อืมม์ม์ม์...มันก็น่าจะจริงอย่างที่ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย ท่านว่าเอาไว้นั่นแหละว่า ถ้าลองให้บรรดาประเทศสมาชิก อาเซียน ทั้งหลายแทรกแซงกิจการภายในระหว่างกันและกันได้ อย่างที่คุณน้อง ธนาธร ท่านเสนอแนะเอาไว้แบบ เอาเก๋เข้าว่า รับรองว่า...ไม่เพียงอาเซียนทั้งอาเซียนต้องแตกกันเละเทะ เละตุ้มเป๊ะเท่านั้น เผลอๆ...อาจต้องหันมารบกันเองแบบยุคประวัติศาสตร์สมัยโบราณเอาเลยก็ไม่แน่!!!
----------------------------------------------------
คือแค่จะหา มาตรฐาน อะไร มาใช้เป็นบรรทัดฐานในการแทรกแซงกิจการภายในระหว่างกันและกัน ก็แทบมองไม่เห็น แทบหาข้อสรุปไม่ได้เลย เพราะภายในประเทศอาเซียนแต่ละประเทศนั้น ต่างก็มี ปัญหาในลักษณะเฉพาะ ของตัวเองไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะในแง่การเมือง เศรษฐกิจ ค่านิยมทางสังคม ไปจนถึงวัฒนธรรม ประเพณี เอาเลยก็ว่าได้ การไม่แทรกแซงกิจการภายในซึ่งกันและกัน อันถือเป็น พื้นฐานเริ่มแรก ของความเป็นอาเซียน หรือเป็นสิ่งที่ทำให้ความเป็นอาเซียนมีโอกาสอุบัติขึ้นมาได้แบบจริงๆ จังๆ มันจึงเป็นสิ่งมีความเหมาะสม สอดคล้อง มาโดยตลอด แม้แต่ในยุคที่ยังต้องมีการแบ่งข้าง แบ่งฝ่าย เป็นฝ่ายสังคมนิยม กับฝ่ายทุนนิยม ก็ด้วยหลักการแห่งการไม่แทรกแซงกิจการภายในซึ่งกันและกันนี่เอง ที่ถึงทำให้ความเป็นอาเซียน 10 ประเทศ มันจึงอุบัติขึ้นมาได้จนตราบเท่าทุกวันนี้...
-----------------------------------------------------
แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ...การที่คุณน้อง ธนาธร แห่งพรรค อนาคตไหม้ ท่านได้นำเสนอแนวคิดที่สุดแสน อันตราย ทำนองนี้ ออกมาในช่วงใกล้ๆ ที่จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียนแค่ไม่กี่วัน ท่านคงไม่ได้คิดว่ามันจะ ทำได้-ทำไม่ได้, เหมาะ-ไม่เหมาะ หรือ ถูก-ไม่ถูก มากมายซักเท่าไหร่นัก แต่ท่านคงพยายามจะหาอะไรที่มัน ดูแปลก, ดูใหม่, ดูเก๋-ดูเท่ อะไรทำนองนั้น ออกมาสร้าง จุดขาย สร้างสรรค์ สตอรี่ บอร์ด กำหนด ครีเอทีฟ เอาไว้สำหรับการ โฆษณา แบบพวกเอเยนซีโฆษณาขายสินค้าประเภทต่างๆ โดยทั่วไป ส่วนมันจะทำได้-ทำไม่ได้ เหมาะ-ไม่เหมาะ ถูก-ไม่ถูก ควร-ไม่ควร ถ้าหากมี “อย.” หรือมี สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค คอยจับตาดูอยู่บ้าง ก็แค่พยายาม พูดหวัดๆ เอาไว้ในตอนท้าย แบบประเภท การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องตัดสินใจกันเอาเอง ชนิดอาจฟังไม่รู้เรื่อง หรือฟังไม่ทัน และคงต้องไป ฉิบหาย กันเอาเองก็แล้วกัน อะไรประมาณนั้น...
--------------------------------------------------
ซึ่งนี่อาจต้องถือเป็นบุคลิกลักษณะ เป็นแนวทาง เป็นสไตล์ ที่บรรดาคนหนุ่ม คนรุ่นใหม่ แห่งพรรค อนาคตไหม้ เขานำมาใช้กันโดยตลอด ในการหาเสียง หาความนิยม ให้กับกลุ่มก้อนทางการเมือง หรือพรรคการเมืองของตัวเองมาตั้งแต่แรก ซึ่งก็ดูจะเป็นอะไรที่ ได้ผล มิใช่น้อย ถึงขั้นแค่ตั้งพรรคได้ไม่กี่เดือน กี่วัน ก็สามารถผงาดขึ้นมาเป็นพรรคการเมืองอันดับต้นๆ เบียดแซงพรรคการเมืองเก่าๆ แก่ๆ ที่มีอายุยาวนานเกือบเป็นศตวรรษ ชนิดต้องชิดซ้าย ตกคู ตกคลอง เอาง่ายๆ จะด้วยเหตุเพราะวิถีชีวิตของผู้คนในยุคหลังๆ โดยเฉพาะ คนรุ่นใหม่ มักต้องตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของการ โฆษณา อย่างมิอาจปฏิเสธ หรือเป็นเพราะโดยคุณลักษณะของคนรุ่นใหม่ มักไม่ค่อยสนใจอะไรที่ละเอียด ลึกซึ้ง ชอบอะไรที่เอาง่ายๆ เอาหยาบๆ เข้าว่า หรือไม่ อย่างไร ก็คงต้องไปใคร่ครวญ พิจารณา กันเอาเอง...
---------------------------------------------------
แต่ที่คงต้องยอมรับก็คือว่า...ด้วยบุคลิก ลักษณะ และสไตล์ทำนองนี้นี่เอง ที่ทำให้พรรค อนาคตไหม้ เขามาแรง แซงโค้ง ซะเหลือเกิน ยิ่งใครไปด่า ไปว่า ไปหยิบเอาเรื่องโน้น เรื่องนี้ มาวิพากษ์ วิจารณ์ ยิ่งส่งผลให้ยิ่ง ดังระเบิด มากขึ้นไปเท่านั้น แบบคล้ายๆ ศิลปิน ดารานักร้องรุ่นใหม่ๆ ประเภทคุณน้อง ลำไย ไหทองคำ อะไรประมาณนั้น ไม่ว่าใครจะไปหยิบเอาลีลาการแอ่น การเต้น ในท่า สะพานโค้ง หรือท่าไหนๆ ก็แล้วแต่ มาพูดจาว่ากล่าวกันในมุมไหน ต่อมุมไหน แต่จำนวนผู้ที่เข้าไปกดไลค์ กดไม่ไลค์ แวะเข้าไปชมการแอ่นไป แอ่นมา ในยูท้ง ยูทูบ ก็ปาเข้าไปเป็นล้านๆ พุ่งพรวดๆ พราดๆ ในระดับ 10 ล้าน 20 ล้าน เอาเลยก็ไม่แน่ อันนี้...จึงต้องถือเป็น ความสำเร็จ ในอีกรูปแบบหนึ่งของบรรดาคนรุ่นใหม่ๆ ทั้งหลาย ส่วนจะดี-ไม่ดี เหมาะ-ไม่เหมาะ ถูก-ไม่ถูก ถือเป็นอีกเรื่องที่คงไปใคร่ครวญ พิจารณา กันเอาเองตามแบบฉบับ หรือตามรสนิยมของใครก็ของมัน...
---------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้การรับมือกับคนรุ่นใหม่ หรือกับพรรคอนาคตใหม่ ออกจะเป็นที่น่าปวดเศียร เวียนเกล้า อยู่พอสมควร คือมันไม่ได้เกี่ยวกับความถูก-ความผิด ความเหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร แต่มันหนักไปทางความชอบใจ-ไม่ชอบใจ นั่นแหละเป็นหลัก โดยถ้าหากบรรดาคนรุ่นเก่า หรือประเภทพวกไดโนเสาร์ทั้งหลาย ไม่ได้คิดหน้า-คิดหลังให้ละเอียดถี่ถ้วน อาศัยความชอบใจ-ไม่ชอบใจ ไปด่าเด็ก ด่า กะปอม กันแบบเสียๆ หายๆ เด็กมันก็เลยเกิดแรงฮึด แรงแค้น แรงอาฆาต หันมารวมตัว รวมตีน ไล่กระทืบผู้ใหญ่ รุมกัดไดโนเสาร์ แจกกล้วย แจกผลไม้รวม จนกลายเป็นพวก ออเรนจ์ การ์ด ส่งผลให้ธนาธร-ปิยบุตร กลายเป็น โรแบส ปิแอร์ เป็น หลุยส์ อองตวน เอาง่ายๆ...
--------------------------------------------------------
โดยถ้าหากเมื่อไหร่ที่ธนาธร-ปิยบุตร เกิดประสบ ความสำเร็จ จากวิธีการขาย การตลาด การโฆษณาในแบบที่ว่า ได้อย่างเป็นเนื้อ เป็นหนัง ขึ้นมาจริงๆ อันนั้นนั่นแหละ...รับรองว่ามีแต่ต้อง ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ลูกเดียวเท่านั้น ไม่ใช่แต่เฉพาะประเทศไทย สังคมไทย อาจต้องเละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊ก พอๆ กับ ยุคแห่งความสยดสยอง ในครั้งปฏิวัติฝรั่งเศสเมื่อครั้งอดีตเท่านั้น กระทั่ง อาเซียนทั้งอาเซียน อาจแตกกันเละเทะ พังพินาศเอาง่ายๆ อย่างที่รัฐมนตรี ดอน ปรมัตถ์วินัย ท่านว่าไว้ ด้วยเหตุนี้คงต้องเพิ่มความละเอียด ความประณีต ในการรับมือกับพวกเด็กๆ พวกคนรุ่นใหม่เขาซักหน่อย ถ้าหากไม่อยากจะให้ประเทศไทยหรืออาเซียนทั้งอาเซียนต้อง อนาคตไหม้ ในวันข้างหน้า...
--------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Talmage... “Wise men are instructed by reason; men of less understanding by experience; the most ignorant by necessity; and beast by nature.- คนฉลาดมากเรียนรู้ด้วยเหตุผล ฉลาดน้อยเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ คนไม่ฉลาดเลยเรียนรู้เพราะความจำเป็นบังคับ เดียรัจฉานเรียนรู้ด้วยธรรมชาติ...”
-------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |