ภาพผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง นางแครี หล่ำ โค้งคำนับและขอโทษประชาชนเป็นภาพที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองของเกาะแห่งนี้
แต่ภาพนี้เกิดขึ้นจริง...และเธอกล่าวถ้อยประโยคนี้อย่างเป็นทางการว่า
"ดิฉันขอโทษชาวฮ่องกงทุกคนจริงๆ ที่ผ่านมาสองสัปดาห์ พวกคุณชุมนุมอย่างสันติ มีเหตุมีผล ฉันได้ยินพวกคุณอย่างชัดเจน ฉันขอรับผิดชอบเอง สิ่งนี้นำไปสู่การโต้เถียงและความกังวลในสังคม ฉันขอโทษจริงๆ ขอโทษจากใจไปยังชาวฮ่องกงทุกคน"
นี่เท่ากับว่ารัฐบาลฮ่องกงถอยชั่วคราว...แต่ปักกิ่งคงยังจ้องหาโอกาสกลับมาเพื่อให้กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนผ่านสภาของเกาะแห่งนี้ให้ได้
จีนอ้างว่าสหรัฐอาจอยู่เบื้องหลังการจัดการประท้วงใหญ่เพื่อต่อต้านร่างกฎหมายฉบับนี้ ถือเป็นการ “แทรกแซงกิจการภายใน” ของจีน
สหรัฐโต้ว่าคนฮ่องกงคิดเองเป็น เพราะเห็นว่าหากผ่านกฎหมายฉบับนี้ก็จะเปิดทางให้รัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถจัดการกับคนที่ปักกิ่งเห็นว่าเป็นคนที่ต้อง “จัดการ” ด้วยการให้ส่งตัวมาขึ้นศาลที่จีนได้
ก่อนที่รัฐบาลฮ่องกงจะยอมประกาศระงับร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนหลังถูกต่อต้านอย่างหนัก นางแครี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ยืนยันว่า จะไม่ยอมยกเลิกร่างกฎหมายฉบับนี้
แต่ผ่านมาไม่กี่วัน หลังจากที่เห็นชัดว่าคนฮ่องกงกว่าล้านคนพร้อมจะออกมาเดินขบวนอีก เธอก็ยอมรับว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ทำให้เกิดการ “แบ่งแยกเป็นอย่างมากในสังคม"
เธอไม่ได้ยอมรับว่าเนื้อหาของกฎหมายมีปัญหา แต่อ้างว่าเหตุที่ต้องระงับเอาไว้ก่อน เพราะมี "ข้อสงสัยและเข้าใจผิด"
แครี หล่ำ บอกว่า เธอได้รับเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลของเธอ "หยุดและคิด"
เธอยืนยันว่าได้รับฟังความเห็นของคนฮ่องกงทุกด้าน และยืนยันว่าคนที่จะถูกส่งตัวไปจีนได้นั้นจะต้องทำผิดกฎหมายร้ายแรง หรือมีกระทำความผิดที่เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง บอกว่า ความผิดทางการเมืองจะไม่เข้าข่าย “ผู้ร้ายข้ามแดน”
แต่คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อ เพราะสงสัยว่าร่างกฎหมายฉบับนี้มีอะไรแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอน
เธอบอกว่า "ดิฉันต้องยอมรับว่ายังให้คำอธิบายและสื่อสารไม่ดีเพียงพอ"
และอ้างว่ารัฐบาลเธอจะพยายาม "ฟื้นฟูสันติภาพและความสงบเรียบร้อย" ให้กับเกาะฮ่องกง
รัฐบาลฮ่องกงอ้างมาตลอดว่าการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้จะช่วย "อุดช่องโหว่" เพื่อไม่ให้เกาะนี้กลายเป็นที่หลบภัยสำหรับอาชญากรหลังจากคดีฆาตกรรมในไต้หวัน
แครี หล่ำ บอกว่า ความพยายามที่จะเร่งที่จะผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ก่อนปีสมัยประชุมสภานิติบัญญัติจะสิ้นสุดลงคงจะหายไปแล้ว
แต่ไม่ได้บอกว่าจะยกเลิกทั้งกระบวนการ ซึ่งแปลว่ายังอาจจะรื้อฟื้นกลับมาได้อีกเสมอ
เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความหวั่นไหวให้กับจีนแผ่นดินใหญ่พอสมควร เพราะไม่คิดว่าจะมีคนออกมาต่อต้านมากมายขนาดนี้
การชุมนุมใหญ่ในระดับนี้ที่ฮ่องกงไม่ค่อยมีให้เห็น ยกเว้นการเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยภายใต้ที่เรียกว่า The Umbrella Revolution “ปฏิวัติร่ม” เมื่อห้าปีก่อน ซึ่งเป็นการท้าทายอำนาจของรัฐบาลปักกิ่งอย่างเปิดเผย
แต่ครั้งนั้น รัฐบาลฮ่องกงไม่ยอมถอย สั่งฟ้องนักเคลื่อนไหวหลายคนที่เป็นแกนนำการประท้วงจนบางคนถูกศาลตัดสินจำคุกข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการแล้ว
แต่ครั้งนี้ดูเหมือนคนฮ่องกงจะมีความรู้สึกร่วมกันว่าหากยอมให้ร่างกฎหมายนี้ผ่าน ก็เท่ากับยอมให้รัฐบาลจีนเข้ามาข่มขู่คุกคามคนฮ่องกง, ไต้หวันและมาเก๊า ซึ่งจีนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน
จีนถือว่าเมื่อเป็นส่วนหนึ่งของจีนแล้ว ก็ย่อมไม่จำเป็นต้องมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน แต่เพื่อให้มีความชัดเจนทางกฎหมาย จึงให้รัฐบาลฮ่องกงเดินหน้าเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้
จนเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โต ตอกย้ำว่าอย่างไรเสียคนฮ่องกงก็จะไม่ยอมถอยง่ายๆ
แม้คนฮ่องกงในต่างประเทศก็ยังจัดการประท้วงพร้อมๆ กัน เพราะเชื่อว่าพวกเขาและเธอก็ไม่รอดเงื้อมมือของกฎหมายนี้
หากใครทำอะไรที่ปักกิ่งไม่พอใจ แค่เดินทางผ่านฮ่องกงก็อาจถูกรวบตัวส่งไปขึ้นศาลที่เมืองจีนได้
คนฮ่องกงมีความระแวงว่าปักกิ่งกำลังจะคืบคลานเข้ามาเพื่อครอบงำวิถีชีวิตและบั่นทอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ทุกความเคลื่อนไหวของผู้บริหารและสมาชิกสภาฮ่องกงจึงถูกมองว่าเป็นเครื่องมือของปักกิ่งในการคุกคามเสรีภาพอย่างแนบเนียน
ตั้งแต่อังกฤษส่งเกาะแห่งนี้คืนให้จีนเมื่อปี 1997 และจีนรับปากว่าใน 50 ปีจะยังปล่อยให้ฮ่องกงมีระบบการปกครองแบบเสรีโดยไม่มีการแทรกแซง
แต่ทุกความเคลื่อนไหวจากจีนถูกตีความว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงนั้นทั้งสิ้น
อีกไม่นานก็จะรู้ว่าคำขอโทษของแครี หล่ำ จะนำไปสู่การแก้ปัญหาความคลางแคลงระหว่างคนฮ่องกงกับปักกิ่งได้หรือไม่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |