โยงกันไป'เพื่อชาติ'จ่อหารือพรรคร่วมฝ่ายค้านแก้ปัญหากระบวนการยุติธรรมเคารพอำนาจนิยม


เพิ่มเพื่อน    


21 มิ.ย.62 - น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า จะหารือที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในการแก้ปัญหากระบวนการยุติธรรมที่ไม่เคารพหลักการยุติธรรมและประชาชนอย่างแท้จริง แต่เลือกที่จะเคารพอำนาจนิยม โดยเฉพาะองค์กรอิสระที่เป็นกระบวนการขั้นต้นของกระบวนการยุติธรรม ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขทั้งที่มาและมาตรฐานการทำงาน ต้องซื่อสัตย์ต่อหลักการยุติธรรมและประชาชนทั้งประเทศด้วยมาตรฐานเดียว ตนไม่ต้องการให้ส่งผ่านสังคมไทยที่มีทัศนะว่า ถ้ายอมศิโรราบอำนาจนิยมสามารถปัดเป่าคดีให้ปลิดปลิวได้

น.ส.เกศปรียา กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวที่ทำให้ประชาชนสงสัยในทัศนะดังกล่าวว่าเป็นความจริงดังนี้ กรณีที่ 1 ชาวปทุมธานี สุดงง คสช.ใช้ ม.44 คืนตำแหน่งนักการเมืองท้องถิ่น ทั้งที่ถูก ป.ป.ช.ไต่สวนทุจริต โดยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ถูกกล่าวหาว่าทุจริตและมีความเสียหายเป็นเงินประมาณ 44,574,016.14 บาท แต่ไม่มีการเปิดเผยว่ากระบวนการตรวจสอบของ ป.ป.ช.สิ้นสุดแล้วหรือไม่ ถ้าสิ้นสุดก็ควรมีหนังสือจาก ป.ป.ช.เปิดเผยออกมาให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบบ้าง  ซึ่งกรณีชี้ว่า ม. 44 อยู่เหนือกระบวนการยุติธรรมไม่ต้องการผลการตรวจสอบการทุจริต

กรณีที่ 2 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ตอบนายวิรัตน์ วรศสิริน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเสรีรวมไทย ที่ถามวิทยากรจากสำนักงาน ป.ป.ช. ภายในงานสัมมนา "บทบาทสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร" ที่สำนักงานใหญ่ทีโอทีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2562 ว่า "หากเป็นคนที่มีเพื่อนมากและมีโอกาสยืมเงินหรือยืมนาฬิกาเพื่อนมา จะต้องแจ้งทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. หรือไม่" ทีแรกวิทยากรจาก ป.ป.ช.ตอบว่า “...หากครอบครองทรัพย์สินแทนบุคคลอื่น เพื่อความบริสุทธิ์ใจอาจแสดงเป็นข้อเท็จจริง“ จากนั้นนายวิรัตน์ถามต่ออีกว่า “อาจ” หรือว่า “ต้อง” เพราะความหมายต่างกัน ด้านวิทยากรตอบกลับว่า “ทรัพย์สิน ก็คือทรัพย์สินของท่าน คู่สมรส และบุตร ในเมื่อทรัพย์สิน ไม่ใช่ของท่าน ตามหลักเกณฑ์ ตามกฎใหม่ ท่านไม่จำเป็นต้องแสดงก็ได้” กรณีนี้คือเพื่อช่วยรับรองความถูกต้องให้ผู้มีอำนาจ เจ้าหน้าที่ต้องยอมกล้ำกลืนหลักการยุติธรรม อีกกรณีคือ ป.ป.ช. ตีตกคดีนางกรุณา ชิดชอบ ใช้งบ อบจ. บุรีรัมย์ พาประชาชนดูบอล 20 ล้านบาท ซึ่งสร้างความสงสัยให้สังคมต่อมตินั้น

"ทั้งสามกรณีนี้สามารถเชื่อมโยงให้สังคมเชื่อและเข้าใจได้ว่า ถ้ายอมศิโรราบอำนาจนิยมสามารถปัดเป่าคดีให้ปลิดปลิวได้ เห็นว่าปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ ถ้าประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นทัศนะดังกล่าว ระบบยุติธรรมของประเทศจะถูกทำลาย เพราะทุกคนสามารถทำความผิดโดยไม่ตัองคำนึงถึงความชอบธรรมและกฏหมาย เพราะทุกคนที่ทำความผิดจะหลุดพ้นคดีได้เมื่อยอมศิโรราบผู้มีอำนาจ เป็นการสร้างผู้มีอิทธิพลเหนือกฎหมายขึ้นมาในสังคม ย้อนสังคมกลับไปสู่ยุคสังคมก่อนมีกฏหมายเป็นกติกาการอยู่ร่วมกันของสังคม หรือนี่คือการปฏิรูปกลับหลังหันของคณะรัฐประหาร 2557" น.ส.เกศปรียา กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"