ป้ามือขวานขอเลื่อนพบตำรวจรับทราบข้อหาตามหมายเรียก เผยรอดู กทม.เอาจริงแค่ไหนแก้ปัญหาตลาดล้อมบ้านใน 7 วัน ทั้งจะรอศาลปกครองนัดไต่สวน 2 มี.ค.นี้ในคดีที่ฟ้องผู้ว่าฯ กับพวกละเลยหน้าที่ "อัศวิน" เรียกประชุมผู้บริหารสรุปข้อมูล ลั่นพร้อมเยียวยาผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
    วันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ คือวันกำหนดนัดที่พนักงานสอบสวน สน.ประเวศได้ออกหมายเรียกให้ น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ และ น.ส.ราณี แสงหยกตระการ เจ้าของบ้านพักภายในหมู่บ้านเสรีวิลล่า เขตประเวศ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา 3 ข้อหา คือ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากใช้ขวานและท่อนเหล็กทุบรถกระบะที่จอดขวางทางเข้า-ออกบ้าน และเจ้าของรถได้เข้าแจ้งความที่ สน.ประเวศ
    นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของ น.ส.รัตนฉัตร และ น.ส.ราณี เปิดเผยว่า น.ส.รัตนฉัตร และ น.ส.ราณี ได้ขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากติดภารกิจ โดยทางทนายความจะแจ้งไปยังพนักงานสอบสวน สน.ประเวศเพื่อเลื่อนนัดต่อไป และคาดว่าภายในเดือนมีนาคมนี้ ทั้ง 2 คนจะเข้าพบพนักงานสอบสวนแน่นอน ซึ่งแนวทางต่อสู้นั้น เชื่อว่าทั้งสองจะยอมรับผิด แต่ทำไปเพราะบันดาลโทสะ เนื่องจากได้รับความกดดันเรื่องการจอดรถขวางทางเข้า-ออกบ้านมานานนับสิบปี
    ทนายความกล่าวว่า ลูกความทั้งสองคงจะรอดูก่อนว่าผลการดำเนินการของสำนักงานเขตประเวศจะออกมาเป็นเช่นไร หลังจากที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครสั่งให้เขตประเวศแก้ปัญหาตลาดรอบพื้นที่บ้านพักภายใน 7 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 28 ก.พ.นี้ รวมทั้งในวันที่ 2 มี.ค.61 ศาลปกครองได้นัดไต่สวนในคดีสิ่งแวดล้อมที่เจ้าของบ้านได้ยื่นฟ้องผู้ว่าฯ กทม.และพวก ฐานละเลยให้มีการก่อสร้างอาคารและตลาดภายในหมู่บ้านเสรีวิลล่าโดยผิดกฎหมาย
    บ่ายวันเดียวกัน ที่ศาลาว่าการ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลกรณีตลาดบริเวณรอบบ้าน น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ จนเกิดเหตุการณ์ทุบรถ นอกจากนี้ พล.ต.อ.อัศวิน กับพวก ยังถูกฟ้องและต้องไปให้การไต่สวนมูลฟ้องที่ศาลปกครองในวันที่ 2 มี.ค.นี้ด้วย โดยมีคณะผู้บริหาร ประกอบด้วย ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตประเวศ หน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งสำนักการโยธา และสำนักอนามัยร่วมให้ข้อมูล
    พล.ต.อ.อัศวินเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เบื้องต้น กทม.จะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครองที่กำหนดวิธีคุ้มครองชั่วคราวผู้ฟ้องทั้ง 3 รายที่มีข้อพิพาทอยู่ คือ น.ส.บุญศรี น.ส.รัตนฉัตร และ น.ส.ราณี แสงหยกตระการ ที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากการจัดตั้งตลาด ทั้งเสียง กลิ่น แสง และผู้จับจ่ายซื้อของภายในตลาดบริเวณโดยรอบ โดย กทม.อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามคำสั่งของศาล พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการจราจร ป้องกันเจ้าของบ้านได้รับผลกระทบจากการจอดรถกีดขวางทางเข้า-ออก 
    ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ตลาดที่มีปัญหาทั้ง 5 แห่งนั้น ตลาดใดที่สั่งปิดกิจการก็ให้ไปดำเนินการตามกฎหมายแล้วมาขอใบอนุญาตให้ถูกต้อง ส่วนตลาดที่ต้องแก้ไข จำเป็นต้องแก้ไขตามข้อกฎหมายให้ถูกต้อง ขณะที่ตลาดอื่นทั่วกรุงเทพฯ เบื้องต้นพบมีตลาดได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และใบอนุญาตจัดตั้งตลาด ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 รวม 347 แห่ง ทั้งนี้ กทม.อยู่ระหว่างสำรวจทุกตลาดในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นตลาดใดที่ยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ขอให้เจ้าของตลาดขออนุญาตก่อสร้างและจัดตั้งตลาดให้ถูกต้องด้วย
    "สำหรับแนวทางการเยียวยานั้น นอกจาก กทม.ต้องเยียวยาผู้ฟ้องแล้ว จะต้องดูแลกลุ่มผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการปิดตลาดด้วย ถือว่าผู้ค้าเป็นผู้ที่มีเจตนาบริสุทธิ์ คงไม่มีทางรู้ว่าตลาดที่ค้าขายนั้นถูกหรือผิดกฎหมาย เพราะตลาดได้เปิดให้ผู้ค้ามาเช่าขาย ขณะที่ผู้ค้ามีเจตนาบริสุทธิ์ก็ไปเช่าทำการค้า ดังนั้น ผู้ค้าเป็นบุคคลที่สาม เป็นเหยื่อที่อยู่นอกเหนือความขัดแย้งระหว่างผู้ฟ้องและเจ้าของตลาด ซึ่ง กทม.จะหาทางเยียวยาอย่างเต็มที่" พล.ต.อ.อัศวินกล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ตลาดทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วย ตลาดสวนหลวง 1 ตลาดยิ่งนรา ตลาดเปิ้ล มาร์เก็ต ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง ได้ปิดให้บริการ โดยผู้ค้าได้ทยอยขนสินค้าและสัมภาระออกจากตลาด โดย กทม.ระบุว่า หลังจากนี้หากตลาดใดปฏิบัติถูกต้องตามข้อกฎหมายแล้วจะสามารถเปิดดำเนินการได้ จนกว่าศาลปกครองจะมีคำตัดสินว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวสามารถสร้างอย่างอื่นนอกจากที่อยู่อาศัยได้หรือไม่.