รุมสับแผนปฏิรูปประเทศ แค่วาทกรรมภาพสวยหรู


เพิ่มเพื่อน    

 ฝ่ายค้าน-ปชป.รุมสับแผนปฏิรูปประเทศ ล้มเหลวแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ ภาพสวยหรูปฏิบัติไม่ได้จริง "ปิยบุตร" ซัดแค่เครื่องมือสืบอำนาจ คสช. ชี้ "บิ๊กตู่-กองทัพ" ควรถูกปฏิรูปมากสุด เลขาฯสภาพัฒน์ยันรับข้อเสนอชง ครม.ปรับให้ดีขึ้น

    ที่หอประชุม บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน เวลา 11.00 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาต่อเนื่องเป็นวันที่สอง เรื่องรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2562 
    โดยนายชวนกล่าวว่า วันนี้มีผู้อภิปรายเรื่องดังกล่าวรวม 18  คน แบ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน จำนวน 12 คน และ ส.ส.พรรคฝ่ายรัฐบาลจำนวน 6 คน ขอความร่วมมือให้อภิปรายแบบกระชับเวลา หลังจากที่การอภิปรายวันที่ 26 มิ.ย. นำเสนอประเด็นอภิปรายอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ญัตติที่เสนอเข้ามาจำนวน 8 ญัตติ ว่าด้วยการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนและเกษตรกรให้ได้รับการพิจารณาและไม่ตกค้าง 
น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า แผนการปฏิรูปของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมมนตรี ทำให้เกิดความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ 5 ปีที่ผ่านมาไทยกลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก คนจนเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 14 ล้านคน มีเพียงคน 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถือครองสินทรัพย์มากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ จึงตอกย้ำให้เห็นว่าไทยอยู่ในภาวะรวยกระจุกจนกระจาย มีโครงสร้างเศรษฐกิจที่บิดเบี้ยว เพราะพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจแต่ในระดับบน เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มเจ้าสัว แต่ผู้ประกอบการรายย่อย คนยากจนไม่ได้รับประโยชน์ แผนปฏิรูปประเทศฉบับนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำได้เลย การปฏิรูปจึงเป็นเพียงวาทกรรมเท่านั้นเอง
          นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า รายงานปฏิรูปเป็นเพียงภาพที่บอกเท่านั้น แต่ปฏิบัติจริงไม่ได้ จึงมีคำถามว่าแผนปฏิรูปนี้สำคัญจริงหรือไม่ การที่ต้องมารายงานสภาทุก 3 เดือน แสดงว่าความสำคัญต้องเป็นจริง แต่เมื่อถึงเวลาการรายงาน กลับมีการปฏิรูปเพียงไม่กี่กระทรวงเท่านั้น และแผนปฏิรูปครั้งนี้จะทำได้จริงหรือ เพราะเป็นแผนปฏิรูปของข้าราชการ ไม่ใช่ปฏิรูปของประชาชน การปฏิรูปที่มอบนโยบายแบบผู้ใหญ่ใจดี ผู้ใหญ่รู้ดี ไม่มีทางสำเร็จได้ แผนปฏิรูปจะต้องสัมพันธ์กับแผนแม่บท โครงการปฏิรูปต้องไม่ทับซ้อนกับกระทรวงและจังหวัดที่จะทำกันทุกปี ต้องระบุปัญหาสำคัญเร่งด่วนว่าคืออะไร และวัดผลความสำเร็จภายใน 1 หรือ 2 ปี 
        นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า เท่าที่อ่านแผนปฏิรูปของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ละเรื่องมีการเขียนไว้อย่างสวยหรู แต่ไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะแผนปฏิรูปเกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริต ทุกวันนี้หลายกรณีไม่สามารถหาคำตอบหรือตรวจสอบได้ อาทิ เรื่องอุทยานราชภักดิ์ การทำธุรกิจของบุตรชายของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ที่ตั้งอยู่ในค่ายทหาร และ พล.อ.ปรีชายอมรับว่ามีจริง แต่เอาผิดไม่ได้ รวมถึงเรื่องนาฬิกา 22 เรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม
    “จะเห็นว่าการตรวจสอบภาครัฐไม่ว่าคดีไหนก็จะออกมาในทางเดียวกันหมด คือ โปร่งใส ไม่มีทุจริต และบุคคลที่ถูกตรวจสอบก็ได้เป็น ส.ว.กันถ้วนหน้า ถ้าเปรียบการปฏิรูปเหมือนการรีโนเวทบ้าน แต่หน้าบ้านมีขยะเน่าเหม็นไปหมด โดยไม่คิดเคลียร์ขยะและอุดรอยรั่วบนหลังคาบ้าน จะเรียกว่ารีโนเวทอย่างไร” นายรังสิมันต์ระบุ
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำการปฏิรูป ควรเป็นบุคคลที่ควรถูกปฏิรูปมากที่สุดภายใต้แผนปฏิรูปที่เสนอ เพื่อไม่ให้เกิดภาพของรัฐซ้อนรัฐ หรือซูเปอร์รัฐบาล เนื่องจากการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐมนตรีนั้นถูกกำกับโดยแผนปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ดังนั้น ส.ส.ที่ถูกรับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีจะทำหน้าที่เพียงดูเรื่องงบประมาณเท่านั้น ซึ่งคือการลดทอนคุณค่าของ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง นอกจากนั้นแผนงานปฏิรูปเป็นเพียงการสร้างอุตสาหกรรมปฏิรูปที่ได้ผลลัพธ์ คือกระดาษกองใหญ่ ขณะที่การตรวจสอบการปฏิรูป แม้ระบุว่าจะต้องรายงานต่อรัฐสภา และเมื่อมีกฎหมายที่ต้องออกเพื่อปฏิรูปให้ใช้การประชุมร่วมรัฐสภา ที่ให้ ส.ว.ร่วมด้วย คือกระบวนการให้ ส.ว. เข้าครอบงำการทำงานของฝ่าย ส.ส. 
          "องค์กรที่ควรปฏิรูปมากที่สุดคือกองทัพ ปฏิรูปให้กองทัพเคารพสิทธิของประชาชน ปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง ไม่ใช่ใช้อำนาจรัฐประหารทุกๆ 4-6 ปี ซึ่งการปฏิรูปประเทศเป็นผลพวงมาจากรัฐประหาร ปี 2557 ดังนั้น การปฏิรูปยุค คสช. เป็นข้ออ้างจากการรัฐประหาร และเป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ไม่ให้ความสำคัญกับประชาชน ทำให้ระบบรัฐประหารฝังตัวในรัฐธรรมนูญรับรองให้การรัฐประหารมีความถูกต้อง" นายปิยบุตรกล่าว
     กระทั่งเวลา 15.10 น. นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ชี้แจงว่า รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดว่าแผนปฏิรูปประเทศต้องออกมาภายใน 1 ปี หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ เป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องเร่งรัดทำแผนปฏิรูป ซึ่งการปฏิรูปประเทศเป็นเรื่องยาก และได้รับการต่อต้านในบางส่วน จึงต้องกลั่นกรองบางเรื่องที่สามารถดำเนินการได้ก่อน ส่วนเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่ต้องออกกฎหมาย และระเบียบรับรอง เช่น รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเรื่องที่ยาก ใช้เวลาหลายขั้นตอน ไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว 
    อย่างไรก็ตาม รายงานต่างๆ ที่จะนำเสนอต่อสภาทุก 3 เดือน จะมีการปรับเอกสารให้อ่านง่ายขึ้น และให้เห็นความคืบหน้า ขณะเดียวกันเว็บไซต์สภาพัฒน์ จะเปิดให้เห็นถึงความก้าวหน้าทั้งหมด ส่วนข้อเสนอแนะของสมาชิกในวันนี้ จะนำเสนอให้ที่ประชุม ครม. รับทราบ เพื่อนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป
     จากนั้นประธานการประชุมได้สั่งปิดการรับทราบรายงานดังกล่าวในเวลา 15.30 น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"