ความหยาบคายในจอทีวี บรรทัดฐานใหม่ที่คนดูต้องยอมรับ!!

        ไปอ่านเจอข้อความนี้ในหนังสือ "สื่อแวดล้อม" ที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์สนับสนุนการจัดพิมพ์แล้ว รู้สึกโดนใจมนุษย์ป้าอย่างจัง

      เพราะนานพอสมควรแล้ว ที่ไม่เปิดทีวีดู ด้วยเหตุผลที่ว่านี้แหละ ถึงแม้จะถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า "ดัดจริต" เพราะโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว และถึงแม้มนุษย์ป้าเองนั้น เวลาพูดจาเล่นหัวเมาธ์แตกกับเพื่อนตอนเป็นเด็กเรียนชั้นมัธยมนั้น ยังออกรสเผ็ดมันส์ ขึ้นกูขึ้นมึงอยู่

      อย่างไรก็ดี ไม่เลยสักครั้งที่เราจะปล่อยสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ออกจากปาก หรือก่นด่าชี้หน้าบริภาษใครด้วยภาษาหยาบคายที่ดูเหมือนกลายเป็นเรื่องปกติ และกำลังจะเป็นความบันเทิงที่เคยชินในสังคมไทยไปเสียแล้ว

      แต่เดิมจำได้ว่า เราจะได้ยินภาษาพ่อขุน รวมทั้งคำด่าเสียๆ หายๆ นั้นจากละเม็งละครเท่านั้น ด้วยละครนั้นสร้างหรือจำลองจากชีวิตจริง  ..ทว่ามาวันนี้ นักจัดรายการ พิธีกร โฆษกรายการทีวีต่างๆ หรือแม้แต่แขกรับเชิญที่มาออกทีวี พร้อมที่จะแสดงตัวตนของตัวเอง โดยไม่แคร์สื่อ กรี๊ดกร๊าดปล่อยกูมึง อี.. ไอ้...ต่างๆ นานาอย่างออกรสออกชาติ

      เราควรจะต้องยอมจำนน เสพสื่อเหล่านี้จริงหรือ???

      หาคำตอบจากมนุษย์ลูก มนุษย์หลาน มนุษย์น้องๆ ยุคดิจิตอล ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า หนีไม่พ้น!! เพราะเดี๋ยวนี้ละครหรือรายการต่างๆ ทางทีวีมัน "เอาต์" แล้ว เราอยากดูรายการอะไร ซีรีส์ไหน ก็กดหาทางมือถือได้เลย และรายการที่ว่าเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นคลิปทางยูทูบหรือเฟซบุ๊กนั้น เขาก็จะใช้ภาษาสุดลิ่มทิ่มประตู หยุดไม่อยู่ ฟังไม่ได้ยิ่งกว่าในทีวีเสียอีก ...แต่ใครไม่ชอบฟัง เขาก็ไม่สนใจ เพราะมีคนอีกมากมายที่ชอบฟัง และเห็นว่าเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน มิเช่นนั้น คลิปดังว่าเหล่านี้คงไม่ทำเงินมหาศาล และแย่งรายได้จากทีวีจอแบนทั้งหลาย

      โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว นั่นคือ ขณะที่เราสามารถเชิดใส่รายการต่างๆ ที่เราไม่อยากดูได้ แต่เราก็ไม่อาจจะหนี Norm หรือความเป็นปกติของสังคมยุคนี้ที่เห็นว่า การแสดงออกแบบหยาบคายของคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นบนรถไฟฟ้า รถเมล์ แม้ในชุดเครื่องแบบนักเรียนนักศึกษานั้น เป็นเรื่องเฉยๆ ส่วนในสายตาของผู้หลักผู้ใหญ่ คนเฒ่าคนแก่นั้น ..ใครแคร์!!!

      สุภาษิต "สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล" ไม่ได้ผลสำหรับคนยุคใหม่กระมัง เพราะเด็กๆ บอกว่าใครจะไปแคร์หรือแส่เรื่องชาวบ้านล่ะ สมัยนี้ เพราะมีเรื่องของตัวเองก็ปวดหัวพอแล้ว!!! เฮ้อ.

                                                              "ป้าเอง"