นิสิตมก.จี้บิ๊กตู่เร่งคดีเปรมชัย


เพิ่มเพื่อน    

    นิสิตวนศาสตร์ ม.เกษตรฯ ร้อง "บิ๊กตู่" เร่งคดี "เปรมชัย" รมว.ทส.ยันคนผิดต้องได้รับโทษ  เผย 28 ก.พ.นัดประชุมติดตามความคืบหน้า ตำรวจลั่นไม่หนักใจ สอบสวนขยับ 60% จ่อเรียก "วิเชียร" ให้ข้อมูลเพิ่ม
    ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่ง ก.พ.) เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์  กลุ่มนิสิตคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำโดยนายวิทวัส บรรเลง นายกสโมสรนิสิตคณะวนศาสตร์ ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้เร่งดำเนินคดีกับกลุ่มของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก กรณีบุกรุกและล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก รวมถึงยังมีการตรวจสอบพบว่ามีอาวุธ เครื่องกระสุนหลายรายการ ขณะเดียวกันหากพบว่ามีคนหรือกลุ่มบุคคลที่มีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์ครั้งนี้อีก ขอให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด 
    "จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นการดำเนินการอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมในคดีดังกล่าว เช่นยังไม่มีการเรียกนายเปรมชัยและพวกไปสอบสวน แต่กลับสอบสวนฝ่ายเจ้าหน้าที่ ดังนั้นในนามตัวแทนนิสิตคณะวนศาสตร์ ขอเรียกร้องให้ดำเนินคดีดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา เพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ดีต่อสังคม และเพื่อให้นิสิตคณะวนศาสตร์ที่เมื่อจบการศึกษาแล้วจะออกไปปฏิบัติงานในพื้นที่อนุรักษ์ป่า ไม่รู้สึกหมดกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่
    ทั้งนี้ แม้จะเป็นเพียงนักศึกษาก็ไม่ได้กลัวอำนาจใดๆ เพราะการปกป้องผืนป่าและธรรมชาติเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ไม่ใช่เฉพาะคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น" นายวิทวัสระบุ
    ด้าน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)  เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ได้เรียกประชุมคณะกรรมการติดตามคดีการล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ของนายเปรมชัย ที่มีนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเป็นประธาน และมี พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นที่ปรึกษา มาร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี รวมทั้งตรวจสอบสำนวน พยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อให้คดีมีความรัดกุมรอบคอบ โดยเบื้องต้นนายเปรมชัย และพวกยังมีความผิดใน 9 ฐานความผิดที่ได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนจะมีการเพิ่มข้อหาหรือไม่ ต้องรอผลการประชุมในวันที่ 28 ก.พ.นี้
     "ยืนยันที่จะติดตามคดีนี้อย่างถึงที่สุด ไม่มีการเบี่ยงเบนประเด็น หรือให้การช่วยเหลือนายเปรมชัยและพวกอย่างเด็ดขาด ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เชื่อมั่นในศาล โดยขณะนี้ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, กรมป่าไม้, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเฝ้าระวังการบุกรุกผืนป่าและการล่าสัตว์ป่า และเจ้าหน้าที่ในภาคสนามต่อจากนี้จะมีฝ่ายสนับสนุน ซึ่งอย่างน้อยรองอธิบดีจะต้องเป็นประธานเพื่อดูแลไม่ให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างโดดเดี่ยว และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าคนที่ทำผิดจะต้องได้รับโทษ" รมว.ทส.กล่าว
    ส่วนที่มีกระแสสังคมรวมทั้งนักวิชาการและเอ็นจีโอมองว่า นายเปรมชัยจะไม่ถูกดำเนินคดีเพราะมีการช่วยเหลือจากอำนาจรัฐนั้น พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่าคิดกันไปเอง ขณะนี้คดีการล่าสัตว์ป่าของนายเปรมชัยยังไม่เบี่ยงเบนประเด็นจากฐานความผิดทั้ง 9 คดี พยานหลักฐาน เอกสารมีพร้อม ที่สำคัญต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
    ที่ จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผกก.สภ.ทองผาภูมิ เปิดเผยเกี่ยวกับการนัดหมายสอบปากคำนายเปรมชัยและพวกว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การปฏิเสธ แต่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้มาพบเพื่อสอบปากคำเพิ่ม ได้มีการนัดหมายว่านายเปรมชัยจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งในส่วนของพยานวัตถุต่างๆ ได้ส่งตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว อยู่ระหว่างรอการแจ้งผลตรวจสอบที่ต้องใช้เวลาพอสมควร 
      "ไม่หนักใจ ยืนยันว่าคณะพนักงานสอบสวนดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด รับฟังทั้งสองฝ่ายและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ผู้เสียหายต้องการนำพยานวัตถุหรือข้อมูลใดๆ มาเพิ่มเติมก็รับ ดำเนินการตรงไปตรงมา เพราะนี่ถือเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ ซึ่งการดำเนินการเป็นไปในรูปของคณะทำงานสอบสวน ที่มีผู้บังคับบัญชาในระดับภาค 7 และกองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีมาดูแลสำนวนอย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าการปฏิบัติโปร่งใสตรวจสอบได้" พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ระบุ
     ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ กล่าวว่า การสอบสวนมีความคืบหน้าไปแล้ว 60 เปอร์เซ็นต์ กำลังรอผลการส่งพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ส่งไปสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลางแจ้งผลกลับมา ทั้งนี้ในวันที่ 28 ก.พ.ได้เชิญนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ยามมาสอบปากคำเกี่ยวกับการเดินทางเข้าออก เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมในการทำสำนวนคดีต่อไป
       ขณะที่นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวถึงความคืบหลังจากตั้งคณะกรรมการ 5 ฝ่ายตรวจสอบพื้นที่ป่าที่ อ.ภูเรือ จ.เลย ที่นายเปรมชัยอาจมีโฉนดทับซ้อนกับพื้นที่ป่าที่เคยถูกเพิกถอนไปแล้วกว่า 6,228 ไร่ว่า กรมที่ดินได้ส่งช่างรังวัดมารังวัดพื้นที่จริงแล้ว ขณะที่กรมป่าไม้ได้เข้าตรวจสอบและนำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศมาทำแนว พร้อมทั้งให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แล้วว่า 1.การบุกรุกที่ดินดังกล่าวมีหลักฐานหรือเอกสารอะไรที่จะเอาคนบุกรุกมาดำเนินคดีได้ 2.พนักงานที่ดินได้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่ได้ไปแจ้งความว่าแผนที่ของที่ดินมีแนวอย่างไร ถึงนำที่ดินที่เพิกถอนไปแล้วมาออกโฉนดทีหลัง ส่วนขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวนอาจจะเรียกพยานหลักฐานเอกสาร หรือเรียกผู้บุกรุกที่ทำผิดมาสอบสวน
     นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ในกว่า 6 พันไร่ปรากฏว่ามีคนเอาที่ดินประมาณ 6 ไร่มาออกเอกสารซ้ำ  เพราะฉะนั้นจะเป็น 2 คดีคือ คดีบุกรุกกว่า 6 พันไร่เพราะมีร่องรอยการเข้าทำประโยชน์ และการดำเนินคดีเอาที่ดิน 6 ไร่ที่เคยถูกเพิกถอนไปแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกว่า 6 พันไร่มาออกโฉนดซ้ำ ตรงนี้จะดำเนินคดี ส่วนกรมที่ดินจะต้องเพิกถอนโฉนด 6 ไร่นี้ โดยเป็นอำนาจของอธิบดีกรมที่ดินที่เห็นว่าจะต้องเพิกถอนหรือไม่อย่างไร เบื้องต้นดูจากแผนที่แล้วเห็นว่าทับซ้อนกัน แต่ว่าแผนที่กับที่ดินจริงต้องมีการรังวัดจริงเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่แน่ชัดออกมา สำหรับการดำเนินคดีเป็นอำนาจของผู้ที่ไปแจ้งความ คือเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสาขาด่านซ้าย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"