23 มิ.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรม ดิ เเอทธินี โฮเทล ถนนวิทยุ บรรยากาศบริเวณโดยรอบสถานที่จัดประชุม ได้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และปิดถนนบริเวณด้านหน้าโรงแรมเพื่อป้องกันความปลอดภัย จะอนุญาตให้เฉพาะรถยนต์ที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่ในการประชุมเข้า-ออกได้เท่านั้น ส่วนสื่อมวลชนจากสำนักข่าวของไทยและต่างประเทศซึ่งมีจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้จัดให้อยู่ภายในโรงแรมแกรนด์เซ็นเตอร์พ๊อย และมีการตรวจเข้มการเข้า - ออกของสื่อมวลชนที่ลงทะเบียนร่วมงานเช่นเดิม โดยเจ้าหน้าที่จัดรถรับส่งไปยังสถานที่ประชุมเป็นรอบๆเพื่อจัดระเบียบให้เกิดความเรียบร้อย
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องคริสตัล 1-2 ฮอลล์ ชั้น 3 โรงแรม ดิ แอทธินี ถนนวิทยุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 และกล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ตอนหนึ่ง ว่า เนื้อร้องจากเพลงดิอาเซียนเวย์ (The ASEAN Way) ท่อนที่ว่าWe dare to dream, we care to share คือ เรากล้าฝัน เรายินดีแบ่งปัน สะท้อนถึงเส้นทางตลอด5 ทศวรรษของอาเซียนได้ดีที่สุด เพราะเมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 52 ปีที่แล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลงนามในปฏิญญากรุงเทพฯ ที่พระราชวังสราญรมย์ ถือเป็นจุดกำเนิดของอาเซียน คงมีน้อยคนที่จะคาดคิดว่า ด้วยความกล้าที่จะฝันในวันนั้น อาเซียนพัฒนาจากสมาคมเล็ก ๆ ของ 5 ชาติสู่ประชาคมที่เหนียวแน่นของ 10 ประเทศ และด้วยความกล้าที่จะฝันจากรุ่นสู่รุ่น เราเติบโตเป็นประชาคมที่เป็นปึกแผ่น มีสันติภาพและมั่นคง มีกฎกติกา เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของโลก และมีความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกสาขาเพื่อประโยชน์ของประชาชนอาเซียนทุกคน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราร่วมทุกข์ ร่วมสุข ฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันมาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคสงครามเย็นจนถึงปัจจุบัน ในวันที่เราประสบกับวิกฤตทางการเงินและเศรษฐกิจในเอเชีย อาเซียนคือ พลังสำคัญที่จับมือกับมิตรประเทศฟันฝ่าอุปสรรคและสามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ในวันที่เราพบเจอกับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิ หรือพายุไซโคลน พวกเราชาวอาเซียนก็ไม่เคยทอดทิ้งกัน หากแต่จะยื่นมือช่วยเหลือกัน ด้วยจิตสำนึกของการเป็นประชาคมเดียวกัน วันนี้ภูมิภาคของเรายังสงบสุข ปราศจากสงครามและการสู้รบ เพราะอาเซียนย้ำเตือนให้พวกเราเคารพในความแตกต่าง หลากหลาย และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ วันนี้พวกเราผู้นำอาเซียนจะร่วมกันประกาศการเปิดตัวคลังเก็บสิ่งของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียน ภายใต้โครงการจัดตั้งระบบโลจิสติกส์ฉุกเฉินสำหรับใช้ในกรณีเกิดภัยพิบัติของอาเซียน (DELSA) และการยกระดับศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนเป็นองค์กรของอาเซียนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพของอาเซียนในการบริหารจัดการผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พบ.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในยุคปัจจุบันที่การแข่งขันทางการค้าและการเมืองระหว่างประเทศเข้มข้นขึ้น ปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติเพิ่มสูงขึ้น เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดเปลี่ยนแปลงชีวิตมากขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำลายระบบนิเวศให้เสื่อมโทรม หากไม่มีอาเซียน เราจะรับมือกับความท้าทายเหล่านี้อย่างไร แต่ละประเทศโดยลำพังจะสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายทุกอย่างได้มากน้อยเพียงใด จึงเชื่อมั่นว่าพลังของอาเซียนที่เข้มแข็งและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันคือ คำตอบที่จะช่วยให้พวกเราก้าวผ่านทุกความท้าทาย และสามารถวางรากฐานที่มั่นคงให้กับอนุชนรุ่นหลังได้ และสิ่งนี้เป็นเหตุผลที่ไทยประกาศแนวคิดหลัก ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน ด้วยความฝันที่จะให้อาเซียนเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยต่อยอดจากสิ่งดี ๆ ที่อาเซียนได้สร้างกันมาในอดีต และมองไปสู่อนาคตเพื่อความสุขของชนรุ่นหลังที่จะเห็นภูมิภาคที่มีสันติภาพ เสถียรภาพ และความรุ่งเรืองต่อไปอย่างยั่งยืน
นายกฯ กล่าวว่า ประการแรก เราฝันที่จะเห็นอาเซียนก้าวไกลให้อาเซียนมองและก้าวไปสู่อนาคตด้วยกันอย่างไม่หยุดนิ่ง ใช้ประโยชน์จากยุค 4.0 สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างภูมิคุ้มกันจากเทคโนโลยีก้าวกระโดด เพื่อมุ่งไปสู่ดิจิทัลอาเซียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประการที่สอง เราฝันที่จะเห็นอาเซียนร่วมมือ ร่วมใจ ด้วยการร่วมมือที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งในอาเซียนกันเองและกับภาคีนอกภูมิภาค เพื่อส่งเสริมให้อาเซียนเป็นแกนกลางของภูมิภาค และเพิ่มบทบาทอาเซียนในการแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลก รวมไปถึงส่งเสริมความเชื่อมโยงในทุกมิติ เพื่อก้าวไปสู่อาเซียนที่ไร้รอยต่อ และเชื่อมโยงกับประชาคมโลกโดยผ่านยุทธศาสตร์เชื่อมความเชื่อมโยงของทุกฝ่าย และประการสุดท้าย เราฝันที่จะเห็นอาเซียนมีความยั่งยืนในทุกมิติ
ตั้งแต่ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนับจากนี้ความยั่งยืนในทุกมิติหรือ เอสโอที คือแนวทางใหม่ที่อาเซียนต้องคำนึงถึงในทุกการตัดสินใจ และจะอยู่ในดีเอ็นเอของอาเซียนที่ถ่ายทอดไปสู่คนรุ่นหน้า เนื่องจากประชาคมอาเซียนที่ยั่งยืนจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางยุทธศาสตร์ให้อาเซียนในระยะยาว เพื่อเป็นเกราะให้กับประชาชนของเราต่อความเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคและโลก
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ ไทยจะสานต่อข้อริเริ่มของประธานอาเซียนในปีที่ผ่าน ๆ มา และขับเคลื่อนการดำเนินงาน เพื่อบรรลุความฝันที่วางไว้และให้ประชาชนของอาเซียนทั้งรุ่นนี้และรุ่นหน้าสามารถรับมือกับความท้าทายและได้ประโยชน์จากอาเซียนใน 3 มิติสำคัญ คือ มั่นคงขึ้น มั่งคั่งขึ้น และยั่งยืนขึ้น โดยเรื่องของมั่นคง เราจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วได้ดีขึ้น เช่น มิติความมั่นคงทางไซเบอร์ พวกเราจะได้รับประโยชน์จากการจัดตั้งศูนย์ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่ไทย ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถของภูมิภาคให้รับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ในมิติอาชญากรรมข้ามชาติที่มีอัตราสูงขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน อาเซียนจะส่งเสริมการบริหารจัดการชายแดนเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากอาชญากรรมข้ามชาติและอำนวยความสะดวกให้การค้า การลงทุน และการเดินทางสัญจรข้ามพรมแดนของพวกเรามีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และท้ายที่สุดคือการมีภูมิคุ้มกันที่จะรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น พวกเราจะได้รับความมั่นใจได้ว่า ในกรณีที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ คลังเก็บสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในอาเซียนที่จังหวัดชัยนาท จะพร้อมสนับสนุนสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกที่และทุกเมื่อได้อย่างทันท่วงที
นายกฯ กล่าวตอนท้ายว่า ถึงเวลาของคนรุ่นนี้ที่จะร่วมขับเคลื่อนความฝันสู่การลงมือทำเพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งอาเซียนเมื่อกว่า 5 ทศวรรษที่แล้ว ที่จะสร้างภูมิภาคแห่งสันติสุขและความก้าวหน้าให้กับประชาชนอาเซียนทุกคน และวางรากฐานที่มั่นคงแข็งแรงให้คนรุ่นหน้าในอีกครึ่งศตวรรษหลังจากนี้ ประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกประเทศสมาชิก ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และที่สำคัญที่สุด เจ้าของประชาคมอาเซียน คือ ประชาชนทุกคน ตนจึงขอใช้โอกาสนี้ เชิญชวนชาวอาเซียนทุกคนปลุกดีเอ็นเอความเป็นอาเซียนในตัว และร่วมแรงร่วมใจ จับมือกันให้เข้มแข็งและก้าวไปข้างหน้า เพื่อวางรากฐานให้ประชาคมอาเซียนมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต โดยคำนึงถึงความยั่งยืนในทุกมิติโดยแท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นผู้นำทั้ง 10 ประเทศอาเซียนได้ร่วมกันเปิดโครงการครั้งสิ่งของช่วยเหลือและระบบโลจิสติกส์ เพื่อช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติฉุกเฉินของอาเซียน (DELSA) ภายใต้การกำกับของศูนย์ประสานงานอาเซียนในความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |