ไม่รู้ใครพูด.......
    ฟังแล้ว เลือด "ชาตินิยม" ขึ้นหน้า อยากเถียง..แต่เถียงไม่ออก คือที่เขาพูดว่า
    ประเทศไทยดีทุกอย่าง
    เสีย "อย่างเดียว"........
    มีคนไทยประเภท "อาศัยแผ่นดินเกิด" มากไปหน่อย!
    ธนาธร, ปิยบุตร ว่าจริงมั้ย?
    ในความเห็นผม ที่เขาพูด ก็มีส่วนนะ เพราะดูกันจริงๆ ตามภูมิศาสตร์ประเทศ กวาดตาทั้งอาเซียน เราอยู่ในจุดสมดุลกว่าเขา
    เรียกว่าอยู่ในชัยภูมิที่ดี เป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมต่อภูมิภาคด้านดินฟ้าอากาศก็ลงตัว ทรัพยากรบนบก-ในทะเลก็สมบูรณ์ อีกทั้ง ผืนดินอุดมด้วยแร่ธาตุ-แหล่งน้ำ อำนวยผลต่อการเพาะปลูก
    หรือจะเป็นเพราะ "สมบูรณ์พร้อม" มากไป....?
    ผู้คนจึงไม่ต้องต่อสู้, ดิ้นรน, ขวนขวาย เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งเหล่านั้นมากนัก ก็มีให้อยู่-ให้กินสุขสบาย
    เลยมองไม่เห็น "คุณแผ่นดิน" 
    เหมือนนกหลงผยอง มีปีกก็บินได้ แต่หารู้ไม่ ว่าที่บินฟ่องฟ้าอยู่ได้ เพราะมี "อากาศ" อุ้มอยู่
    ถ้าไม่มี.......
    นกที่ลำพองปีก จะต่าง "ไก่สุมฟาง" ตรงไหน? 
    เมื่อวาน (๒๓-๒๔ มิ.ย.๖๒) ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๔ ที่ ดิ แอทธินี โฮเต็ล ถนนวิทยุ
    คงได้เสพเรื่องราวข่าวสารจากสื่อต่างๆ กันบ้างแล้ว สรุปบรรยากาศหลักได้ว่า
    ทุกอย่างสำเร็จ "ลุล่วง-ลงตัว" ทั้งด้านการจัดงานและด้านเนื้อหา ที่บรรลุร่วมกันของ ๑๐ ผู้นำอาเซียนในหลายๆ ด้าน
    เราอย่าไปย้อนเอาความ "อัปยศ-อดสู" ในฐานะประธานอาเซียนที่ล้มเหลว เมื่อ ๑๐ ปีที่แล้ว ขึ้นมาเปรียบเทียบจะดีกว่า
    ผ่านแล้วให้มันผ่านไป รู้เพียงว่า ที่พัง..เมื่อปี ๕๒ ที่พัทยา เพราะใครทำ ทำด้วยเจตนาใด ก็ใช้ตรงนั้น เป็นบทเตือนใจ
    อย่าทำให้มันเกิดขึ้นอีก......... 
    เพราะในความสูญเสีย ไม่ใช่รัฐบาลที่เรารัก-เราเกลียดสูญเสีย หากแต่เป็นเรา...ประเทศไทย คนไทยทุกคน สูญเสีย 
    ในความอัปยศ-อดสู 
    ไม่ใช่รัฐบาลที่เรารัก-เราเกลียด อัปยศ-อดสู 
    หากแต่เป็นเรา...ประเทศไทย คนไทยทุกคน อัปยศ-อดสู
    อาจจะมีบ้าง ที่ไม่อัปยศ-อดสู แต่ "สะใจ" เขา 
    ก็คือ คนไทยประเภท "อาศัยแผ่นดินเกิด" บางคนนั่นแหละ!
    ฟังๆ ดู หลายเสียง ชื่นชมนายกฯ "พลเอกประยุทธ์" ในฐานะประธานอาเซียน ผู้จัดงานสุดยอดอาเซียน
    และอดีตนายกฯ "ชวน หลีกภัย" ประธานรัฐสภา ในฐานะ "ประธานที่ประชุมรัฐสภาอาเซียน"
    ซึ่งในบทบาท-หน้าที่ "ประเทศเจ้าภาพ" ครั้งนี้ สร้างความสำเร็จและชื่อเสียง และเป็นหน้า-เป็นตา ให้ประเทศมาก
    สังเกตได้จากการแสดงออกซึ่งความพึงพอใจ ความเป็นมิตรภาพสนิทใจ ตลอดถึงการให้เกียรติซึ่งกันและกันของมิตรประเทศที่ร่วมประชุม
    ตรองแล้วก็ปลื้มใจ ถือเป็นบุญของประเทศอย่างหนึ่ง ที่ใครก็ไม่นึก-ไม่ฝัน ว่า "คนต่างกาล-ต่างเวลา" และต่างที่มา
    แต่ถึง ณ เวลาหนึ่ง-กาลหนึ่ง.......
    เมื่อบ้านเมืองจำเป็นต้องมี "เสาหลัก" ช่วยค้ำยันในสถานการณ์ ประเทศ "เปลี่ยนผ่าน" ยุคสมัย
    อดีตนายกฯ ๒ สมัย "ชวน หลีกภัย" ในวัยจำศีล ท่านก็เปลื้องจีวร สวมเสื้อเกราะ เข้ามารับศึก ในหน้าที่ "ประธานรัฐสภา"
    ในภาวะ "สถาบันนิติบัญญัติ" ถูกกัดกร่อน ตามแผน "เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน"
    จาก "เดรัจฉานชน" บางตน ที่ส่งคน "เปลี่ยนหน้าชน" เข้ามาเป็นทัพหน้า
    เพราะเป็นหนทางเดียว........
    ที่เดรัจฉานชนครอกนี้ จะกลับเข้ามาเสพสุขจากทรัพย์ที่ปล้นชาติ-โกงแผ่นดินสะสมไว้ โดยอยู่เหนือคุก!
    บ้านเมืองตอนนี้ เลยเกิด "จุดสมดุล" จากคนต่างขั้ว "สร้างแกร่ง" ที่ไม่คิด-ไม่ฝันให้บ้านเมืองที่ต้องบอกว่า "ฟ้า-ดินจัดสรร" โดยแท้!?
    พลเอกประยุทธ์ "กระบี่ค้ำฟ้า" รับบทบู๊ ฝ่ายบริหาร
    อดีตนายกฯ ชวน "มีดโกนค้ำดิน" รับบทบุ๋น ฝ่ายนิติบัญญัติ
    การเสริมแกร่งในกันและกันชนิด "ไม่ตั้งใจ" กลายเป็น "จุดแข็ง" ของรัฐบาล "สมานมิตร"
    ที่พรรคฝักใฝ่ระบอบทักษิณในซีกฝ่ายค้าน ถึงจะขย้ำขนาดไหน
    ก็ยากจะกัดไข่ "รัฐบาลสมานมิตร" เข้า!
    "ธนาธร-ปิยบุตร" สร้างภาพเป็นพรรคอนาคตใหม่ ของคนรุ่นใหม่ แต่ใครๆ ก็เห็น 
    ฟักจากไข่ทักษิณ!
    ล้วนไก่แก่-แม่ปลาช่อน เข้าสภาด้วยลีลาใหม่ เมื่อไม่ได้เข้าสู่อำนาจในบทบาทรัฐบาล 
    ก็เล่นบทละเลงสี ว่าอีกฝ่ายสืบต่ออำนาจ ทั้งที่ฝ่ายรัฐบาลและตัวเอง ก็คลอดจากรูหีบเลือกตั้งใบเดียวกัน
    ก็ด้วยโมหจริต มุ่งอำนาจสู่อำนาจคุมรัฐ จึงไม่คำนึงเหตุผล อ้างรุ่นใหม่ 
    แต่เดินการเมืองแต่ละก้าว เหมือนควายหลงฟาง!
    ปากก็บอก เข้าสภาเพื่อเป็นปากเสียงในเรื่องชีวิตชาวบ้าน
    พอได้เข้า ตีนแรกที่ก้าว เดินสาย ปาวๆ แก้รัฐธรรมนูญ ไปสู่การ "ล้มรัฐธรรมนูญ" ฉบับประชาชนเห็นชอบ
    เพื่อเขียนใหม่ ไปเป็นรัฐธรรมนูญฉบับ "เพื่อชีวิตทักษิณ" เห็นชอบ!?
    นี่คืออะไร....?
    ฉากบังหน้า คือเพื่อการยึดอำนาจพระมหากษัตริย์มาเป็นของคณะราษฎร แล้วเรียก "ประชาธิปไตย"
    จากเมื่อปี ๒๔๗๕........
    ที่อนาคตใหม่ประกาศ ยังไม่บรรลุเป้าหมาย และ "ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์" บอก จะเข้ามาสานต่อให้บรรลุ
    ส่วนฉากบังหลัง ย้อนดูรัฐสภายุค "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" จะเห็นชัด
    "นิรโทษกรรมเหมาเข่ง" หรือนิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย ยังไงตอนนั้น ก็ยังงี้ตอนนี้ ในด้าน "เป้าหมาย"
    เป้าหมาย "สุดซอย-เหมาเข่ง" คืออะไร?    
    คือให้เดรัจฉานชน "คนหนีคุก" ได้รับนิรโทษด้วย ทั้งที่ยังไม่มีโทษ คือยังไม่ติดคุกตามคำพิพากษาศาลก่อน
    เพียงยักกระสายลีลา-รูปแบบ แทนที่จะทื่อๆ ด้วยดัน พ.ร.ก.นิรโทษกรรมเหมือนเก่า
    คนรุ่นใหม่ จึงใช้ฟางใหม่คลุมเขา เป็นแก้รัฐธรรมนูญขจัดเผด็จการเป็นการสร้างเงื่อนไขนำร่อง-นำกระแสไปโน่น
    เป้าหมายก็อยู่ที่ หวังปลุกระดมคนออกมาขับไล่รัฐบาลสมานมิตรออกไป แล้วเขียนกฎหมายใหม่
    เปิดช่อง "เดรัจฉานชน" ทั้งครอก กลับเข้ามาขยายพันธุ์
    และถ้าเป้าหมายนั้นสำเร็จ........
    เท่ากับกระสุนนัดเดียว "ได้หมดสดชื่น"
    ได้อำนาจคุมประเทศ ได้อำนาจเขียนรัฐธรรมนูญ ฉบับระบอบทักษิณ และได้ทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์ 
    ตามนัยที่ปิยบุตรยกคำพูดบางตอนของ "อ็องตวน เดอ แซ็ง-ฌุสต์" ตอนปฏิวัติฝรั่งเศส เดินสายโน้มน้าวผู้คนให้เห็นชอบทางนั้น
    ฉะนั้น.........
    เมื่องานประชุมสุดยอดอาเซียนผ่านไป ครม.ใหม่เรียบร้อย ก็ไม่ต้องพะวงอะไร
    รัฐสภา เป็นหน้าที่มีดโกน
    ส่วนบ้านเมือง ก็หวังว่ากระบี่ "นายกฯ ประยุทธ์" จะไม่ทื่อนะ!