24 มิ.ย.62 - พรรคอนาคตใหม่โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก พรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party โดยมีเนื้อหาดังนี้
สวัสดีเวลาย่ำรุ่ง...
.
[ 24 มิถุนายน ชวนทุกคนร่วมกันถ่ายภาพคู่กับอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญที่จังหวัดของท่าน ]
.
หากเราพูดถึง “อนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ” ผู้คนจำนวนมากคงจะนึกถึง “อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย” ที่โอ่อ่าใหญ่โตตั้งตระหง่านอยู่บนถนนราชดำเนิน ใจกลางกรุงเทพมหานคร
.
แต่แท้ที่จริงแล้ว ยังมี “อนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ” และสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศอีกเป็นจำนวนมาก
.
แม้ว่าในสมัยนั้น รัฐบาลคณะราษฎรไม่ได้จัดสรรงบประมาณสำหรับสร้างอนุสาวรีย์ให้ตามที่แต่ละจังหวัดร้องขอ โดยสะท้อนออกมาเป็นความเห็นที่หลวงเชวงศักดิ์สงคราม ที่ทำงานอยู่ในกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ได้เคยแสดงแนวคิดการสร้างอนุสาวรีย์ที่ขอนแก่นว่า
.
“อนึ่งการจะเพาะหรือปลูกฝังความมั่นคงในระบอบรัฐธรรมนูญก็ไม่ใช่การสร้างอนุสสรณ์ที่เป็นเสาหิน หรือรูปจำลอง แต่อยู่ที่การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่จะชักจูงด้วยวิธีอื่น ฉะเพาะอย่างยิ่ง คือการปฏิบัติตนให้สมกับสมัยรัฐธรรมนูญ”
.
แต่สุดท้าย ภายในไม่กี่ปีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 หลายจังหวัดก็ได้มีการสร้างอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญขึ้นมา โดยเท่าที่มีข้อมูล ทั้งหมดเป็นการร่วมแรงร่วมใจตามความศรัทธาในระบอบรัฐธรรมนูญของชาวบ้าน พ่อค้า คหบดี ประชาชน ข้าราชการในแต่ละจังหวัด ที่ได้ระดมทรัพยากร ระดมทุนทรัพย์ เพื่อทำให้โครงการสร้างอนุสาวรีย์เหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง โดยไม่พึ่งงบประมาณจากรัฐบาลส่วนกลางแต่อย่างใด
.
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายว่าในปัจจุบันนี้อนุสาวรีย์หลายแห่งในหลายจังหวัดก็ถูกทำให้หายไปแล้ว เหตุผลอันเนื่องมาจากหน่วยงานราชการ รัฐบาลหรือท้องถิ่น ไม่ทราบที่มาที่ไปในเชิงประวัติศาสตร์ หรืออาจไม่เห็นความสำคัญของการมีอยู่ของสถาปัตยกรรมดังกล่าว หรือบางทีก็เป็นความตั้งใจที่พวกเขาอาจจะต้องการ “ทำให้เราลืม” ก็เป็นได้
.
และนี่คือส่วนหนึ่งของภาพถ่ายที่เรา-พรรคอนาคตใหม่ ได้แวะถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกตลอดการเดินทางไปทำงานทั่วประเทศในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาของเรา
.
แต่ก็ยังมีอีกมากมายที่เรายังไม่ได้ไป
.
เราจึงอยากเชิญชวนทุกท่านให้ร่วมกันถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ หรือสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ในจังหวัดของท่าน เพื่อให้เราได้ “ช่วยกันจำ” เรื่องราว เหตุผล ที่มาที่ไป และความสำคัญของสิ่งที่เกิดขึ้น
———
.
และแน่นอน เมื่ออ่านถึงตรงนี้ทุกท่านอาจจะสงสัยว่า
.
“ก็แค่รัฐธรรมนูญ มันจะอะไรกันนักกันหนา?”,
“เขาก็มีรัฐธรรมนูญแล้วนี่ไง ทำไมจะต้องเรียกร้องอะไรกันอีก???”
.
คำตอบก็คือ ในทางสากล ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนๆ รวมถึงประเทศไทย ตลอดสายธารประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เวลาเขาเรียกร้อง “รัฐธรรมนูญ” เขาไม่ได้แค่เรียกร้องให้มี “ตัวบทรัฐธรรมนูญ” หรือ “รูปเล่มรัฐธรรมนูญ” ที่เป็นสิ่งของจับต้องได้เท่านั้น
.
แต่เขาเรียกร้องให้ประเทศชาติต้องมี “หลักการ-จิตวิญญาณของรัฐธรรมนูญ” หรือ “ระบอบรัฐธรรมนูญ” ด้วย
.
กล่าวคร่าวๆ คือ
.
1.จะต้องมีหลักการจำกัดอำนาจ และตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างองค์กรหรือสถาบันการเมืองต่างๆ ไม่ให้อำนาจเบ็ดเสร็จแก่องค์กรสถาบันใดเพียงสถาบันเดียวเพราะเขาหรือองค์กรนั้นอาจกลายเป็นทรราชที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาชนได้
.
2.จำต้องมีประชาธิปไตย โดยการให้ประชาชนได้แสดงความต้องการของตนเอง ซึ่งส่วนมากเป็นการเลือกตั้ง ให้ผู้แทนราษฎรมาจากประชาชน แต่หากประชาชนไม่มีอำนาจเลือกตัวแทนของตนเองเข้าไปต่อสู้เรียกร้องและบังคับใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนในสภาแล้ว คนที่อยู่ในสภาพวกนั้น ไม่ว่าจะมีที่มาเลิศหรูแค่ไหน ก็ย่อมไม่ใช่ผู้แทนประชาชน
.
3.เมื่อมีประชาธิปไตย ก็จะต้องมีประกันคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของพลเมือง ให้ประชาชนได้มีสิทธิในการใช้ชีวิตอย่างเสรี ในการแสวงหาความสุข คุ้มครองเสรีภาพส่วนบุคคลในการใช้ชีวิต ในการแสดงออก ในการคิด การรวมกลุ่ม การคบค้าสมาคม การวิพากษ์วิจารณ์ และตรวจสอบรัฐบาลของตนเอง โดยไม่ถูกผู้ใดล่วงละเมิด
.
ดังนั้น ไม่ใช่รัฐธรรมนูญทุกฉบับจะเป็น “รัฐธรรมนูญ” ในตัวมันเอง รวมถึงเอกสารบางเล่มที่เขาพยายามเรียกให้มันเป็น “รัฐธรรมนูญ” ให้ได้ ก็ไม่ใช่รัฐธรรมนูญอยู่ดี เพราะสิ่งนั้นอาจจะไม่มีหลักการที่เราเพิ่งกล่าวถึงกันไปเลยก็ได้
.
————
.
สุดท้ายนี้อยากฝากเพลงรำลึกวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ไว้ดังนี้
.
“...ยี่สิบสี่มิถุนายนมหาศรีสวัสดิ์
ปฐมฤกษ์ของรัฐธรรมนูญของไทย
เริ่มระบอบแบบอารยะประชาธิปไตย
ทั่วราษฎรไทย ได้สิทธิเสรี
.
สำราญ สำเริง บันเทิง เต็มที่
เพราะชาติเรามีเอกราชสมบูรณ์
ไทยจะคงเป็นไทยด้วยร่วมใจเทิดไทย ชโย
.
ชาติประเทศเหมือนชีวา ราษฎร์ประชาเหมือนร่างกาย
ถ้าแม้นว่าชีวิตมลาย ร่างกายก็เป็นปฏิกูล
.
พวกเราต้องร่วมรักพิทักษ์ไทยไพบูลย์
อีกรัฐธรรมนูญคู่ประเทศของไทย
.
เสียกายเสียชนม์ยอมทนเสียให้
เสียชาติประเทศไทย อย่ายอมให้เสียเลย
.
ไทยจะคงเป็นไทย ด้วยร่วมใจเทิดไทย ชโย...”
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 ก.พ.62 ที่ม.ราชภัฏสวนดุสิต นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยแกนนำพรรค ลงพื้นที่พบปะนักศึกษาและประชาชนละแวกชุมชนสวนอ้อย โดยนายธนาธร กล่าวว่า "ต้องใช้การเลือกตั้งให้เป็นประโยชน์ เพื่อส่งเสียงคนรุ่นใหม่ให้ดังว่า เราพร้อมแล้ว คนอายุระหว่าง 18-25 ปี มี 8 ล้านเสียง คิดเป็น 1 ใน 8 ของจำนวนส.ส.ในสภา หรือ 62 ส.ส. ถือว่า มีความหมายมาก อย่าไปเชื่อว่าไม่มีความหมาย เสียงของเราเปลี่ยนประเทศไทยได้ อนาคตใหม่มุ่งมั่นที่จะเอาสิทธิ เสรีภาพ และความเป็นธรรมกลับคืนมาให้สังคมไทย ใครฝันเหมือนกันให้มาร่วมลองทำกันให้ได้สักครั้ง สร้างสังคมที่เท่าเทียมเกิดให้เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย มาร่วมกันทำภารกิจเมื่อพ.ศ.2475 เพื่อให้ประชาธิปไตยยั่งยืนกัน ซึ่ง 86 ปี ยังทำไม่สำเร็จ ให้สำเร็จกันสักครั้ง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |