ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 เมื่อมิถุนายน 2019 ที่กรุงเทพฯ ได้เกิดเอกสารสำคัญชิ้นหนึ่งคือ “มุมมองของอาเซียนต่อแนวคิดอินโด-แปซิฟิก” (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific)
แนวคิดอินโด-แปซิฟิกของอาเซียนตั้งอยู่บนหลักการว่าทั้งเอเชียแปซิฟิกกับอนุภูมิภาคอินเดียต่างเป็นประเทศที่กำลังเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงเป็นการดีที่จะร่วมมือแทนการแข่งขันเพื่อเอาชนะอีกฝ่ายแบบ “เกมศูนย์” (Zero Sum Game)
อินเดียมีความสัมพันธ์ทั้งกับฝ่ายสหรัฐ คือสหรัฐ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น กับอีกฝ่ายคือความพยายามรวมตัวของรัสเซีย-อินเดีย-จีน หรือที่เรียกว่า RIC (จาก BRICS) การแข่งขันกับการจับขั้วมีแนวโน้มเข้มข้นขึ้น ให้ความสำคัญกับเอเชียแปซิฟิกพร้อมกับอนุภูมิภาคอินเดีย
เอกสารอธิบายอย่างตรงไปตรงมาว่าประชาคมอาเซียนตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของพลวัตรดังกล่าว จำต้องเข้ามาบริหารจัดการโครงสร้างเศรษฐกิจและความมั่นคง
วัตถุประสงค์ของเอกสารฯ เพื่อนำเสนอกรอบแนวคิดความร่วมมือ เสริมสร้างบรรยากาศแห่งสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่งคั่ง ความท้าทายที่ต้องเผชิญร่วมกัน สร้างโครงสร้างภูมิภาคที่ยึดกฎกติกา เสริมสร้างความเชื่อมั่น ไว้วางใจต่อกัน ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้ใกล้ชิดกว่าเดิม เสริมสร้างประชาคมอาเซียนด้วยกลไกที่อาเซียนเป็นแกนนำ เช่น การเชื่อมโยงมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ความร่วมมือทางทะเล การเชื่อมโยงกันและกัน มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางของสหประชาชาติ (SDGs) และความร่วมมืออื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย
ยึดหลักความเป็นแกนกลางของอาเซียน (ASEAN Centrality) เปิดเผยโปร่งใส รวมทุกประเทศเข้ามายึดหลักธรรมาภิบาล เคารพอธิปไตย ไม่แทรกแซงกิจการภายใน ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและสนธิสัญญาต่างๆ ยึดมั่นกฎบัตรอาเซียน ข้อตกลงต่างๆ ของอาเซียน สนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC)
เอกสารฯ ระบุความร่วมมือ 4 กรอบหลัก ได้แก่ ความร่วมมือทางทะเล การติดต่อเชื่อมโยง (connectivity) เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและอื่นๆ
ความร่วมมือทางทะเลเป็นประเด็นแรกที่เอ่ยถึง ด้วยเล็งเห็นความท้าทายที่มีอยู่และที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งเรื่องทรัพยากรทางทะเล มลพิษ ปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (United Nations Convention on the Law of the Sea : UNCLOS) ที่ให้แก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี หลักเดินเรือเสรีและการบินผ่านน่านน้ำเสรี ฯลฯ
การติดต่อเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคทั้ง 2 จะสนับสนุนแผนแม่บทอาเซียนที่มีอยู่แล้ว เป็นการเชื่อมโยงทั้งทางกายภาพและระหว่างประชาชน ส่งเสริมการทำธุรกิจ การศึกษา ช่วยให้การเชื่อมโยงมีประสิทธิภาพและราบรื่น
รักษาความเป็นแกนกลางของอาเซียน :
แต่เดิมสหรัฐ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น วางยุทธศาสตร์สำหรับเอเชียแปซิฟิก ระยะหลังปรับเป็น “Indo-Pacific” เชื่อมต่ออนุภูมิภาคอินเดียเข้ากับเอเชีย มองว่าเอเชียแปซิกฟิกกับอนุภูมิภาคอินเดียเชื่อมโยงกัน
อันที่จริงแล้วแต่ละประเทศ แต่ละองค์กร ต่างมีแผนในกรอบของตัวเอง สหรัฐ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น มีแผนที่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เช่นเดียวกับที่อินเดียมีกรอบของตนเองมานานแล้ว แนวคิดอินโด-แปซิฟิกของอาเซียนจึงเป็นอีกกรอบที่เกิดขึ้น
ไม่ว่าอินเดียกับมหาอำนาจจะให้ความสำคัญมากเพียงไร อย่างน้อยอาเซียนกำลังสร้างเวทีที่ตนจะมีปากเสียง ได้เสนอวาระของตัวเอง และอาจกลายเป็นคนกลางที่ได้รับการยอมรับถ้าบริบทอำนวย ดึงอินเดียกับประเทศในอนุภูมิภาคให้ใกล้ชิดอาเซียนมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นและกำลังจะเป็นเช่นนั้นตามแผนการเชื่อมโยง
เป็นความพยายามที่ประชาคมอาเซียนจะมีส่วนในการจัดระเบียบภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก อย่างน้อยไม่ปล่อยให้พวกมหาอำนาจตัดสินใจตามลำพัง ไม่แอบอิงหรือถูกครอบงำด้วยประเทศใดประเทศหนึ่ง ระมัดระวังไม่กระทบผลประโยชน์ของประเทศนอกอาเซียนจนเกินจะรับได้ เป็นเหตุผลหลักที่มหาอำนาจยอมรับและสนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียน ดีกว่าที่มหาอำนาจต่างแข่งกันสร้างสถาปัตยกรรมความมั่นคงภูมิภาคของตัวเอง
หากอินเดียยินดีร่วมเข้ากลุ่มย่อมช่วยส่งเสริมบทบาทความเป็นแกนกลางของอาเซียนๆ จะมีส่วนเพิ่มขยายผลประโยชน์ของอินเดีย
มองเชิงปรปักษ์กับความร่วมมือ :
มีทั้งผู้ที่มองความเป็นไปของ “Indo-Pacific” ในเชิงปรปักษ์กับความร่วมมือ
พวกที่มองเป็นปรปักษ์จะมองว่าเป็นการช่วงชิงระหว่างฝ่ายสหรัฐกับอีกฝ่ายคือจีน-รัสเซีย รัฐบาลสหรัฐประกาศชัดที่จะขยาย/รักษาอิทธิพลของตนในย่านนี้ ยึดหลักแสดงพลังนำสันติภาพ ต่อต้านผู้ทำลายระเบียบโลกซึ่งหมายถึงระเบียบโลกปัจจุบันที่สหรัฐเป็นแกนนำ มองการก้าวขึ้นมาของจีน-รัสเซียด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
พวกที่มองเป็นความร่วมมือจะมองว่าทุกประเทศจะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนา การขยายเศรษฐกิจ การเชื่อมต่อระหว่างกัน กำลังเพิ่มทวีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เอเชียแปซิฟิกกับอนุภูมิภาคอินเดียจะติดต่อเชื่อมโยงใกล้ชิดมากกว่าเดิมทั้งทางบก ทางทะเลและอากาศ เป้าหมายความมั่นคงคือรักษาการพัฒนา การติดต่อเชื่อมโยง
ถ้ามองทั้งมุมเชิงปรปักษ์กับความร่วมมือพร้อมกัน สามารถอธิบายได้ว่าเป็นความร่วมมือคู่การแข่งขันช่วงชิง การทำลายล้างอีกฝ่ายเป็นยุทธศาสตร์ที่ดำเนินแบบค่อยเป็นค่อยไป เป็นเรื่องของบริบท เกี่ยวข้องกับหลายปัจจัยทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ เรื่องเฉพาะหน้าคือต้องเป็นฝ่ายได้เปรียบได้ผลประโยชน์มากกว่าจากความร่วมมือ
เป้าหมายที่อาเซียนต้องการคือให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย อยู่ในบรรยากาศส่งเสริมการค้าการลงทุน แก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี ยึดกฎกติกา
ผลประโยชน์อื่นๆ ที่ทั้งอาเซียน อินเดียและประเทศอื่นๆ ได้ เช่น ความร่วมมือด้าน non-traditional security issues ที่นับว่าจะสำคัญและซับซ้อน จำต้องอาศัยความร่วมมือระดับนานาชาติ การเดินทางไปมาหาสู่ระดับประชาชนน่าจะเพิ่มมากขึ้น เกิดการแลกเปลี่ยนถ่ายทอดวัฒนธรรมประเพณี ความสามารถด้านต่างๆ ตามแนวทางของโลกาภิวัตน์ ดังที่นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง (Lee Hsien Loong) กล่าวถึงแนวคิดความร่วมมือระดับพหุภาคีจะเป็นประโยชน์แก่ทุกประเทศ ด้วยความเชื่อว่า การอยู่ด้วยกันอย่างสันติจะส่งเสริมการค้าการลงทุน ช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัว แล้วกระจายผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นแก่ทุกประเทศ ดังนั้นจึงต้องมุ่งสร้างสันติภาพ พยายามเชื่อมรวมเข้าหากัน สร้างระบอบที่ยึดกฎกติกา การจะคาดหวังให้ชาติอื่นๆ ยึดค่านิยมวัฒนธรรมกับระบบการเมืองเดียวกันไม่สมเหตุผลและเป็นไปไม่ได้ แท้ที่จริงแล้วความแตกต่างหลากหลายของมนุษยชาติคือความเข้มแข็งในตัวเอง ประวัติศาสตร์ความก้าวหน้าของมนุษยชาติคือการแลกเปลี่ยนแนวคิด การเรียนรู้และปรับตัวเข้าหากันอย่างต่อเนื่อง
อาเซียนก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 1967 บัดนี้มีอายุกว่า 5 ทศวรรษ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก จากสมาชิกก่อตั้ง 5 ประเทศ ขยายเป็น 10 ประเทศ และเป็นประชาคมอาเซียนในปัจจุบัน สร้างเวทีการประชุมหลายกลุ่ม นำประเทศสำคัญๆ เข้ามาประชุมในเวทีที่อาเซียนสร้างขึ้น บัดนี้พยายามขยายเวทีไปสู่อนุภูมิภาคอินเดียอีกครั้ง เอกสาร “มุมมองของอาเซียนต่อแนวคิดอินโด-แปซิฟิก” เป็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมก้าวแรกของความพยายามรอบใหม่ อาจมองว่าเป็นกรอบภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ แต่ไม่ใหม่สำหรับฝีมือการทูตของประชาคมอาเซียน
----------------------
ภาพ : คณะผู้นำประเทศในการประชุมสุดยอดอาเซียน มิถุนายน 2019
----------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |