจากการสืบทอดอำนาจ จากข่าวการแย่งชิงตำแหน่งในการจัดตั้งรัฐบาล

3. ประชาชนรุ่นใหม่แนะนำว่าการพัฒนาประเทศ ต้อง ใช้หลักทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย โดยยึดหลัก 4 ประการ  คือ 3.1. ทำให้กฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ลดจำนวนลงเหลือ 1 ใน 3 ของที่มีอยู่ เขียนให้ชัดเจนไม่ต้องตีความ 3.2. ทำให้ข้าราชการที่มีอยู่ลดจำนวนลงเหลือ 1 ใน 3 ของที่มีอยู่ เพื่อลดภาระประเทศ 3.3. รัฐธรรมนูญเขียนให้สั้นลงเหลือเพียง 1 ใน 3 จากของเดิมและเขียนระบุชัดเจนไม่ต้องตีความ และ 3.4. ทำให้ประชาชนเชื่อถือว่าประเทศนี้มีความยุติธรรมและนิติธรรมเท่าเทียมกันทุกคน ไม่มีโปรย้ายค่ายคดีหลุด 4. สิทธิเสรีภาพประชาชนสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ทุกคนต้องตรวจสอบได้ ความสงบที่ไม่มีอยู่จริงต้องไม่ใช่เหตุผลคัดค้านการแสดงความคิดเห็นโดยการทำกิจกรรมหรือการชุมนุมของประชาชน ถ้าจะอ้างเพื่อความสงบนักกิจกรรมต้องไม่ถูกลอบทำร้าย

5. กฏหมายที่ล้าสมัยและถูกใช้เป็นเครื่องมือกำจัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ส.ส. ต้องพิจารณาแก้ไข เช่น กฎหมายหมิ่นศาลซึ่งเป็นกฏหมายระบบจารีตประเพณี ที่เน้นให้ความสำคัญกับผู้พิพากษา แม้แต่อังกฤษซึ่งใช้กฏหมายระบบจารีตประเพณีก็พยายามไม่ใช้ในส่วนที่ขัดแย้งกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนในวิพากษ์วิจารณ์มากว่า 30 ปี แต่ประเทศไทยใช้กฏหมายลายลักษณ์อักษรที่มาจากฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งประเทศที่ใช้กฏหมายลายลักษณ์อักษรจะส่วนใหญ่จะไม่ใช้กฎหมายหมิ่นศาลแต่จะมีกฏหมายอื่นใช้แทน ประชาชนต้องการให้แก้ไขในส่วนที่ใครก็ฟัองใครในกรณีหมิ่นศาลได้ ควรจะเป็นเพียงผู้เสียหายมีสิทธิ์ฟ้อง เพื่อมิให้นำกฏหมายนี้มากลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม ในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หลังการรัฐประหาร 2557 ข้อหาดูหมิ่นศาลถูกนำใช้กล่าวหาดำเนินคดีต่อนักการเมืองและนักกิจกรรมมาแล้ว โดยล้วนเกิดจากการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของตุลาการที่ทำหน้าที่พิพากษาตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ล่าสุดก็คดีนายปิยบุตร แสงกนกกุล และ6. ความยากลำบากและเดือดร้อนในการดำรงชีวิตทางเศรษฐกิจ อยากให้เร่งรีบแก้ไขก่อนที่ประชาชนจะต้องไปรับบัตรคนจนกันค่อนประเทศ

น.ส.เกศปรียา กล่าวต่อว่า ประเด็นข้อเสนอของประชาชนจะถูกนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อหาแนวทางแก้ไขในวันนี้ (วันที่ 1 ก.ค. 2562) เวลา 12.30 ณ. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยมีวาระประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชน ดังนี้1. แนวทางและช่องทางการสื่อสารกับประชาชน (หารือเรื่องโครงการฝ่ายค้านพบประชาชน)
2. ความไม่ปกติของการเลือกตั้ง เพื่อนำไปสู่การแถลงข่าวกดดันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3. การขยายผลการอภิปรายประเด็นต่างๆ ในสภา (ยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูป เป็นต้น)