24 มิ.ย.2562 นายนริศ เชยกลิ่น  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สิงห์เอสเตท (S) เปิดเผยถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 โดยมองว่า ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้มีการปรับตัวซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าการลงทุนและพัฒนาโครงการตามแผนที่ได้วางไว้ ซึ่งมีแผนการยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการให้ความสำคัญกับเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยบริษัทได้วางงบลงทุนไว้ที่ 8,000-10,000 ล้านบาท เพื่อสร้างรายได้ให้อยู่ที่ระดับ 20,000 ล้านบาทภายในปี 2563

อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนนำธุรกิจโรงแรมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้ ภายใต้ชื่อบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันบริษัทมีโรงแรมรวม 37 แห่ง ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทได้มีการเข้าซื้อกิจการมาทั้งหมด ส่วนอีก 2 โครงการกำลังพัฒนาอยู่ที่ มัลดีฟ มูลค่าลงทุนประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นโครงการที่บริษัทได้พัฒนาเอง ซึ่งจะส่งผลทำให้บริษัทมีโรงแรมรวมทั้งสิ้น 39 แห่ง นอกจากนี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการจัดตั้งกองทรัสต์ SPRIME สำหรับธุรกิจอาคารสำนังาน ภายใต้ชื่อ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน)

ส่วนในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทคาดว่าจะมียอดขายและยอดโอนเติบโตกว่าในช่วงครึ่งปีแรก โดยจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ ทำเลซอยรางน้ำ อาคารสำนักงาน และ โรงแรม 2 แห่ง ที่มัลดีฟ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน มูลค่ารวมกว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปี 2562-2563 นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการลงทุนในกิจการของกลุ่มโรงแรมเอาท์ริกเกอร์ ที่มีโรงแรม 6 แห่ง และรายได้จากอาคารสำนักงานสิงห์คอมเพล็กซ์ รวมถึงจะเริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนการพัฒนาโครงการครอสโร้ด ที่มัลดีฟ อีกด้วย

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13% หรือประมาณ 293 ล้านบาท เปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 3,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 160% เปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน