โกงคนจนลามปท. ทหารคุ้มกัน2ฮีโร่


เพิ่มเพื่อน    

    มอบเกียรติบัตรพร้อมทุนการศึกษานิสิต มมส.-อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น หลังเปิดโปงขบวนการทุจริต กกล.รส.ขอนแก่นรับบัญชานายกฯ ส่งทหารหญิงหมวดน้ำหวานคุ้มครองความปลอดภัยพร้อมรับเข้าทำงานเป็นทหาร "อนันตพร" ตั้ง กก.สอบ 2 บิ๊ก พม. แนะผู้ปฏิบัติงานใครโดนบังคับให้รับสารภาพจะกันไว้เป็นพยาน ขณะที่ ป.ป.ท.พบ 12 จว.มีพฤติการณ์ทุจริตคล้ายกัน เร่งสอบให้เสร็จภายใน 3 เดือน 
    ที่สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 จ.ขอนแก่น วันที่ 26 กุมภาพันธ์ นางอุบลรัตน์ คงกระพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 มอบเกียรติบัตรพร้อมทุนการศึกษาแก่ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา อายุ 23  ปี นิสิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ซึ่งเป็นผู้เปิดโปงขบวนการปลอมแปลงเอกสารทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ป่วยเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และ น.ส.ณัฐกานต์ หมื่นพล อายุ 26 ปี อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ซึ่งถูกศูนย์ดังกล่าวเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม 
    การมอบเกียรติบัตรพร้อมทุนการศึกษาในครั้งนี้เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ ที่ทั้งสองคนทำความดีเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติในด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน จนมีการตรวจสอบไปทั่วประเทศ
    ขณะที่ พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าฝ่ายข่าวกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดขอนแก่น  (กกล.รส.จ.ขอนแก่น) นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารหญิงจากหมวดน้ำหวาน มทบ.23 เข้าพูดคุยกับ น.ส.ปณิดา และ น.ส.ณัฐกานต์ หลังสิ้นสุดการมอบเกียรติบัตรดังกล่าว   
    โดย พ.อ.พิทักษ์พลกล่าวว่า ได้รับคำสั่งให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่มารักษาความปลอดภัยพยานสำคัญในคดีดังกล่าว ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นพยานคนสำคัญในการตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ตามคำสั่งการของนายกรัฐมนตรี และเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้ง 2 คนซึ่งถือเป็นเยาวชนที่มีความกล้าหาญ นอกจากนี้ พล.ต.อัครเดช บุญเทียม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทหารดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และหากทั้ง 2 คนยังไม่มีงานทำ มทบ.23 ก็พร้อมที่จะให้ทั้งคู่เข้ามาทำงานในหน่วยกองร้อยน้ำหวาน หรือในตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราวหากประสงค์ที่จะทำงาน
    "กกล.รส.จ.ขอนแก่นได้ส่งกำลังทหารหญิงในหมวดน้ำหวานมาดูแลความปลอดภัยน้องๆ ซึ่งหมวดน้ำหวานมีกำลัง 11 นาย จะผลัดเปลี่ยนดูแลความปลอดภัยให้น้องทั้งสองคนตลอด 24 ชม. และกำลังทหารหญิงทุกคนผ่านการฝึกยุทธวิธีอารักขาและรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญมาแล้วหลายคน" พ.อ.พิทักษ์พลกล่าว
    ด้าน น.ส.ปณิดากล่าวว่า ดีใจและอบอุ่นใจที่มีทหารมาดูแลความปลอดภัยตนเองและครอบครัว ส่วนการเข้าทำงานนั้นก็อยากจะเป็นทหารอยู่แล้ว ซึ่งจะได้ปรึกษากับครอบครัวเพื่อตัดสินใจอีกครั้ง
    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนางทิชา ณ นคร อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ระบุมีคนออกมาข่มขู่นักศึกษาที่ออกมาเปิดโปงการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งว่า เห็นข่าวแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดได้ แต่เท่าที่ฟังดูไม่น่าจะถึงขนาดข่มขู่ เหมือนแค่มีอาจารย์ไปตำหนินักศึกษาเท่านั้น และสังคมจับตาดูอยู่คงไม่มีใครกล้าไปข่มขู่
    เมื่อถามถึงคลิป ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่นกำลังขนย้ายเอกสารเพื่อมาปลอมแปลงที่บ้านตนเอง นายวิษณุกล่าวว่าตรงนี้ต้องมีการตรวจสอบแน่นอน โดยคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเป็นผู้ตรวจสอบ งานนี้ถือเป็นงานใหญ่ของกระทรวง พม.และต้องร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดย พม.จะสอบด้านวินัย ส่วน ป.ป.ท.สอบด้านคดีอาญา  ดังนั้นจะเป็นการดำเนินการทั้ง 2 ทาง
    ส่วนคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้ปลัดและรองปลัด พม.มาปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ นั้น นายวิษณุกล่าวว่าเรื่องการสอบต้องดำเนินการกันไป ไม่ได้มีการกำหนดเวลาสอบไว้ว่าจะต้องเสร็จเมื่อไร  แต่อย่างน้อยเมื่อไปถึงจุดหนึ่งน่าจะรู้แล้วว่าควรทำอย่างไร และจริงๆ แล้ววันนี้ไม่ได้บอกว่าทั้ง 2 คนผิด  แต่ด้วยความที่เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบในขณะนั้น เดี๋ยวจะทำให้ข้าราชการคนอื่นๆ ไม่กล้าพูด ดังนั้นเพื่อความสบายใจของท่านเลยย้ายออกมาก่อน ซึ่งทั้ง 2 คนยินดี ส่วนสถานที่ทำงานจะให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้จัดเตรียมให้ น่าจะเป็นที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)
    พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีให้นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัด พม. และนายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม.มาปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ ว่า ทั้งสองคนได้ติดต่อเพื่อมารายงานตัวแล้ว แต่เมื่อเช้าตนมีภารกิจเป็นประธานการประชุมจึงยังไม่ได้ติดต่อกลับไป  ส่วนจะให้มาช่วยงานด้านไหนนั้นอยู่ที่สำนักนายกฯ พิจารณา ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบนั้น พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม.ได้ดำเนินการสอบตามขั้นตอนและระเบียบอยู่แล้ว ตนคงไม่ต้องไปสั่งการอะไรเพิ่มเติม ทั้งนี้ได้กำชับ รมว.พม.ให้ไปดูโครงการอื่นๆ ให้ครบถ้วนหากพบว่ามีการทุจริตสามารถดำเนินการได้เลย
    ทั้งนี้เมื่อเวลา 08.30 น. นายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม.เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลรายงานตัวต่อ พล.อ.ฉัตรชัย ในฐานะกำกับดูแลกระทรวง พม.ที่ทำเนียบฯ แล้ว ส่วนนายพุฒิพัฒน์ยังไม่เดินทางมารายงานตัว แต่ได้ให้สัมภาษณ์ว่าอยู่ระหว่างการประสานเข้ารายงานตัวต่อ พล.อ.ฉัตรชัยว่าสะดวกให้เข้ารายงานตัวช่วงเวลาไหน แต่วันที่ 27 ก.พ.ตนจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งโดยไปนั่งทำงานอยู่ที่สำนักงาน ก.พ. 
    ด้าน พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งว่า ขณะนี้ตนได้ตั้งนางไพรวรรณ พลวัน รองปลัดพม.เป็นรักษาการปลัด พม.แทนนายพุฒิพัฒน์ ที่ถูกย้ายไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ
      ส่วนการสอบข้อเท็จจริงนายพุฒิพัฒน์รวมถึงนายณรงค์นั้น วันที่ 26 ก.พ.ได้ส่งหนังสือราชการทาบทามข้าราชการระดับ 10 ทั้งจากสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม และสำนักงาน ก.พ. หน่วยงานละ 1 คน และข้าราชการใน พม. 2 คน รวมเป็น 5 คน มาเป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในครั้งนี้ ส่วนใครจะเป็นประธานต้องพิจารณาจากความอาวุโส ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการตอบรับ ทั้งนี้ได้กำหนดระยะเวลาสอบข้อเท็จให้เสร็จภายใน 1 เดือน ยกเว้นจะมีการสอบเชิงลึกหรือมีหลักฐานมากขึ้น ก็สามารถขยายเวลาออกไปได้อีก
    "ผู้ปฏิบัติงานในต่างจังหวัดตอนนี้ที่มีการสอบก็พบบางพื้นที่มีมูล ใครผิดก็ต้องว่าไปตามความผิด แต่สิ่งที่อยากฝากคือ ถ้าผู้ปฏิบัติงานถูกพาดพิงและคิดว่าท่านไม่ได้ทำเองด้วยความสมัครใจแต่โดนบังคับ หากมาสารภาพและให้ข้อมูลกับเราผมจะกันไว้เป็นพยาน และความผิดจากหนักก็จะกลายเป็นเบา แต่หากไม่เป็นพยาน ไม่ให้ข้อมูล ยอมที่จะโดนคนเดียวก็ลำบากในการสอบสวน ฝากไว้แค่นี้ นี้คือสิ่งสำคัญ" พล.อ.อนันตพรกล่าว
    ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มีความคืบหน้ากรณีมีผู้ร้องเรียนศูนย์ร้องเรียน กอ.รมน. กองทัพบก จ.ขอนแก่น ถึงเรื่องการทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จากนั้นประสานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แล้วสั่งการให้คณะกรรมการ ป.ป.ท.ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้สอบปากคำชาวบ้านที่มาร่วมอบรมศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกว่า 90 ราย พบว่าทั้งหมดถูกนำเอาสำเนาบัตรประชาชนไปลงทะเบียนรายชื่อในบัญชีเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งคนละ 2,000-3,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 6.9  ล้านบาท และพบข้อมูลการทำความผิดชัดเจน ซึ่งจะดำเนินการขยายผลตรวจสอบทั่วประเทศทั้ง 37  ศูนย์ เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยบอร์ด ป.ป.ท.อนุมัติตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง คาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือนในการตรวจสอบแสะสรุปภาพรวมดังกล่าว 
    โดย พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ท.เปิดเผยว่า จากการเร่งตรวจสอบในพื้นที่เป้าหมาย 37 ศูนย์ ขณะนี้ ป.ป.ท.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วกว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ พบการกระทำส่อทุจริตใน 12 จังหวัด โดย ป.ป.ท.มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนแล้ว 2 จังหวัด คือ ขอนแก่นและเชียงใหม่ ในวันที่ 27 ก.พ.จะเสนอให้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนอีก 2 จังหวัด คือ บึงกาฬและหนองคาย  ส่วนจังหวัดที่เหลืออีก 8 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี อุดรธานี สุราษฎร์ธานี พระนครศรีอยุธยา น่าน กระบี่  ตราด และตรัง จะทยอยเสนอบอร์ด ป.ป.ท.ให้มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนต่อไป ส่วนจังหวัดที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีจังหวัดใดตรวจสอบไม่พบการกระทำความผิดเลย
    "แต่ละจังหวัดพบว่ามีการทำพฤติการณ์คล้ายคลึงกัน ซึ่งจังหวัดที่พบว่ามีการกระทำผิดเข้าข่ายการทุจริต คณะกรรมการตรวจสอบจะทำรายงานส่งให้ ป.ป.ท.เพื่อพิจารณาไต่สวนว่ามีการทุจริตจริงหรือไม่  และจะตั้งอนุกรรมการไต่สวนลงพื้นที่ไต่สวนข้อเท็จจริงโดยละเอียดยิ่งขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะสรุปสำนวนว่ามีมูลความผิดอย่างไร หากมีมูลทางคดีอาญาจะส่งเรื่องให้อัยการดำเนินการตามกฎหมาย แต่หากเป็นเรื่องความผิดทางวินัยก็จะส่งให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยต่อไป"
    พ.ท.กรทิพย์ยืนยันว่า ป.ป.ท.ได้ตรวจสอบอย่างรอบด้าน และการดำเนินการทางวินัยหน่วยงานต้นสังกัดก็สามารถดำเนินการคู่ขนานไปกับ ป.ป.ท.ได้ ซึ่งในการตรวจสอบได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยเฉพาะการร้องขอเอกสารและพยานหลักฐาน
    ส่วนการกระทำความผิดจะมีความเชื่อมโยงไปถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงหรือไม่นั้น พ.ท.กรทิพย์ระบุว่า ป.ป.ท.ไม่มีอำนาจหน้าที่ถึงระดับนั้น และขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่เชื่อมโยงไปถึง แต่หากทำการตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้บริหารระดับสูงไปมีส่วนในการกระทำความผิด จะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อไป ขณะเดียวกันจะแจ้งข้อมูลไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อขอตรวจสอบเส้นทางการเงินอีกด้วย แต่ความเสียหายในแต่ละจังหวัดมีความแตกต่างกัน ทั้งกรณีที่ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินเลยหรือได้รับเงินเพียงบางส่วน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"