กรีดส.ส.อภิสิทธิ์ชน ‘ชวน’กำชับ500คนอย่าเบ่งแนะนำพาปชต.ในทางที่ถูก


เพิ่มเพื่อน    

 “ชวน” สะบัดมีดโกนอบรม 500 ส.ส.  ลั่นอย่าใช้อภิสิทธิ์พร่ำเพรื่อ โดยเฉพาะเรื่องขึ้น “เครื่องบิน-นั่งรถไฟ-บขส.” จัดหนักผู้ทรงเกียรติรีบเคลียร์หนี้ค้าง ชี้หากถูกเสนอชื่อนั่งรัฐมนตรีจะเสียชื่อและหมิ่นเหม่เรื่องจริยธรรม กำชับห้ามให้คนติดตามดอดใช้สิทธิ์แทน พร้อมกำชับเรื่องทัวร์นอกให้รู้จักการวางตัว-กาลเทศะ เตือนต้องรักษาหน้าการเป็นผู้แทนของจังหวัดนั้นๆ เป็นตัวอย่างให้สังคม สะพัด! ตั้งพุทธิพงษ์รั้งเก้าอี้กระบอกเสียงรัฐบาลใหม่ชั่วคราว เพื่อไทยรอเคาะหัวหน้าฝ่ายค้านหลังมี ครม.ใหม่ใน 11 วัน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันพฤหัสบดี ที่หอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในงานสัมมนา ส.ส.ทั้ง 500 คน โดยระบุถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ว่าเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ที่ต้องร่วมกันพิจารณา และยิ่งเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ก็ต้องทำให้ดี เพราะไม่เช่นนั้นหากแพ้ก็จะทำให้รัฐบาลนี้อยู่ไม่ได้  
    นายชวนยังกล่าวถึงการใช้สิทธิพิเศษของ ส.ส.ว่าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะในอดีตเกิดปัญหามาก โดยเฉพาะการใช้สิทธิ์โดยสารเครื่องบิน ซึ่งขณะนี้มีตัวแทนสายการบิน 3 สาย คือ แอร์เอเชีย, นกแอร์ และการบินไทย มาประจำสภาเพื่อให้บริการสมาชิก แต่มีการทวงเงินจากสมาชิกชุดก่อน และคืนเงินไปพอสมควร ซึ่งเลขาธิการสภาฯ บอกว่าเราสามารถโดยสารได้โดยการนำใบเสร็จมาเบิกเงิน แต่ไม่ใช่ว่าขึ้นเครื่องโดยไม่ต้องจ่ายเงิน เพราะสภาจะเป็นผู้จ่ายให้ เขาจึงคิดเต็มที่ ดังนั้นเมื่อเราจองตั๋วเครื่องบินแล้วต้องเดินทาง ถ้าไม่เดินทางต้องยกเลิก เขาให้สิทธิ์ในการเลื่อน แต่ไม่ได้ให้ยกเลิกเพื่อไม่ให้บัตรของเขาเสีย ถ้าเราไม่เดินทางเราต้องจ่ายเงิน เพราะเขาคิดค่าโดยสารเต็ม แต่สภาไม่ได้จ่าย ซึ่งมีตัวเลขอยู่ในมือที่อดีตสมาชิกเป็นหนี้ บางคนเป็นแสนๆ บาท ถ้าเป็นภาครัฐเขาคงไม่ทวง เช่น รถไฟ ซึ่งเลขาธิการสภาฯ ก็เกรงใจสมาชิก แต่ได้บอกว่าจะต้องทวงให้ เพราะเขาเป็นภาคธุรกิจที่สมาชิกต้องรับผิดชอบ สภาจะไม่รับผิดชอบ
    “ทุกคนต้องระวังอย่าให้เกิดกับตัวเอง เพราะวันหนึ่งเขาเสนอท่านเป็นรัฐมนตรี มีคนรู้ว่าท่านเป็นหนี้ค่าเครื่องบินแล้วไม่คืน เขาเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร ค่าเครื่องบินไม่เท่าไหร่ ยังไม่คืนเลย ดังนั้นเราต้องป้องกันไว้ แม้สมาชิกมีสิทธิ์ก็ตาม ซึ่งเรื่องเครื่องบินขอเรียนเป็นพิเศษว่าเขามาทวงที่สภาใหม่ ผมก็คุยส่วนตัวกับเขาก่อนว่ามีจำนวนเท่าไหร่ รู้สึกจะมีบริษัทหนึ่งบอกว่ามีประมาณ 5 ล้านบาท เมื่อไปดูรายชื่อ บางท่านคงไม่มีเจตนาหรืออาจไม่รู้ แต่มาคืนแล้วก็ไม่กี่พันบาท แต่บางคนเป็นหมื่นบาท เป็นแสนๆ บาท ดูรายชื่อแล้ว ส.ส.ก็ไม่ได้จน มีฐานะ เข้าใจว่าอาจมองข้ามความสำคัญไป ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นปัญหาขึ้นมาหากได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี หากตรวจสอบขึ้นมาก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมืองด้วย” นายชวนกล่าว 
    นายชวนกล่าวถึงเรื่องรถไฟว่า เป็นรัฐวิสาหกิจ เขาไม่ทุกข์ร้อนเหมือนกับเอกชน เพราะเขาก็อยู่ได้ ไม่เหมือนเอกชน แต่เราก็ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ ถ้าสมาชิกจองแล้วไปไม่ได้ ต้องยกเลิกอาจเสียค่าปรับเล็กน้อย แต่ก็เลื่อนได้ เพราะรถไฟขายตั๋วต่อได้ นำเงินเข้ารัฐ เราก็มีส่วนช่วยรักษาผลประโยชน์ของรัฐ แต่ที่เป็นปัญหาร้ายแรงมากคือใช้สิทธิ์โดยให้คนอื่นไปใช้แทน ซึ่งอย่างนี้ไม่ได้ รวมทั้ง บขส.ก็เช่นเดียวกัน มีพฤติกรรมเช่นนี้หลายครั้ง โดยเจตนาพูดง่ายๆ คือเอาเปรียบรัฐให้คนของตัวเองไปใช้สิทธิ์ ทั้งที่รู้ว่าไม่ถูก แต่ยังทำ ซึ่งไม่มีใครดำเนินคดี แต่ถ้าถูกดำเนินคดีก็จะมีปัญหาเรื่องปลอมแปลงเอกสาร หรือนำเอกสารเท็จไปแสดง เป็นต้น เรื่องเหล่านี้เห็นมามากในอดีต ดังนั้นคิดว่าสภาชุดนี้ทั้ง 500 คนต้องไม่เกิดสิ่งนี้ขึ้น เมื่อสิ้นวาระของสภานี้คงไม่มีองค์กรเหล่านี้ส่งชื่อมาทวงหนี้ เพราะเราไปทำผิดเงื่อนไข
แนะให้ตรงต่อเวลา
    “การนำเรื่องนี้มาพูด เพราะคิดว่าสำคัญต่อเรื่องของพฤติกรรม ส.ส.อาจเป็นเรื่องบวกลบ แต่ผมได้เจอกัปตันบนเครื่องบิน บางท่านเกรงใจไม่กล้าพูด แต่บอกว่าเขาเจ็บปวดที่สั่งให้รอทั้งที่ผู้โดยสารเต็มลำต้องรอนักการเมืองที่มาไม่ทัน เป็นเรื่องเกิดขึ้นจริงในบางครั้ง แต่ก็ไม่มากนัก โดยหนักสุดที่เป็นเรื่องอันนี้เห็นใจเพื่อน ส.ส. เพราะไปไม่ทัน เนื่องจากสายการบินปิดการแสดงตนไปแล้ว จึงไม่สามารถให้สมาชิกขึ้นเครื่องบินได้ ก็ได้โทรศัพท์มาหาเลขาธิการสภาฯ ตอนตี 5 กว่าว่าบินไม่ได้ เนื่องจากสายการบินไม่ยอม ผมไม่มีเจตนาจะเข้าข้างใคร แต่คิดว่าสายการบินเขาทำถูกแล้ว เพราะถ้ายอมรอให้เราคนเดียว แล้วผู้โดยสารอีกเป็นร้อยๆ คนก็จะเรียกร้องอย่างเดียวกันนี้บ้าง สายการบินนั้นก็อยู่ไม่ได้” นายชวนกล่าว 
    ประธานสภาฯ กล่าวอีกว่า ขอร้องพวกเราว่าให้ไปตามเวลา เชื่อว่าในพรรคการเมืองก็จะมีการอบรมเรื่องนี้ เราต้องเป็นตัวอย่างที่ดี อย่าเป็นตัวอย่างที่ลบ โดยต้องไปตามเวลา และขอแนะนำส่วนตัวว่าเคยไปตามเวลา แต่ด้วยความปรารถนาดีของสายการบินว่าอย่าเพิ่งขึ้นเครื่องผู้โดยสารกำลังแน่น ดังนั้นทุกคนอย่าเชื่อ เพราะเมื่อท่านโผล่เข้าไปบนเครื่อง ผู้โดยสารนั่งอยู่เต็มลำ ก็จะหาว่าเพราะคนนี้เองที่ทำให้ล่าช้า ทั้งที่ความจริงไปก่อนเวลาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่หวังดีไม่อยากให้ท่านผู้มีเกียรติไปเบียดชาวบ้าน จึงให้ท่านผู้โดยสารอื่นขึ้นไปก่อนเต็มลำ แล้วเราถึงจะโผล่ขึ้นไป ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ก่อนแล้วคิดว่าเราเพิ่งมา ขอแนะนำว่าอย่าไปเชื่อ เวลาเจ้าหน้าที่ให้ขึ้นเครื่องก็ต้องไปพร้อมคนอื่น เพราะเรื่องนิดเดียวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้เกิดเรื่องนินทาว่าร้ายทำให้เสียชื่อ ดังนั้นขออย่าให้เกิดขึ้น 
“ผมอยากเห็นสภาชุดนี้เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ประชาชนให้ความเชื่อมั่น ท่านจะอยู่พรรคไหนไม่สำคัญเท่ากับเราเป็นคนดี และต้องเป็นตัวอย่างของการเคารพกฎเกณฑ์ กติกาบ้านเมืองของเราในระบอบประชาธิปไตย จุดที่สำคัญที่สุดคือการรักษาบ้านเมืองเอาไว้” ประธานสภาฯ กล่าว
    นายชวนกล่าวอีกว่า มีเรื่องที่ฝ่ายต่างประเทศฝากมา เขาไม่อยากพูดให้สมาชิกสะเทือนใจ เผื่อสมาชิกต้องเดินทางไปต่างประเทศในอนาคต จะไปในนามกรรมาธิการ (กมธ.) กลุ่มมิตรภาพ หรือกลุ่มใดๆ ก็ตาม ที่ผ่านมามีทั้งภาพบวกและภาพลบ แต่มีภาพลบมากกว่า เพราะไปดูงานแล้วไม่ดูงาน นัดเจ้าภาพไว้แล้วไม่ไปตามกำหนด ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น สถานทูตเล่าให้ฟังว่าสิ่งเหล่านี้ก็ลำบากใจ เพราะเวลาไปก็ติดต่อทางต่างประเทศไว้ว่าขอให้ประสานกับองค์กรนั้นขอดูงาน แต่เมื่อไปแล้วก็ไม่ดูงาน หรือนัดไป 15 คน แต่ไปดูงาน 5 คน อีก 10 คนไปดูงานช็อปปิ้งทำให้มีปัญหามาก แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เรื่องใหญ่ในสายตาของเขาคือเรื่องกาลเทศะ 
“ผมเคยเจอโดยบังเอิญ คือไปกับกลุ่มมิตรภาพกับพวกสมาชิกไปพบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรประเทศหนึ่ง ซึ่งประเด็นคือสมาชิกที่ไปใส่สูทสากล แต่รองเท้ากีฬาขาวโพลน ซึ่งทูตก็เกรงใจมากไม่กล้าเตือน จึงได้บอกเพื่อนสมาชิกว่าแต่งอย่างนี้ไม่ได้ ต้องให้เกียรติเขา เพราะเรามาพบเขา ถ้าเรามาชุดอย่างนี้ เขาต้องคิดว่าเราไปออกกำลังกายมา แต่โชคดีที่แก้ไขได้ทัน แต่ตรงนี้ไม่ใช่สาระในการพบ แต่เป็นเรื่องกาลเทศะที่สำคัญมาก ว่าเราให้เกียรติเขาหรือไม่ ดังนั้นการไปต่างประเทศหรือไปเป็นแขกของเขาต้องระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย เพื่อไม่ให้ภาพพจน์ของสภาเสียหาย บางทีเราไม่คิดอะไร คิดว่ากันเอง แต่เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องมารยาท ในเมืองไทยก็เป็น เราเป็นเจ้าภาพรับเขา ถ้าเขามาในชุดเสื้อกล้าม ชุดโปโล แต่เราใส่เต็มยศ ก็นึกภาพอย่างนี้เราจะรู้สึกอย่างใด ฉันใดก็ฉันนั้น อกเขาอกเรา” นายชวนกล่าว 
อย่าทำให้เสียชื่อจังหวัด
