โรคสมองอักเสบเฉียบพลันที่ถูกโยงถึงสารพิษในลิ้นจี่อ่อน คร่าชีวิตเด็กอินเดียในรัฐพิหารเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 150 คนแล้วเมื่อวันจันทร์ ศาลท้องถิ่นมีคำสั่งให้สอบสวนว่าผู้รับผิดชอบด้านสาธารณสุขประมาทหรือไม่ ขณะศาลฎีกาต้องการให้รัฐบาลพิหารแจกแจงมาตรการควบคุม
แฟ้มภาพ ผลลิ้นจี่ตกบนพื้นในสวนที่หมู่บ้านฮิชาราในอำเภอมูซัฟฟาร์ปูร์ รัฐพิหาร ซึ่งเป็นถิ่นที่ปลูกลิ้นจี่กันอย่างแพร่หลาย ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสารพิษในลิ้นจี่ที่ไม่สุกอาจเป็นสาเหตุของโรคสมองที่คร่าชีวิตเด็กเล็ก / AFP
เจ้าหน้าที่ทางการอินเดียเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2562 ว่า ขณะนี้มีรายงานเด็กเสียชีวิตเพราะโรคสมองอักเสบเฉียบพลัน (เออีเอส) ในรัฐทางภาคตะวันออกแห่งนี้แล้ว 152 คน โดย 131 คนนั้นเสียชีวิตที่เขตมูซัฟฟาร์ปูร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการระบาด
เอเอฟพีกล่าวว่า หัวหน้าคณะผู้พิพากษาเมืองมูซัฟฟาร์ปูร์มีคำสั่งให้สอบสวนว่า รัฐมนตรีสาธารณสุข ฮาร์ช วาร์ธาน ของรัฐบาลกลาง รวมถึงรัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐพิหาร กระทำการโดยประมาทเลินเล่อหรือไม่ ตามคำร้องเรียนของนักเคลื่อนไหวทางสังคมรายหนึ่ง
ส่วนที่กรุงนิวเดลี สำนักข่าวเพรสทรัสต์ออฟอินเดียรายงานว่า ศาลฎีกาของอินเดียก็มีคำสั่งเช่นกันให้รัฐบาลรัฐพิหารรายงานสภาพการณ์ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์, โภชนาการ, สุขาภิบาล และสุขอนามัยในรัฐนี้ แต่นิติกรของรัฐบาลพิหารแจ้งต่อศาลว่าสามารถควบคุมวิกฤติได้แล้ว
ช่วง 10 ปีมานี้ มีเด็กอินเดียเสียชีวิตเพราะโรคนี้มากกว่า 1,350 คน โดยปี 2557 มีเด็กเสียชีวิต 355 คน เด็กส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตเพราะโรคเออีเอสเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 10 ปีที่มีภาวะขาดอาหาร ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของโรคนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวกันว่าอาจเป็นเพราะสารพิษในลิ้นจี่ที่ยังไม่สุก ที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็วจนส่งผลต่อสมอง อย่างไรก็ดี สามารถเลี่ยงการเสียชีวิตได้หากประชาชนมีความตระหนักรู้และเข้าถึงการสาธารณสุขและโภชนาการที่ดีขึ้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |