ตำรวจแถลงคืนความเป็นธรรมเหยื่อถูกแก๊งโรแมนซ์สแกมขโมยบัตรประชาชนเปิดบัญชีรับโอนเงิน มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้าน เจ้าตัวต้องกลายเป็นผู้ต้องหาสู้คดีนานกว่า 2 ปี พบเป็นแก๊งเดียวกับที่ลักบัตร "ณิชา" 
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงคืนความเป็นธรรมให้ น.ส.พิริยา สมมูล อายุ 25 ปี ที่ถูกคนร้ายกลุ่มโรแมนซ์สแกมขโมยข้อมูลบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร รับโอนเงินจากผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหาย 2,330,600 ล้านบาท ทำให้ถูกดำเนินคดีใน 8 ท้องที่มานานกว่า 2 ปี
    ก่อนหน้านี้ น.ส.พิริยาได้เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ถูกคนร้ายแอบนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชี เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่า น.ส.พิริยาถูกคนร้ายขโมยบัตรประชาชนไปจริงเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2559 บริเวณถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยา จ.ชลบุรี และนำบัตรไปเปิดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 5 บัญชี กระทั่งรวบรวมหลักฐานพบว่าคนร้ายที่เกี่ยวข้องในคดีนี้มี 4 ราย คือ น.ส.ปวีณา สิงหวิบูลย์, น.ส.เจรติ สายสิน, นายไซมอน อีโค อายุค และนายราชีด โอลาเลแคน ยูซุป ชาวไนจีเรีย โดยพนักงานสอบสวนออกหมายจับข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” และยังพบว่าผู้ต้องหา 3 ใน 4 คน เป็นกลุ่มคนร้ายชุดเดียวกับคดีของ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ซึ่งได้ถูกจับกุมและคุมขังอยู่ในเรือนจำ ส่วนผู้ต้องหารายที่ 4 อยู่ระหว่างการหลบหนี เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตำรวจจะเยียวยาช่วยเหลือ น.ส.พิริยา ในเรื่องคดีความทางอาญาที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด ให้ได้รับความเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด ส่วนการฟ้องร้องทางแพ่งขึ้นอยู่กับ น.ส.พิริยา ในการพิจารณาดำเนินการกับสถาบันการเงินอีกครั้ง อีกทั้งเห็นว่าธนาคารต่างๆ ต้องเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยมากขึ้น และควรมีการตรวจสอบข้อมูลผู้นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคารอย่างเข้มงวด
    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังแถลงผลการจับกุมนายซีวานยานา เฮเนรี สัญชาติยูกันดา และ น.ส.ชัญญาพิชญ์ วิศรี อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มหลอกลวงผู้เสียหายผ่านแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก โดยการแช้ตข้อความแสดงตนเป็นบุคคลอื่น จนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ก่อนตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างๆ โดยจะมีการขยายผลต่อไป.