25 มิ.ย.62นายนิตินัย  ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่าภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)ได้เห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารโครงการพื้นที่เชิงพาณิชย์ 3 สัญญาแบ่งเป็น โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินสุวรรณภูมิ2.โครงการบริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษี(Duty Free) สนามบินสุวรรณภูมิ 3.โครงการบริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษี(Duty Free) 3 สนามบิน 

อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำร่างสัญญาฉบับสมบูรณ์ ตั้งเป้าจะลงนามสัญญาร่วมกับ กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ดิวตี้ฟรี จากัด ภายในสัปดาห์หน้า หรือไม่เกินวันที่ 10 ก.ค.นี้ โดยในวันลงนามสัญญาทางบริษัทคู่สัญญาจะต้องวางหนังสือค้ำประกัน(Bank Guarantees) วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท 

นายนิตินัย กล่าวต่อว่าสำหรับประเด็นการคัดเลือกคิง เพาเวอร์ให้ชนะผลการประมูลนั้นยืนยันว่าได้ตัดสินตามเกณฑ์การให้คะแนนที่กำหนดสัดส่วนคะแนนราคา 20% และสัดส่วนแผนธุรกิจอีก 80% ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดในการแข่งขันโครงการสนามบินภูมิภาคว่าการเสนอราคาไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ในการแข่งขันโครงการที่สนามบินสุวรรณภูมินั้นผู้ชนะเสนอราคาให้มากกว่าคู่แข่ง 100% สอดคล้องกับแผนดำเนินธุรกิจที่มีศักยภาพความน่าจะเป็น จึงทำให้เอกชนรายดังกล่าวชนะโครงการไป
 
สำหรับแนวทางที่คู่แข่งขันเอกชนมองต่างกันนั้นคือ การเปิดใช้อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Sattellite Terminal 1 : Sat 1) ในอนาคตจะรองรับคนเพิ่มขึ้นได้ 15 ล้านคนและหลุมจอดเครื่องบินเพิ่ม 28 หลุม ดังนั้นคิงเพาเวอร์มองเห็นโอกาสจึงเสนอแผนธุรกิจภาพรวม ขณะที่เอกชนรายอื่นมองว่าอัตราเติบโตของผู้โดยสารจะไม่เพิ่มขึ้นมากขนาดนั้นเมื่อเปิดใช้ Sat 1 ในปี 2564

นายนิตินัยกล่าวต่อว่าส่วนเรื่องโครงการพัฒนาเมืองการบิน (Airport City) รอบสนามบินสุวรรณภูมิ วงเงินลงทุนโครงการราว 1 หมื่นล้านบาท ในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนกับรัฐ(PPP) ได้แก่ที่ดินแปลงเอ 900 ไร่ และ พื้นที่แปลงบี 723 ไร่ นั้น จะเร่งเคลียร์เงื่อนไขให้สามารถเปิดประมูลให้เอกชนเข้ามาลงทุนในพื้นที่แปลงบี ภายใน 2-3 เดือนนี้ 

ทั้งนี้คาดว่าจะมีกิจการขนาดเล็กเข้ามาลงทุนก่อน เช่น ธุรกิจที่คืนทุนเร็วควบคู่ไปกับการทำข้อตกลงกับกรมธนารักษ์ เพื่อขอต่ออายุสัญญสเช่าที่ดินไปอีก 30 ปี จากเดิมจะหมดอายุสัญญาปี2565 ขยายไปหมดอายุสัญญาในปี 2595 ด้านพื้นที่แปลงเอนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดประมูลได้เพราะอยู่ระหว่างเปลี่ยนสีผังเมืองขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากราว 3 ใน 4 ของทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่รู้จะจบเมื่อใด นอกจากนี้ยีงมีพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินเชียงราย อีก 3,000 ไร่ที่เตรียมนำเปิดประมูลให้เอกชนเข้ามาพัฒนาเชิงพาณิชย์ต่อไป