‘ว่าที่รมต.’พาเหรดเคลียร์ตัว


เพิ่มเพื่อน    

 ว่าที่ รมต.สีเทาพล่าน! "กำนันป้อ" แจงคดีบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.เคลียร์ทุกอย่างจบไปแล้ว หลังมีข่าว 2 รมช.มท.วืดเก้าอี้ ตัวแทน อปท.ตบเท้าให้กำลังใจ "นิพนธ์" นั่ง รมช.มท. เจ้าตัวย้ำไม่เคยทุจริต โอดมีขบวนการสกัดนั่งเสนาบดี "พิชัย" ตามบี้ "อุตตม" เคลียร์ปม ธ.กรุงไทยปล่อยกู้ "กฤษดามหานคร" ให้กระจ่าง เปรียบเป็นโจรร่วมปล้นบ้านทำไมรอดได้ "เพื่อชาติ" จ่อหารือที่ประชุม 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านแก้ปัญหากระบวนการยุติธรรมเคารพอำนาจนิยม "เพื่อแม้ว" ขู่ "ชวน" โดน ม.157 หากไม่บรรจุญัตติตรวจสอบสรรหา ส.ว.

    เมื่อวันศุกร์ ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ (อผศ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องการจัดสรรเก้าอี้คณะรัฐมนตรี (ครม.)
    ขณะที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนว่าจะได้อยู่ในตำแหน่ง รมช.กลาโหมต่อหรือไม่ โดยกล่าวสั้นๆ เพียงแค่ว่า “ไม่รู้”
    ที่โรงแรม  Waldorf Astoria ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พล.ต.นิมิตต์ สุวรรณรัฐ นายทหารฝ่ายเสธ.ประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าตนเองได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ และคาดว่าจะมาช่วยงานการเมืองให้ พล.อ.ประยุทธ์อย่างเต็มตัวนั้น โดย พล.ต.นิมิตต์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธกับกระแสข่าวดังกล่าว ระบุเพียงสั้นๆ ว่า "เดี๋ยวให้รอดู" 
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า มีรายงานข่าวอีกกระแสหนึ่งระบุเพิ่มเติมว่า พล.ต.นิมิตต์ไม่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการแต่อย่างใด 
    พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีชื่อของตนเองไปดำรงตำแหน่งรองโฆษกรัฐบาลในรัฐบาลที่ตั้งขึ้นใหม่ในไม่ช้าว่า จากข่าวที่ออกมา คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าดีใจที่มีการกล่าวถึงชื่อตนไปอยู่ในตำแหน่งดังกล่าว แต่ไม่ได้คิดอะไรกับข่าวนี้ เพราะสิ่งที่ตนตั้งใจมาทำงานการเมือง ก็หวังที่จะได้มีโอกาสช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เวลานี้ก็คิดถึงเพียงโอกาสได้ทำหน้าที่เป็น ส.ส.เท่านั้น โดยในการลงพื้นที่ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งได้เห็นความยากลำบากของประชาชน จึงอยากเข้ามาทำหน้าที่เพื่อผลักดันกฎหมายต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับนโยบายของพรรคและรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม เช่น เรื่องกัญชาเสรี การช่วยเหลือภาคการเกษตร profit sharing ฯลฯ อีกมากจะช่วยแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนได้
    "เรื่องการให้ผมไปมีตำแหน่งตามข่าว ผมไม่ทราบมาก่อน และทางผู้ใหญ่ของพรรคก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้แต่อย่างใด ข่าวที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการคาดคะเนกันไปมากกว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็ยังอยู่ในฐานะโฆษกของพรรคภูมิใจไทย คิดว่าการอยู่ในตำแหน่งนี้ก็ยังสามารถทำงานทำประโยชน์ให้กับพรรคและรัฐบาลได้ โดยเฉพาะงานที่ผมมีความเชี่ยวชาญ คือเรื่องเทคโนโลยีการสื่อสารด้านดิจิทัล หากสามารถเข้าไปช่วยงานตรงไหนได้ก็มีความยินดี พร้อมทำงาน นำความรู้ความสามารถมาช่วยเหลือประชาชน หรือนำประสบการณ์ต่างๆ ที่มีมาพัฒนาสังคม" พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าว  
    จากที่มีข่าวลือปล่อยแพร่สะพัดว่ามีการส่งรายชื่อบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย กลับมาให้พรรคภูมิใจไทยพิจารณาใหม่ เพราะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติจนอาจถึงขั้นหลุดจากเก้าอี้ใน 2 ตำแหน่งหรือไม่ คือ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ซึ่งเป็นน้องสาวของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ แต่เคยถูกร้องเรียนเรื่องบ่อบำบัดร้างในพื้นที่ จ.อุทัยธานี และนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หรือกำนันป้อ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ แต่เคยถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดคดีรุกที่ดินในเขต ส.ป.ก. 1,200 ไร่ 
"กำนันป้อ-นิพนธ์"ยันแจงเคลียร์
    ทั้งนี้ นายวีรศักดิ์กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งคณะรัฐมนตรี ตนจึงยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ส่วนเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.นั้น คดีความได้จบไปแล้ว และไม่ได้มีปัญหาอะไร ซึ่งตนสามารถเคลียร์ตัวเองได้ทุกอย่าง แล้วก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจกับข่าวที่ออกมาแบบนี้ เพราะตนไม่ได้คิดอะไร ว่าจะมีใครมาโจมตีแบบนั้นแบบนี้ อยากให้สื่อช่วยฟังข้อมูลที่ถูกต้อง และลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยสามารถไปสอบถามชาวบ้าน 85 หมู่บ้านในพื้นที่ได้ว่าตนเป็นคนอย่างไร
    ขณะเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จากหลายจังหวัด เข้ามอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายก อบจ.สงขลา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ส่งชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  
      โดยนายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร  ในฐานะตัวแทนกลุ่มคน อปท. กล่าวว่า มาให้กำลังใจนายนิพนธ์ ในฐานะคนทำงานท้องถิ่นที่มีประสบการณ์ และเข้าใจปัญหาของคนท้องถิ่น การกระจายอำนาจ ที่ต้องได้คนที่เข้าใจร่วมทำงานกับรัฐบาล เพื่อนำพาประเทศไทยเดินหน้าต่อ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนให้ได้
    นายนิพนธ์กล่าวขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจ พร้อมแถลงแก้ข้อกล่าวหาใน 5 กรณีอีกครั้ง โดยกล่าวย้ำว่า เรื่องที่ค้างในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่ใช่การร้องเรียนเรื่องทุจริต แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2 คัน มูลค่า 50 ล้านบาท ที่จัดซื้อตั้งแต่นายก อบจ.คนเก่า แต่ถึงกำหนดจ่ายเงินช่วงที่ตนเข้ารับตำแหน่ง ขณะเดียวกันก็มีการร้องเรียนเพื่อให้ระงับการสั่งจ่าย เพราะการจัดซื้อจัดจ้างมีปัญหา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามแจ้งเรื่องมา ตนจึงไม่เซ็นจ่ายเงิน ระหว่างที่ตั้งกรรมการสอบสวน บริษัทที่ต้องการให้ชำระเงินก็ไปฟ้องศาลปกครอง จึงมีการชะลอการจ่ายเงินไว้ก่อน จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ตนชี้แจงได้ทั้งหมด ไม่มีการทุจริต มีแต่การนำเอาข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดไปปฏิบัติ และเป็นการรักษาผลประโยชน์องค์กรอย่างแท้จริง 
     ส่วนเรื่องสวนสาธารณะมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เป็นโครงการที่ริเริ่มโดยจังหวัดสงขลา แต่ให้ อบจ.สงขลาเป็นหน่วยดำเนินการ จึงไม่ใช่การดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งศาลปกครองได้จำหน่ายคดีที่มีการร้องว่าไม่จัดทำประชาพิจารณ์ไปแล้ว จึงถือว่าเรื่องยุติ เช่นเดียวกับการจัดซื้อรถตู้พยาบาล 1 คันราคากว่า 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาตามบัญชีนวัตกรรมของกรมบัญชีกลาง ส่วนที่กล่าวหาว่า อบจ.เงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา เพื่อให้นำงบประมาณไปใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ซึ่งมีข้อโต้แย้งเพียงว่าจะใช้ระเบียบการเบิกจ่ายของ อบจ.หรือระเบียบของสมาคม หากมีการเบิกจ่ายผิดระเบียบก็ต้องนำเงินมาคืน อบจ.สงขลา ซึ่งเรื่องนี้มีการทยอยดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบแล้ว
    นายนิพนธ์ยังนำตารางการจ่ายเงินงบประมาณไปยัง 16 อำเภอในจังหวัดสงขลา มาแสดงต่อสื่อมวลชน เพื่อยืนยันว่ามีการจัดสรรกระจายไปยังทุกอำเภอ ไม่ใช่กระจุกในบางอำเภอตามที่มีการกล่าวหา ที่ผ่านมามีการโจมตีด้วยเรื่องเหล่านี้ ตั้งแต่ระดับการเมืองท้องถิ่นจนกระทั่งตนเข้าสู่การเมืองระดับชาติ ก็นำกลับมาโจมตีอีก เป็นการจงใจสกัดไม่ให้ตนเข้ารับตำแหน่ง แต่ยืนยันชี้แจงได้ทุกเรื่อง เพราะมีพยานหลักฐานชี้แจงได้ครบถ้วน 
    ส่วนกรณีมีข่าวว่า นายกรัฐมนตรีตีกลับรายชื่อรัฐมนตรีบางคนนั้น นายนิพนธ์กล่าวว่า ยังไม่มั่นใจรายชื่อถูกตีกลับเป็นใคร แต่ตนพยายามชี้แจงเรื่องทั้งหมด อาจมีขบวนการของฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามทางการเมือง หรือเป็นคู่แข่งขันทางการเมืองพยายามไม่เข้าใจประเด็นนี้ และเอกสารที่ว่อนในอินเทอร์เน็ตหลายเรื่องเป็นเอกสารเท็จ จึงขอให้ระมัดระวังในการนำเสนอด้วย 
    "ผมได้กราบเรียนบุคคลที่เกี่ยวข้องให้รับทราบแล้วว่าปัญหาคืออะไร ถือว่าที่ชี้แจงผ่านสื่อเป็นสิ่งที่ชัดเจนแล้ว มั่นใจคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ว่าสามารถดำรงตำแหน่งได้ เพราะไม่ได้ขาดคุณสมบัติ หรือเป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา ซึ่งผู้เกี่ยวข้องก็เข้าใจในทุกประเด็น" นายนิพนธ์กล่าว
บี้"อุตตม"แจงปล่อยกู้กฤษดาฯ     
    ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีพลังงานและอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงหลังที่ตัวเองเปิดเผยเอกสารลับ ในสมัยที่นายอุตตมเป็นกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ลงนามอนุมัติเงินกู้บริษัทในเครือกฤษดามหานคร รวมทั้งเป็นผู้ลงนามรับรองประชุมดังกล่าวจริงหรือไม่   หลังจากรายนามกรรมการ 3 ใน 5 คน ประกอบด้วย ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ อดีตประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย, นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย และนายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา อดีตกรรมการบอร์ดกรุงไทย ถูกดำเนินคดีติดคุกไปแล้ว  
    จึงอยากถามให้นายอุตตมชี้แจงว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่อย่างไร เหตุใดถึงไม่ถูกดำเนินคดี รวมทั้งยังมีการกล่าวอ้างว่ากันไว้เป็นพยานในคดีดังกล่าวจริงหรือไม่ หรือข้อเท็จจริงนายอุตตมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวนี้ ซึ่งเชื่อว่าหากนายอุตตมชี้แจงเรื่องดังกล่าวทั้งหมด สังคมก็จะคลายความสงสัย แต่หากนายอุตตมยังเพิกเฉย ก็จะทำให้การเข้ารับตำแหน่ง รมว.การคลังไม่สง่างาม เพราะนอกจากความสามารถต้องปรากฏเป็นที่ยอมรับแล้ว รมว.การคลังจะต้องมีความซื่อสัตย์ และมีการกระทำในอดีตที่โปร่งใสด้วย
    “ขออนุญาตเปรียบเทียบ หากโจรไปปล้นบ้านจำนวน 5 คน แต่มีโจร 1-2 คนที่ร่วมขบวนการด้วยแต่สุดท้ายไปซัดทอดบุคคลทั้ง 3 ให้ติดคุกและตัวเองพ้นโทษ อยากถามว่าถูกต้องหรือไม่ แม้ตัวเองจะไม่ถูกดำเนินคดี แต่หากถามในเรื่องความผิด ก็ยังดำรงอยู่ ขณะที่จริยธรรมก็ขัดอย่างแน่นอน แล้วถ้าจะนำโจรที่ถูกกันเป็นพยานมาเป็น รมว.มหาดไทย จะเหมาะสมไหม เช่นไหนก็เช่นกัน"
    นายพิชัยกล่าวอีกว่า หากนายอุตตมไม่ออกมาชี้แจง ก็ขอเรียกร้องไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรแต่งตั้งบุคคลที่มีข้อกล่าวหาเข้าเป็นรัฐมนตรี โดยใช้มาตรฐานเดียวกับรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาล ที่ใครภาพลักษณ์ไม่ดีก็ส่งกลับ มิใช่ปกป้องแต่คนในพรรคพลังประชารัฐ หากเรื่องนี้ยังคลุมเครือต่อไป จะเป็นปัญหาในอนาคต เชื่อว่าสภาจะหยิบไปเป็นประเด็นตรวจสอบอย่างเข้มข้น ส่งผลให้รัฐบาลชุดนี้ภาพลักษณ์ตกต่ำไปเรื่อยๆ
    น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า จะหารือที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในการแก้ปัญหากระบวนการยุติธรรมที่ไม่เคารพหลักการยุติธรรมและประชาชนอย่างแท้จริง แต่เลือกที่จะเคารพอำนาจนิยม โดยเฉพาะองค์กรอิสระที่เป็นกระบวนการขั้นต้นของกระบวนการยุติธรรม ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขทั้งที่มาและมาตรฐานการทำงาน ต้องซื่อสัตย์ต่อหลักการยุติธรรมและประชาชนทั้งประเทศด้วยมาตรฐานเดียว คือกรณีที่ 1 ชาวปทุมธานีสุดงง คสช.ใช้ ม.44 คืนตำแหน่งนักการเมืองท้องถิ่น ทั้งที่ถูก ป.ป.ช.ไต่สวนทุจริต โดยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีถูกกล่าวหาว่าทุจริตและมีความเสียหายเป็นเงินประมาณ 44,574,016.14 บาท แต่ไม่มีการเปิดเผยว่ากระบวนการตรวจสอบของ ป.ป.ช.สิ้นสุดแล้วหรือไม่ ถ้าสิ้นสุดก็ควรมีหนังสือจาก ป.ป.ช.เปิดเผยออกมาให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบบ้าง ซึ่งกรณีชี้ว่า ม.44 อยู่เหนือกระบวนการยุติธรรมไม่ต้องการผลการตรวจสอบการทุจริต 
    กรณีที่ 2 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ตอบนายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ที่ถามวิทยากรจากสำนักงาน ป.ป.ช. ในงานสัมมนา "บทบาทสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร" ที่สำนักงานใหญ่ทีโอที เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2562 ว่า "หากเป็นคนที่มีเพื่อนมากและมีโอกาสยืมเงินหรือยืมนาฬิกาเพื่อนมา จะต้องแจ้งทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.หรือไม่" วิทยากรตอบกลับว่า “ทรัพย์สิน ก็คือทรัพย์สินของท่าน คู่สมรส และบุตร ในเมื่อทรัพย์สิน ไม่ใช่ของท่าน ตามหลักเกณฑ์ ตามกฎใหม่ ท่านไม่จำเป็นต้องแสดงก็ได้” กรณีนี้คือเพื่อช่วยรับรองความถูกต้องให้ผู้มีอำนาจ เจ้าหน้าที่ต้องยอมกล้ำกลืนหลักการยุติธรรม อีกกรณีคือ ป.ป.ช.ตีตกคดีนางกรุณา ชิดชอบ ใช้งบ อบจ.บุรีรัมย์ พาประชาชนดูบอล 20 ล้านบาท ซึ่งสร้างความสงสัยให้สังคมต่อมตินั้น 
ขู่"ชวน"ผิดม.157
    "ทั้งสามกรณีนี้สามารถเชื่อมโยงให้สังคมเชื่อและเข้าใจได้ว่า ถ้ายอมศิโรราบอำนาจนิยม สามารถปัดเป่าคดีให้ปลิดปลิวได้ เห็นว่าปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ ถ้าประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นทัศนะดังกล่าว ระบบยุติธรรมของประเทศจะถูกทำลาย เพราะทุกคนสามารถทำความผิดโดยไม่ต้องคำนึงถึงความชอบธรรมและกฎหมาย เพราะทุกคนที่ทำความผิดจะหลุดพ้นคดีได้เมื่อยอมศิโรราบผู้มีอำนาจ เป็นการสร้างผู้มีอิทธิพลเหนือกฎหมายขึ้นมาในสังคม ย้อนสังคมกลับไปสู่ยุคสังคมก่อนมีกฎหมายเป็นกติกาการอยู่ร่วมกันของสังคม หรือนี่คือการปฏิรูปกลับหลังหันของคณะรัฐประหาร 2557" น.ส.เกศปรียากล่าว
    ขณะที่นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ไม่มีเหตุผลใดที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะปฏิเสธไม่บรรจุญัตติของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านที่เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาสอบสวนกระบวนการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา เนื่องจากเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติว่าการกระทำการพิจารณาสอบสวนหาข้อเท็จจริง หรือการศึกษาเรื่องใดๆ เป็นเรื่องที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของสภา พล.อ.ประยุทธ์และคสช.ปกปิดคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯ ไม่นำคำสั่งไปประกาศในราชกิจจาฯ และกระบวนการการหา ส.ว.หลายขั้นตอน ส่อว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ จะทำให้การสรรหา ส.ว.เป็นโมฆะ 
    "ญัตติของพรรคฝ่ายค้านไม่ใช่การตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ว. แต่เป็นการตรวจสอบกระบวนการสรรหา ส.ว. เป็นการใช้อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช.และ คสช.คนอื่นๆ รวมทั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ซึ่งไม่ได้มีความเป็นกลางทางการเมืองว่าสิ่งที่ทำมานั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือผิดพลาดบกพร่องในขั้นตอนไหน อย่างไร ด้วยเหตุนี้ ส.ว.ไม่ต้องร้อนตัวหรือหวาดกลัวใดๆ หากทุกท่านผ่านการสรรหามาอย่างถูกต้อง โปร่งใส ตามรัฐธรรมนูญ" นางลดาวัลลิ์กล่าว
    นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระบวนการสรรหา ส.ว. เป็นการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์และความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้สถานะของ ส.ว. ตลอดจนการกระทำหรือการลงมติใดๆ ของ ส.ว.ดังกล่าวเป็นโมฆะไปด้วย เมื่อได้โหวตเห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกของการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องถือว่าไม่มีผลใดๆ ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และหลังจากนี้หากมีการนำประเด็นนี้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และหากศาลรัฐธรรมนูญเห็นพ้องด้วย อาจจะพังกันทั้งองคาพยพ อีกประการหนึ่งก็คือ กระบวนการสรรหา ส.ว. ที่อาจจะเกี่ยวพันคดีทุจริต ประวัติด่างพร้อย มีมลทิน หลายคนเข้ามาเป็น ส.ว. ซึ่งเรื่องนี้จะได้ถูกตรวจสอบและเปิดเผยให้สังคมได้รับทราบต่อไป นอกจากนี้ ถ้าหากนายชวนไม่บรรจุญัตติการสรรหา ส.ว.ไม่ชอบ อาจจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"