    นายชวนกล่าวว่า การบอกครั้งนี้ไม่อยากพูดให้ ส.ส.เคืองใจ แต่เป็นความปรารถนาดีก็ควรบอกกล่าวให้รับทราบ ส่วนเรื่องอื่นๆ คิดว่าทุกคนมีสถานภาพเท่ากัน ไม่ใช่ตนเองอยู่นานกว่าแล้วจะเหนือกว่าคนอื่น เพราะก็อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เหมือนกัน ทุกคนเป็นเพื่อนกัน ไม่ใช่รุ่นก่อนรุ่นหลัง แต่เราปรารถนาดีที่อยากเห็นฝ่ายนิติบัญญัติมีความหมายมากขึ้น เป็นที่ยอมรับของประชาชน เราก็จำเป็นต้องเคร่งครัดในบางเรื่อง ซึ่งเข้าใจดีว่าถ้าเอาใจเรา ปล่อยเลยตามเลยสมาชิกคนใดคนหนึ่งอาจจะพอใจ แต่อีก 499 คนอาจไม่พอใจ แต่ทุกคนต้องช่วยกันประคับประคองและพาสภาของเราไปสู่การยอมรับของประชาชนมากขึ้น 
    “เรามาจากเลือกตั้ง อย่าให้คนที่เลือกเราเสียใจว่าผู้แทนของเขามาทำหน้าที่ในสภาเสียชื่อจังหวัด ขาดวุฒิภาวะ อย่าให้คนที่เลือกตั้งเราเขารู้สึกอย่างนั้น เพราะความเป็นสมาชิกที่มาจากเลือกตั้งนั้นมีความหมายมาก ในชีวิตหนึ่งเป็นเกียรติสูงสุดที่คนทั้งประเทศเลือกเรา เป็นสิ่งที่ไม่ได้มาง่ายๆ พวกเรามาจากการเลือกตั้งคือระบบประชาธิปไตยที่สุจริตยุติธรรม แม้ทำได้ยากในยุคสมัยนี้ หากเรายอมรับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เท่ากับนำสภาไปสู่ความดำมืดและนำประชาธิปไตยไปสู่สิ่งที่ไม่พึงปรารถนา ดังนั้นเราต้องช่วยกันนำพาประชาธิปไตยไปในทางที่ถูกต้อง เราจะเป็นแบบอย่างของสภานิติบัญญัติในยุคที่การเมืองพัฒนามาถึงขนาดนี้ เราได้เป็นประชาธิปไตยมาเกือบ 90 ปี เราจะให้ประชาธิปไตยถอยหลังเป็นสิ่งที่ไม่ควร ต้องเดินไปข้างหน้าในสิ่งที่ดีขึ้น” นายชวนกล่าว
    สำหรับความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ในช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมนางนราพร ภริยา ได้เดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลแต่เช้าตรู่ เนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 65 ปีของนางนราพร ซึ่งทั้งสองคนได้ไปทำบุญเป็นการส่วนตัวแบบเงียบๆ
    ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าจะยังคงเป็นรองนายกฯ ได้พยายามเลี่ยงตอบคำถามสื่อมวลชน โดยกล่าวสั้นๆ ถึงรายชื่อ ครม.ใหม่ว่า ไม่ทราบ ไม่ได้อ่าน ไม่ได้ดูเลย และเมื่อถามอีกว่า เห็นชื่อเป็นรองนายกฯ หรือยัง นายสมคิดปฏิเสธว่า ไม่รู้ เพิ่งรู้เนี่ยแหละ 
    รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แจ้งว่า หลังจากที่มีการพิจารณาจัดสรรโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีภายในพรรค ซึ่งนิ่งในระดับหนึ่งแล้ว ขณะนี้อยู่ในช่วงของการตรวจสอบคุณสมบัติและประวัติอาชญากรรม ขณะเดียวกันก็ได้เตรียมจัดสรรบุคคลที่เหมาะสมไปลงในตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ อาทิ ผู้ช่วยรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี และที่ปรึกษา เป็นต้น นอกจากนี้ ยังประสานไปยังพรรคร่วมรัฐบาลให้พิจารณาหาตัวบุคคลมาทำหน้าที่โฆษกและรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ด้วย โดยมีรายงานข่าวว่าในเบื้องต้นที่ยังหาตัวบุคคลมาทำหน้าที่โฆษกไม่ได้ อาจมอบหมายให้นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มีรายชื่อเป็นแคนดิเดต รมต.ประจำสำนักนายกฯ ทำหน้าที่ไปพลางๆ ก่อน ขณะที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมส่ง พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ  โฆษกพรรค ภท. มาเป็นหนึ่งในทีมโฆษกรัฐบาลด้วย
    ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงขั้นตอนการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านว่ายังมีเวลาตัดสินใจ เพราะการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านต้องทำหลังจาก ครม.ชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่ โดยกระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลาไม่เกิน 11 วันหลังจากมี ครม.ชุดใหม่  
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมือง พรรค พท. กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์สามารถปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ได้ตามบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ 2560 ว่า เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ออกจากร่างเดิมคือ ครม.ชุดเดิมมาแล้ว กำลังเป็นนายกฯ ที่รอไปสวมทับร่างใหม่ ครม.ชุดใหม่ สภาพจึงไม่ต่างกับกระสือที่มีแต่หัว ล่องลอยไปเรื่อยๆ เพื่อไปสิงร่างใหม่ ดังนั้นทั้งนายกฯ และครม.ชุดเดิมจึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ด้วยกันต่อไปได้ เป็นข้อต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ไม่แน่ใจว่าเนติบริกรคู่กายลืมบอกหรือบอกไม่หมด เพราะหากนำประเด็นนี้ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่แน่นอน
ซัดประยุทธ์มี 3 ร่าง
    นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ นายกฯ ที่ไม่มีคณะรัฐมนตรี-คณะรัฐมนตรีที่ไม่มีนายกฯ มีเนื้อหาว่า พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ที่ตนเองได้เป็นมาตั้งแต่ 24 ส.ค.2557 ไปแล้ว โดยผลของพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2562 และโดยปกติแล้วเมื่อนายกฯ พ้นตำแหน่ง ครม.ก็ต้องพ้นไปด้วยทั้งคณะ แต่ในกรณีนี้ มีข้อยกเว้นในบทเฉพาะกาลมาตรา 264 ให้ ครม.บริหารราชการแผ่นดินต่อไปจนกว่า ครม.ชุดใหม่เข้ารับหน้าที่ แต่ ครม.ชุดนี้ไม่มีนายกฯ แล้ว ซึ่งหากให้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ คนใหม่มานั่งหัวโต๊ะในการประชุม ครม. ที่มีอำนาจอยู่ตามมาตรา 264 ก็ไม่ได้ 
“ผมขอลองยกตัวอย่างดังนี้ สมมติว่าในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ได้มีมติเลือกให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนายกฯ แต่บังเอิญว่านายธนาธรใช้เวลาจัดตั้งรัฐบาลนานมาก จนวันนี้ก็ยังตั้งไม่เสร็จ ในขณะที่ ครม.ชุดเดิมก็ยังบริหารราชการแผ่นดินต่อไปตามมาตรา 264 เพราะ ครม.ชุดใหม่ยังไม่เข้ารับหน้าที่ ถามว่านายธนาธรเข้าไปเป็นนายกฯ และนั่งหัวโต๊ะในการประชุม ครม.ได้หรือไม่ ถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยังคงเป็นนายกฯ และนั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.ชุดเดิมได้หรือไม่ หรือจะให้ทั้งนายธนาธรและ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ไปทั้งคู่”
นายปิยบุตรโพสต์อีกว่า ปัญหาทางกฎหมายอันไม่คาดคิดไว้ล่วงหน้านี้ เป็นผลพวงจาก 1.การตั้งรัฐบาลสหพรรค-เสียงปริ่มน้ำ ทำให้มีการต่อรองแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันสูง ทำให้ผ่านไปสองสัปดาห์แล้วยังตั้ง ครม.ชุดใหม่ไม่เสร็จ 2.พล.อ.ประยุทธ์จะเอาทั้งขึ้นทั้งล่อง เป็นทุกตำแหน่ง เป็นทั้งหัวหน้า คสช. เป็นทั้งนายกฯ ของ ครม. ตามมาตรา 264 เป็นทั้งนายกฯ คนใหม่ ที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งในวันที่ 9 มิถุนายน 2562 ซึ่งไม่มีทางที่ พล.อ.ประยุทธ์จะมี 3 ร่างในคนคนเดียวได้ 
“หากต้องการให้การบริหารราชการแผ่นดินราบรื่นไร้รอยตะเข็บ พล.อ.ประยุทธ์มีทางเลือกสองทาง ทางแรก หารัฐมนตรีสักคนขึ้นมารักษาการเป็นประธานในที่ประชุม ครม. หรือทางที่สอง รีบแบ่งเค้กเก้าอี้รัฐมนตรีให้เสร็จโดยเร็ว มิเช่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็จะกลายเป็นนายกฯ ตุหรัดตุเหร่อยู่แบบนี้ เป็นนายกฯ ที่ไม่มีคณะรัฐมนตรี ในขณะที่คณะรัฐมนตรีที่บริหารอยู่ตามมาตรา 264 ก็ไม่มีนายกฯ” นายปิยบุตรโพสต์
    ส่วนนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้ความเห็น ส.ส.ไม่อาจยื่นญัตติตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ว.ได้ว่า เข้าใจว่าประธานวุฒิสภาคงยังไม่ได้อ่านสาระในตัวญัตติ เพราะสาระของญัตติไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ว. แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน ตามข้อบังคับการประชุมสภาข้อ 42 ขณะนี้แว่วๆ มาว่าอาจมีการกดดันไม่ให้มีการรับญัตตินี้ไว้พิจารณาในสภา แต่มั่นใจว่าท่านชวนจะยึดกฎหมายและข้อบังคับให้ ส.ส.ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบกระบวนการสรรหา ส.ว. ซึ่งใช้งบประมาณแผ่นดินถึง 1,300 ล้านบาท เพื่อความโปร่งใส และพิสูจน์ความถูกต้อง ชอบธรรม ชอบด้วยกฎหมายให้เป็นที่ประจักษ์สืบไป.
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"