การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รองสารวัตร (รอง สว.)-ผู้บังคับหมู่ (ผบ.หมู่) วาระประจำปี 2561 ที่เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งตามมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่กำหนดเดดไลน์เอาไว้ต้องเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 30 มิ.ย.นี้
แม้จะเป็นตำแหน่งเล็กๆ เป็นตำแหน่งเด็กๆ ระดับผู้หมวด ผู้กอง และชั้นประทวน ไม่ใช่ตำแหน่งหลักๆ ไม่ใช่ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย แต่การแต่งตั้งครั้งนี้ดูจะได้รับความสนใจและการจับตาเป็นพิเศษ ทั้งจากเหล่าสีกากีและคนทั่วไป
เพราะการแต่งตั้งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4-5 ปี ที่ใช้นโยบาย "กระจายอำนาจ" ให้ระดับ "ผู้บัญชาการ" หรือ "ผบช." แต่ละหน่วยจัดทำบัญชีแต่งตั้งเอง ไม่ใช่ "การรวมศูนย์" ที่อำนาจการแต่งตั้งทั้งหมดอยู่ที่ "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" หรือ "ผบ.ตร." เหมือนที่ผ่านๆ มา
หลังจากเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2562 "บิ๊กแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีหนังสือคำสั่ง ที่ 297/2562 เรื่อง การมอบหมายอำนาจการสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
เนื้อหาโดยสรุปคือ มอบหมายการสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ทั้งกรณีเลื่อนขึ้นหรือสับเปลี่ยนหมุนเวียน 1.การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งในมาตรา 44 (11) และ (12) ในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้จเรตำรวจแห่งชาติหรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้มีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้แต่งตั้ง
2.การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งในมาตรา 44 (10) (11) (12) ในกองบัญชาการที่มิได้สังกัดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ผู้บัญชาการหรือตำแหน่งเทียบเท่าที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยเป็นผู้แต่งตั้ง 3.การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจทั้งข้อ 1 และ 2 ให้สำนักงานกำลังพล (กองทะเบียนพล) หรือเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานกำลังพลของหน่วยแล้วแต่กรณี เป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของข้าราชการตำรวจที่จะแต่งตั้งให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
และ 4.การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระหว่างสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับกองบัญชาการที่มิได้สังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือการแต่งตั้งที่มิได้สังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้หัวหน้าหน่วยต้นสังกัดที่ประสงค์จะแต่งตั้งข้าราชการตำรวจประสานทำความตกลงไว้เป็นหลักฐานให้ชัดเจน แล้วให้หน่วยที่ประสงค์จะแต่งตั้งเป็นผู้ออกคำสั่ง
นั่นทำให้การแต่งตั้งตำรวจระดับ รอง สว.-ผบ.หมู่ วาระประจำปี 2561 ประเดิมคำสั่งแรกในการกระจายอำนาจแต่งตั้ง ไม่ใช่การรวมศูนย์เหมือนก่อน
ที่สำคัญเป็นการแต่งตั้งครั้งแรกใน "กรมปทุมวัน" หลังจากที่ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (อดีต ผบช.สตม.) โอนย้ายไปเป็นข้าราชการพลเรือน ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี
แม้ตามตำแหน่ง "บิ๊กโจ๊ก" สมัยเป็น "ตำรวจ" จะไม่ได้มีอำนาจ ไม่ได้มีหน้าที่ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ เพราะ "อำนาจ" ทั้งหมดตามคำสั่ง คสช. มอบหมายให้ "ผบ.ตร." เป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้ง แต่ในทางปฏิบัติ บรรดา "สีกากี" น้อย-ใหญ่ ต่างก็รับรู้ว่า "บิ๊กโจ๊ก" น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย
ถึงขนาดครั้งหนึ่งเมื่อมีกระแสข่าวว่า "บิ๊กโจ๊ก" เป็นคนทำบัญชีแต่งตั้ง เจ้าตัวยังออกมาแก้ต่างในทำนองที่ว่าตัวเองไม่มีอำนาจแต่งตั้ง แต่ด้วยความใกล้ชิด "ผู้ใหญ่" และเป็นผู้ปฏิบัติ รู้จักตำรวจที่ทำงานหลายคน เมื่อมีการสอบถามก็ช่วยเสนอแนะข้อมูลบ้างเท่านั้น
ในการแต่งตั้ง รอง สว.-ผบ.หมู่ วาระประจำปี 2561 ครั้งนี้ ภายใต้แนวทางการจัดทำบัญชีแต่งตั้งแบบ "กระจายอำนาจ" ไม่ใช่การ "รวมศูนย์" ที่สร้างความอึดอัด สร้างความผิดหวัง สร้างปัญหาทั้งการแต่งตั้งคนไม่ตรงกับงาน เด็กเส้นได้ดี คนทำงานไม่ได้รับการสนับสนุน มีชื่อคนตายได้รับการแต่งตั้ง แต่งตั้งแล้วยกเลิก ยกเลิกแล้วแต่งตั้งใหม่ มั่วกันจนวุ่นวายไปหมด
หากการแต่งตั้งครั้งนี้ปัญหาต่างๆ ที่ผ่านมาหมดไป ทุกอย่างโปร่งใส เป็นธรรม คนทำงานได้รับการสนับสนุนตามสมควร ก็จะทำให้เหล่า "สีกากี" ระดับ "นายพล" ระดับ "นายพัน" โล่งใจ
มีแสงสว่างปลายอุโมงค์ในการแต่งตั้งวาระประจำปี 2562 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |