"โดนัลด์ ทรัมป์" สร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่เหยียบเกาหลีเหนือ โดยก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตทางทหารที่หมู่บ้านปันมุนจอม หลังขอนัดพบ "คิม จองอึน" ผ่านทวิตเตอร์ สองฝ่ายหารือร่วมชั่วโมงก่อนตกลงรื้อฟื้นการเจรจา ทรัมป์ยังชวนคิมไปเยือนทำเนียบขาวได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีและบีบีซีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2562 กล่าวว่า การพบกันครั้งที่ 3 ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ตามเวลาประเทศไทย เกิดขึ้นจากปุบปับเมื่อผู้นำสหรัฐเชื้อเชิญคิมผ่านข้อความทางทวิตเตอร์เมื่อวันเสาร์ ระหว่างที่ทรัมป์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำจี 20 ที่นครโอซากาของญี่ปุ่น
ทรัมป์เดินทางมาเยือนเกาหลีใต้และเยี่ยมชมเขตปลอดทหาร (ทีเอ็มซี) ซึ่งเขาเคยพลาดการเยือนเมื่อปี 2560 เนื่องจากหมอกลงจัดทำให้เฮลิคอปเตอร์ต้องบินกลับ ครั้งนี้ทรัมป์ได้นัดพบคิมที่หมู่บ้านปันมุนจอม สถานที่ประวัติศาสตร์ที่คิม จองอึน นัดพบกับประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว
การมาเยือนปันมุนจอมของทรัมป์ครั้งนี้ทำให้เขาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เช่นกัน ด้วยการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐที่ยังอยู่ในตำแหน่งคนแรกที่ได้เหยียบดินแดนของเกาหลีเหนือ เมื่อทรัมป์ก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตแดนทางทหาร ซึ่งเป็นแนวคอนกรีตเตี้ยๆ เข้าไปในฝั่งของเกาหลีเหนือ เพื่อถ่ายภาพคู่กับคิม หลังจากทั้งคู่จับมือกันเหนือเส้นแบ่งเขตแดน แล้วจากนั้นทรัมป์ก็เชิญคิมเดินข้ามมาในฝั่งเกาหลีใต้ ซึ่งประธานาธิบดีมุนรออยู่
"ยินดีที่ได้พบกับคุณอีกครั้ง ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะได้พบคุณในสถานที่นี้" คิมกล่าวกับทรัมป์ผ่านล่ามด้วยรอยยิ้ม ต่อหน้ากล้องโทรทัศน์ที่ถ่ายทอดภาพประวัติศาสตร์นี้ ส่วนทรัมป์กล่าวว่า นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญและเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ ภายหลังคิมข้ามเขตแดนเข้าสู่เกาหลีใต้พร้อมกับเขา ทรัมป์ได้กล่าวด้วยท่าทีผ่อนคลายอีกว่า "ผมเชื่อว่านี่คือการแสดงถึงความตั้งใจของเขาที่จะขจัดอดีตอันโชคร้ายและเปิดอนาคตใหม่"
การพบกันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ระหว่างทั้งคู่ ต่อจากการพบกันครั้งแรกที่สิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และที่เวียดนามในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เดิมทีทรัมป์กล่าวไว้ว่า พวกเขาคงจะแค่จับมือกันและกล่าวทักทาย เพราะไม่ได้เจอกันมานานแล้วตั้งแต่ซัมมิตที่เวียดนาม แต่สุดท้ายทั้งคู่ได้นั่งสนทนากันที่ฟรีดอมเฮาส์ในฝั่งเกาหลีใต้นานเกือบ 1 ชั่วโมง และมีช่วงสั้นๆ ที่ประธานาธิบดีมุนได้เข้าร่วม เป็นการเจรจาแบบ 3 ฝ่ายด้วย
บีบีซีกล่าวว่า เมื่อคิมและทรัมป์นั่งลงเพื่อสนทนากันนั้น คิมกล่าวด้วยว่า "การจับมือแห่งสันติภาพ" ของทั้งคู่ในสถานที่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งแยกเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้นั้น แสดงให้เห็นว่า "เราเต็มใจที่จะทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง"
หลังการหารือ ทั้งสองเห็นพ้องกันว่าจะรื้อฟื้นการเจรจาระดับคณะทำงานว่าด้วยเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ที่ไม่คืบหน้าเลยนับแต่ซัมมิตครั้งที่ 2 ที่เวียดนามจบลงด้วยความล้มเหลว ทรัมป์กล่าวด้วยว่า เขาได้เชิญคิมไปเยือนทำเนียบขาวได้ "ทุกเมื่อที่เขาต้องการ" และว่าถือเป็นเกียรติที่คิมเชิญเขาก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตแดนนั้น และตัวเขาก็ภูมิใจที่ก้าวข้ามไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |