อิหร่านยืนกราน มีหลักฐานมัดโดรนสปายของกองทัพเรือสหรัฐรุกล้ำน่านฟ้าอิหร่าน เผยส่งคำเตือนแล้ว 2 รอบก่อนปล่อยมิสไซล์สอย นิวยอร์กไทมส์แฉ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อนุมัติคำสั่งโจมตีตอบโต้อิหร่าน แต่เปลี่ยนใจกะทันหัน ทรัมป์อ้างยกเลิกแผนก่อนลงมือ 10 นาที ห่วงอาจมีคนตายถึง 150 คน

ภาพจากกองทัพอากาศสหรัฐ เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2562 โดรนอาร์คิว-4 โกลบอลฮอว์ก รุ่นเดียวกับที่โดนอิหร่านสอยร่วง / AFP PHOTO / US AIR FORCE

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันศุกร์กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐและอิหร่านต่างยืนยันว่าตนเป็นฝ่ายถูกในเหตุการณ์ที่อิหร่านยิงมิสไซล์โจมตีโดรนสอดแนมของกองทัพเรือสหรัฐตกในช่องแคบฮอร์มุซเมื่อเช้ามืดวันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2562 สหรัฐอ้างว่าโดรนลำนี้บินอยู่ในน่านฟ้าสากล แต่อิหร่านอ้างว่าโดรนสหรัฐรุกล้ำน่านฟ้าของตน

    หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อค่ำวันพฤหัสบดีตามเวลาวอชิงตัน โดยอ้างแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐว่า ทรัมป์ได้ออกคำสั่งให้กองทัพสหรัฐโจมตีตอบโต้เป้าหมายจำนวนหนึ่งในอิหร่าน เช่น เรดาร์และกลุ่มอาวุธมิสไซล์ ช่วงเช้ามืดวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า ปฏิบัติการกำลังดำเนินไปในระยะเริ่มต้น แต่ได้รับคำสั่งให้ยกเลิกกลางคัน "เครื่องบินหลายลำขึ้นบินแล้ว เรืออยู่ในตำแหน่งแล้วด้วย แต่ยังไม่มีมิสไซล์ถูกยิงออกไปเมื่อมีคำสั่งให้ระงับ" เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าว

    ข่าวความขัดแย้งที่อาจบานปลายส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 6% เมื่อวันพฤหัสบดี ก่อนจะปรับลดลงมาเล็กน้อยในวันศุกร์

พลจัตวาอามีร์อาลี ฮาจิซาเดห์ มองซากชิ้นส่วนโดรนสหรัฐ ที่แสดงต่อสื่อในกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 / AFP

    ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ยอมรับเมื่อวันศุกร์ว่า สหรัฐเตรียมแผนโจมตีเป้าหมายในอิหร่าน 3 จุดเมื่อคืนวันพฤหัสบดี แต่เขาระงับแผนการนี้ในเวลาเพียง 10 นาทีก่อนที่กองทัพสหรัฐจะลงมือ

    "ผมถามว่า จะมีคนตายเท่าไหร่ นายพลคนหนึ่งตอบมาว่า 150 คน" ทรัมป์ทวีต และว่า เขาจึงตัดสินใจยกเลิกภารกิจนี้เพราะเห็นว่าเป็นความสูญเสียที่เทียบไม่ได้กับการยิงโดรนไร้คนขับ และเขาไม่รีบร้อน

    กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าวก่อนหน้านั้นว่า อิหร่านได้เรียกเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐ เนื่องจากสหรัฐและอิหร่านไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน มารับการประท้วงอย่างเป็นทางการ และได้แสดงหลักฐาน "ที่ไม่อาจโต้แย้งได้" เพื่อพิสูจน์ว่าโดรนสหรัฐรุกล้ำน่านฟ้าอิหร่าน

    อับบาส อารักชี รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศของอิหร่าน ย้ำอีกครั้งว่า อิหร่านไม่ต้องการให้เกิดสงครามหรือความขัดแย้งในอ่าวเปอร์เซีย แต่อิหร่านก็ไม่ลังเลที่จะปกป้องดินแดนของตนจากการรุกราน

    วันเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ของอิหร่านเผยแพร่ภาพถ่ายที่ถูกระบุว่าเป็น "ซากชิ้นส่วน" ของโดรนสหรัฐ ที่เก็บได้จากน่านน้ำอาณาเขตของอิหร่าน

    ความวิตกอันตรายต่ออากาศยานในช่องแคบฮอร์มุซทำให้สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐเตือนเที่ยวบินต่างๆ ถึงอันตรายจากมิสไซล์ชนิดยิงจากพื้นสู่อากาศของอิหร่านที่ยิงระบบอากาศยานไร้คนขับของสหรัฐตก และสั่งห้ามเครื่องบินของพลเรือนอเมริกันใช้น่านฟ้าแถบนั้นจนกว่าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

    ขณะเดียวกัน สายการบินหลายแห่ง อาทิ บริติชแอร์เวย์, แควนตัส, เคแอลเอ็ม และมาเลเซียแอร์ไลน์ ประกาศเมื่อวันศุกร์แล้วว่ากำลังเปลี่ยนเส้นทางบินในตะวันออกกลางเพื่อหลีกเลี่ยงช่องแคบฮอร์มุซ

    เพนตากอนอ้างว่า ขณะโดนยิงนั้น โดรนลำนี้บินในน่านฟ้าสากล ห่างจากชายฝั่งอิหร่าน 34 กม. พร้อมแสดงแผนที่เส้นทางบินว่าโดรนบินนอกน่านน้ำอิหร่าน และเผยภาพที่ระบุพิกัด ละติจูด 25 องศา 57 ลิปดา 42 ฟิลิปดา ลองจิจูด 56 องศา 50 ลิปดา 22 ฟิลิปดา (25°57'42"N 56°50'22"E) แต่อิหร่านแย้งว่า โดรนลำนี้ซึ่งบินแบบล่องหนจากยูเออีเมื่อเวลา 00.14 น. ละเมิดน่านฟ้าอิหร่านเมื่อเวลา 04.05 น. ที่พิกัด 25°59'43"N 57°02'25"E ใกล้กับภูเขามูบารัก

    พลจัตวาอามีร์อาลี ฮาจิซาเดห์ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศอวกาศของอิหร่าน เผยด้วยว่า อิหร่านส่งคำเตือนโดรนลำนี้ 2 ครั้ง แต่ไม่รับการตอบสนอง และยังเคลื่อนเข้าใกล้ อิหร่านจึงยิงมิสไซล์สอยโดรนลำนี้ตก.