25 มิ.ย.2562 นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ สลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า ที่ประชุมมีมติรับทราบมาตรการโรดแมประยะที่ 3 ที่จะเน้นการออกแบบการออกสลากใหม่ ๆ ต่อเนื่องจากระยะที่ 1 ที่ดูแลราคาสลากไม่ให้เกินราคา และระยะที่ 2 คือการสร้างสมดุลของสลาก ทั้งการออกสลากชุด และเพิ่มปริมาณสลากให้ผู้ขายรวมเป็น 90 ล้านใบในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติให้คณะทำงานพิเศษ ซึ่งมีตนเองเป็นประธานคณะทำงาน กลับไปศึกษาความเหมาะสมในการออกสลากรูปแบบใหม่ เพื่อนำมาเสนอและสรุปในการประชุมคณะกรรมการในวันที่ 24 ก.ค.2562 โดยจะให้ศึกษาการออกสลากทุกรูปแบบ ทั้งการออกสลาก 2 ตัว 3 ตัว หรือ 4 ตัว 5 ตัว รวมถึงการออกลอตโต้ด้วย หรือแม้แต่การออกสลากแบบไม่ใช่ตัวเลข โดยอาจจะเป็นรูปภาพหรือตัวหนังสือแทน และรวมไปถึงการออกรางวัลที่เป็นรางวัลแจ็กพ็อตด้วย
“สำนักงานสลากฯ จะต้องศึกษาจากการออกสลากของประเทศเพื่อนบ้านด้วยว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าการออกสลากรูปแบบใหม่ ๆ นั้น จะทำให้ปริมาณการซื้อหวยใต้ดินลดลง 50,000-100,000 ล้านบาท ต่อปี จากปัจจุบันที่มีมูลค่ากว่า 500,000 ล้านบาทต่อปี” นายธนวรรธน์ กล่าว
ทั้งนี้ หากในการประชุมครั้งต่อไป ที่ประชุมเห็นว่ามีความเหมาะสมก็จะให้เดินหน้าทำประชาพิจารณ์ และเสนอรัฐบาลใหม่พิจารณาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเห็นการสรุปแผนทั้งหมดได้ภายในเดือน ต.ค.2562 แต่หากเห็นว่าไม่เหมาะสม ก็จะล้มแผนการศึกษาดังกล่าวทันที
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานสลาก กล่าวว่า ที่ไม่สามารถพิจารณาการออกสลากรูปแบบใหม่ได้ในการประชุมครั้งนี้นั้น เพราะต้องการให้กลับไปพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากเทคโนโลยีการออกสลากต่างอๆ มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นจะต้องดูให้รอบด้านว่าเทคโนโลยีที่เข้ามาใหม่ ๆ นั้น เหมาะสมเพียงใด
"การออกสลากรูปแบบใหม่ จะไม่มีการลดหรือยกการพิมพ์สลากกินแบ่งปกติ โดยจะเป็นการดำเนินการควบคู่กันไปด้วย เพื่อแก้ปัญหาสิ่งที่ไม่ถูกกฎหมาย เช่น หวยใต้ดินและการขายสลากเกินราคา" นายพชร กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการดำเนินงานการออกสลากคละ หรือ สลากรวมชุด 2 ใบ ที่ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ที่น่าพอใจให้กับทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อ เพราะจากการสำรวจพบว่า การรวมชุด 2 ใบ ทำให้มีการขายสลากตามราคาหน้าสลากที่ 80 บาทมากขึ้น แม้ว่าจะยังเห็นการรวมชุดแล้วราคาสูงเกินกว่าที่กำหนดบ้าง แต่ได้พบการรวมชุด 15 ใบ หรือ 30 ใบ มีลดลง ซึ่งสะท้อนว่าตลาดเริ่มปรับตัวมากขึ้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าหลังจากนี้สถานการณ์ราคาสลากแพงจะลดลงแน่นอน
ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาสลากแพงอย่างต่อเนื่อง ที่ประชุมจึงมีมติให้ดำเนินการออกสลากรวมชุด 2 ใบต่อไป และมีมติให้เพิ่มเพดานการพิมพ์สลากเป็น 100 ล้านใบ จากปัจจุบันที่พิมพ์อยู่ที่ 90 ล้านใบ เพื่อเพิ่มปริมาณสลากให้กับผู้ค้าที่อยู่ในระบบจองซื้อ ให้สามารถเข้าถึงสลากเพื่อนำไปขายได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาการซื้อสลากจากยี่ปั้วไปขายต่อ โดยในเบื้องต้นการเพิ่มปริมาณการพิมพ์ดังกล่าวจะทำให้ผู้ค้ารายย่อยได้สลากเพิ่มขึ้น 20,000 ราย ซี่งจะให้เริ่มจองซื้อปริมาณสลากที่เพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่งวเดือนส.ค.นี้เป็นต้นไป
พร้อมกันนี้ สำนักงานสลากฯ ยังมีมติให้ใช้แอพพลิเคชันสลากในการลงทะเบียนทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยผู้ซื้อสามารถใช้แอพพลิเคชันค้นหาผู้ขาย ที่ขายสลากตามราคาหน้าสลากได้ ขณะที่ผู้ขายสามารถสะสมแต้มความดี เพื่อใช้ในการพิจารณาต่ออายุโควต้าได้ต่อไป ซึ่งแอพพลิเคชันจะใช้ได้ในเดือนก.ค.นี้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |