แฟ้มภาพ โดนัลด์ ทรัมป์ (ซ้าย) สนทนากับวลาดิมีร์ ปูติน ที่กรุงฮานอยเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2560 ภาพ AFP
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กรณีที่ซีไอเอแจ้งเบาะแสหน่วยงานความมั่นคงรัสเซียจนสามารถสกัดแผนก่อการร้ายในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไว้ได้
คำกล่าวขอบคุณผู้นำสหรัฐผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา เป็นการแลกเปลี่ยนคำชื่นชมระหว่างผู้นำชาติมหาอำนาจคู่นี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากก่อนหน้านี้ปูตินและทรัมป์ได้คุยโทรศัพท์หารือกรณีวิกฤติโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว
รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า ปูตินได้แสดงความขอบคุณกับทรัมป์ ที่สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) ได้แบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับสำนักงานความมั่นคงกลาง (เอฟเอสบี) ของรัสเซีย จนสามารถทลาย "เซลล์ก่อการร้าย" ที่กำลังวางแผนก่อเหตุโจมตีในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัสเซีย
"ข้อมูลที่ได้รับจากซีไอเอเพียงพอต่อการตรวจจับ, ตามลา และจับกุมพวกอาชญากรไว้ได้" สำนักข่าวหลายแห่งของรัสเซียรายงานคำแถลงของทำเนียบเครมลิน
ปูตินยังได้ให้คำมั่นด้วยว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงต่างๆ ของรัสเซีย ก็จะแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับมาเกี่ยวกับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายต่อสหรัฐและพลเมืองของสหรัฐด้วยเช่นกัน
ด้านทำเนียบขาวของสหรัฐกล่าวว่า การโจมตีที่รัสเซียสกัดกั้นไว้ได้นี้ อาจสามารถสังหารผู้คนจำนวนมากมาย พร้อมกับย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นตัวอย่างของสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นได้เมื่อสหรัฐและรัสเซียร่วมมือกัน
เอฟเอสบีประกาศเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า สามารถจับกุมสมาชิกเซลล์ย่อยของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) 7 คน ที่กำลังวางแผนจะระเบิดฆ่าตัวตายและ "สังหารพลเรือน" ภายในสถานที่ชุมนุมชนของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในวันที่ 16 ธันวาคม
คำแถลงเผยด้วยว่า ตำรวจยึดวัตถุระเบิดจำนวนมากที่ใช้สำหรับประกอบระเบิด, ยึดปืนไรเฟิลอัตโนมัติหลายกระบอก, เครื่องกระสุน และสิ่งตีพิมพ์ของพวกหัวรุนแรง
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันอังคารที่แล้ว อเล็กซานเดอร์ บอร์ตนิคอฟ ผู้อำนวยการเอฟเอสบี เพิ่งแถลงว่า รัสเซียกำลังเฝ้าระวังว่า มีความเป็นไปได้ที่พวกนักรบญิฮาดในซีเรียจะเดินทางกลับเข้ารัสเซียก่อนหน้าการแข่งขันฟุตบอลโลกและการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2561
ปีนี้เกิดเหตุโจมตีรัสเซียแล้วหลายครั้ง รวมถึงการวางระเบิดที่สถานีรถไฟใต้ดินเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อเดือนเมษายน ทำให้มีคนเสียชีวิต 14 คน
รัสเซียเผชิญภัยคุกคามจากการโจมตีก่อการร้ายมากขึ้นนับแต่กองทัพรัสเซียแทรกแซงทางทหารในซีเรียเมื่อเดือนกันยายน 2558 เพื่อโอบอุ้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด ของซีเรีย และทำให้รัสเซียตกเป็นเป้าหมายใหญ่ของกลุ่มไอเอส
ไอเอสเคยอาละวาดยึดดินแดนกว้างใหญ่คาบเกี่ยวระหว่างซีเรียกับอิรักก่อตั้งเป็นคอลิฟะห์เมื่อปี 2557 ทั่วไปคาดการณ์กันว่ามีแนวร่วมมากถึง 40,000 คนเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงจากรัสเซีย เพื่อเข้าร่วมกับไอเอสในซีเรีย ข้อมูลของหน่วยงานด้านความมั่นคงของรัสเซียเมื่อปี 2558 ประเมินว่า มีพลเมืองรัสเซีย 2,900 คนเข้าร่วมกับไอเอส และยังมีอีกหลายพันคนที่มาจากประเทศเอเชียกลาง
ในการคุยโทรศัพท์เมื่อวันพฤหัสบดี นอกจากหารือประเด็นเกาหลีเหนือกันแล้ว ทรัมป์ยังได้สร้างความประหลาดใจด้วยการกล่าวขอบคุณปูตินที่ได้ให้การยอมรับเศรษฐกิจของอเมริกา
ทรัมป์และปูตินเคยกล่าวยกย่องชมเชยอีกฝ่ายอย่างเปิดเผยแล้วหลายครั้ง ซึ่งนักวิจารณ์บางคนเรียกสัมพันธภาพที่อบอุ่นเป็นกันเองระหว่างทั้งคู่ว่า "โบรแมนซ์".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |