วสท.ตรวจสอบเหตุเครนร่วงใส่อัสสัมชัญ ระบุน่าจะมาจากคนขับเครนประมาท นายกสภาวิศวกรจะเสนอถอนใบอนุญาตวิศวกรคุมงาน พร้อมแนะ 3 มาตรการแก้ปัญหาระยะยาว แนะรัฐบาลขึ้นแบล็กลิสต์บริษัทก่อเหตุซ้ำซ้อนไม่ให้รับงาน ตำรวจแจ้งข้อหาวิศวกร "ร่วมกันประมาท" ด้าน นร.หญิงกะโหลกร้าวปลอดภัยแล้ว แต่หมอห่วงติดเชื้อ 
    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มิถุนายนนี้ รศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) นายวุฒินันท์ ปัทมวิสุทธิ์ ประธานคณะอนุกรรมการวิศวกรรมยกหิ้วและปั้นจั่นไทย และนายหฤษฎ์ ศรีนุกูล อนุกรรมการยกหิ้วฯ เข้าตรวจสอบกรณีเครนก่อสร้างอาคารร่วงใส่อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บหลายคน
    รศ.เอนกกล่าวว่า เบื้องต้นกรุงเทพมหานครสั่งปิดพื้นที่ดังกล่าวแล้ว และผู้ตรวจสอบมีความเห็น 1.รื้อเครนทั้งหมดออกจากพื้นที่เพื่อให้เกิดความปลอดภัย พร้อมทั้งเคลียร์พื้นที่โดยรอบเนื่องจากวัสดุต่างๆ ยังมีโอกาสร่วงหล่นลงมาอีก 2.แก้ไขซ่อมแซมโรงเรียน
    ขณะที่นายหฤษฎ์กล่าวว่า การตรวจสอบเครน พบมีลักษณะไม่ใช่เครนรื้อถอน แต่เป็นเครนต่อเติม มีแขนยกของขึ้น-ลง ซึ่งต้องมีลิมิตน้ำหนักกำหนด หรือระบบหยุดการทำงานฉุกเฉิน โดยจะต้องตรวจสอบดูว่าระบบทำงานหรือไม่ แต่จากการตรวจสภาพเบื้องต้นพบว่า เครนดังกล่าวปกติดี กรณีนี้อาจเกิดจากคนขับเครนประมาท ทำให้เกิดช็อกโหลด หรือระบบติดขัดกลางคัน จนทำให้เครนหงายหลังได้
    นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร กล่าวว่า สภาวิศวกรจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และเสนอเพิกถอนใบอนุญาตและใบรับรองของสภาวิศวกรจากวิศวกรคุมงาน เนื่องจากผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ ตลอดจนกล่าวโทษดำเนินคดีในกรณีที่ไม่มีผู้จัดการความปลอดภัย นอกจากนี้ สภาวิศวกรมีข้อเสนอ 3 ด้าน ได้แก่ 1.ให้ กทม. และรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีมาตรการควบคุมเข้มงวดมากขึ้น และควรมีคำสั่งหยุดก่อสร้างทันทีในจุดที่เกิดปัญหา 2.ให้ กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำหลักสูตรและออกใบรับรองให้ผู้ขับเครนและติดตั้งเครน และ 3.ให้บริษัทเอกชนด้านก่อสร้างเปลี่ยนรูปแบบเครนขนาดใหญ่แขนยาว (Tower Crane) มาใช้เครนแบบกระดก (Roofing Crane) เพราะตามหลักวิศวกรรมการก่อสร้างในเมืองใหญ่ซึ่งมีพื้นที่น้อย ต้องใช้เครนแบบกระดก ใช้พื้นที่น้อยกว่าเครนแบบแขนยาวที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยที่อยู่อาศัยประชาชนและพื้นที่สาธารณะ
    "สุดท้ายขอเสนอให้หน่วยงานภาครัฐพิจารณาเกณฑ์การให้คะแนนความปลอดภัยบริษัทก่อสร้างที่รับงานภาครัฐ และอาจติดบัญชีดำบริษัทก่อสร้างที่เกิดความผิดพลาดซ้ำซากไม่ให้เข้ามารับงานก่อสร้าง" นายสุชัชวีร์ระบุ
    ด้าน นพ.สมพงษ์ ตันจริยาภรณ์ ผอ.รพ.เลิดสิน เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนหญิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการตรวจพบกะโหลกศีรษะแตก ร้าวมาถึงด้านหลัง และมีรอยร้าวมาถึงโพรงจมูกบริเวณไซนัส จากการเอกซเรย์สแกนสมอง 3 รอบ ไม่พบมีเลือดออกแล้ว ถือว่าพ้นขีดอันตราย แต่ยังต้องอยู่โรงพยาบาลอีกประมาณ 1 สัปดาห์ และเฝ้าระวังเรื่องการติดเชื้อจากภายนอก ซึ่งตนกังวลตรงนี้ อย่างไรก็ตาม แพทย์ประเมินแล้วเชื่อว่าผู้ป่วยจะกลับมาเป็นปกติ ขณะนี้รู้สึกตัวพูดจาโต้ตอบได้ สภาพจิตใจถือว่าดี ไม่มีอาการขวัญผวา โดยวันนี้จะส่งจิตแพทย์เข้าไปประเมินสภาพจิตใจผู้ป่วยอีกครั้ง
    พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก กล่าวว่า ขณะนี้แจ้งข้อหา “ร่วมกันประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส” ต่อนายภัทรเกียรติ สนธิเดชกุล อายุ 26 ปี วิศวกรคุมงาน และชาวต่างด้าวที่เป็นคนขับรถเครน ซึ่งทราบว่าหลบหนีตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ขณะที่ 6 บริษัทที่เกี่ยวข้องได้รับการประสานจะเข้ามาให้ถ้อยคำ 1 แห่ง แต่ยังไม่ปรากฏตัว หากไม่มาในวันศุกร์ ก็จะทยอยออกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
    ที่โรงแรมเลอบัว แอทสเตท ทาวเวอร์ เขตบางรัก นายวรพล อุดมโชคปิติ ตัวแทนบริษัท แบงค็อก ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด เจ้าของโรงแรมริเวอร์การ์เด้นท์ แถลงว่า บริษัทต้องกราบขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงทรัพย์สินของโรงเรียนทางบริษัทขอเป็นเจ้าของคนไข้ทั้งหมดโดยดูแลค่าใช้จ่ายทั้งระหว่างการรักษาและเยียวยาต่อเนื่องทุกราย รวมถึงรับผิดชอบความเสียหายของตัวอาคาร 
    นายวรพลกล่าวว่า ยอมรับที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง แต่เป็นเหตุเล็กน้อย ซึ่งก็ได้เจราจรกับทางโรงเรียนอัสสัมชัญโดยมีเขตบางรักเป็นตัวกลาง สรุปว่าบริษัทต้องสร้างอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ซึ่งบริษัทได้หยุดก่อสร้างตัวอาคารไปแล้ว
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าหยุดก่อสร้างเหตุใดจึงเกิดเหตุร้ายอีก และคนขับเครนมีความสามารถ และเป็นคนต่างด้าวหรือไม่ นายวรพลปฏิเสธที่จะชี้แจง อ้างว่าเป็นเรื่องของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง.