โผ ครม.นิ่ง "วิษณุ" เผยนายกฯ ได้รายชื่อ รมต.จากทุกพรรค ทยอยส่งให้เลขาฯ ครม.ตรวจสอบคุณสมบัติ ถือว่าปิดบัญชีแล้ว แต่ละพรรคมีเรื่องอะไรขอให้ไปคุยกันเอง ก๊วน "ด้ามขวานไทย-อีสาน" ยอมถอย หลัง "ธรรมนัส" ควงมาเคลียร์ใจกับแกนนำพปชร. ปลอบใจหนุน "พ.อ.สุชาติ" ชิงนายก อบจ.สงขลา "สนธิรัตน์" ชี้เสียงปริ่มน้ำปัจจัยทำให้ รมต.ต้องลาออกจาก ส.ส. "อนุทิน" ระบุชัด รมต.ของ ภท.ต้องลาออกจาก ส.ส. เว้นหัวหน้า-เลขาฯ "ชวน" ตีตกข้อหารือ อนค. ยันบทเฉพาะกาลให้ ครม.ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่   

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 20 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมการสำหรับการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 และการประชุมที่เกี่ยวข้องของนายกรัฐมนตรี โดยก่อนการประชุม ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์เดินไปยังตึกภักดีบดินทร์ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้นำรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเรียบร้อยแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ได้ยิ้มหวานพร้อมตอบเพียงสั้นๆ ว่า “เมื่อวานพูดไปแล้วไง”
     ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ ว่า ตอนนี้นายกฯ ได้รับรายชื่อรัฐมนตรีจากทุกพรรคหมดแล้ว และนายกฯ ได้แจ้งไปยังพรรคต่างๆ ว่าตอนนี้ถือว่าปิดบัญชีแล้ว แต่ละพรรคจะมีเรื่องอะไรขอให้ไปคุยกันเอง และถ้าจะมีอะไรก็ส่งมา ซึ่งรายชื่อ รมต.เหล่านี้นายกฯ จะเป็นผู้ดูเอง กับทีมเล็กๆ ของท่าน เป็นการดูความเหมาะสมว่ามีปัญหาในเรื่องอะไรหรือไม่ จากนั้นจึงจะส่งรายชื่อเหล่านี้ไปให้เลขาฯ ครม.ตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งทราบว่าตอนนี้ได้ทยอยส่งไปบ้างแล้วสำหรับรายชื่อคนที่ไม่มีปัญหา ซึ่งเลขาฯ ครม.จะใช้เวลา 3-4 วันตรวจสอบเอง โดยถามไปที่หน่วยงานต่างๆ
    "ในขั้นการตรวจสอบคุณสมบัติ หากเลขาฯ ครม.เห็นว่ามีปัญหา จะรายงานให้นายกฯ ทราบ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีการยับยั้งบางราย แต่ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหาอะไร ก็จะส่งแบบสอบถามให้กับรัฐมนตรี เพื่อให้ตอบเป็นข้อๆ โดยจะต้องให้ครอบครัวเซ็นยินยอมมาด้วย เพื่อให้ทางเลขาฯ ครม.สามารถล้วงข้อมูลมาได้ ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะใช้เวลาถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ จากนั้นนายกฯ จึงสามารถนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้" นายวิษณุกล่าว 
    นายวิษณุกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่ากำลังปรึกษาฝ่ายกฎหมายถึงความเหมาะสมในการนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า นายกฯ มีฝ่ายกฎหมายหลายทีม ก็แล้วแต่ว่าท่านจะปรึกษากับใคร แต่ได้มีการถามลอยๆ ว่าการเป็นหัวหน้าพรรคมันมีผลกระทบอย่างไรในทางกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่อะไร จะต้องทำอะไร จะเกิดอะไรขึ้น ได้มีการเล่าให้ฟังเท่านั้นเอง ส่วนจะคิดตัดสินใจอย่างไรก็สุดแล้วแต่ท่าน คงไปรวบรวมข้อมูลจากหลายฝ่าย ซึ่งตนก็ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร แต่หลังจากที่พูดผลดี-ผลเสีย ท่านก็คงไปชั่งน้ำหนักดูได้ และนายกฯ สามารถนั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค รวมถึงสมัครสมาชิกพรรคได้ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว 
    ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.ต.นิมิตต์ สุวรรณรัฐ นายทหารฝ่ายเสธประจำ รมว.กลาโหม ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งกับ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา คาดว่าเพื่อมารับตำแหน่งทางการเมืองอย่างเต็มตัว พล.ต.นิมิตต์ถือเป็นเสธ.คนสนิทและเป็นที่ไว้วางใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการทำหน้าที่ประสานงานด้านการเมือง และติดตามนายกฯ ช่วงลงพื้นที่ตรวจราชการมาโดยตลอด
"ด้ามขวาน-อีสาน"ยอมถอย
    ที่พรรค พปชร. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ได้เรียกแกนนำกลุ่มอีสานตอนบน นำโดยนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกลุ่มด้ามขวานไทย นำโดยนายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ เป็นผู้พาเข้ามาพบที่พรรค เพื่อพูดคุยเคลียร์ใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงการพิจารณาตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ให้ผู้ที่ไม่ได้รับการพิจารณาในตำแหน่งรัฐมนตรีได้เข้าไปทำงาน โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
    จากนั้นเวลา 13.30 น. นายนิพันธ์เปิดเผยว่า ถือเป็นครั้งแรกที่พวกตนได้พูดคุยกับผู้บริหารของพรรค เพื่อทำความเข้าใจ ทั้งในเรื่องขอการทำงานร่วมกับรัฐบาลต่อไป และการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น โดยพรรคจะให้ ส.ส.ในพื้นที่ได้มีส่วนในการพิจารณาตัวบุคคลด้วย รวมถึงสะท้อนปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดี โดยทางหัวหน้าพรรคระบุว่า หากทางกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้มีเรื่องสำคัญที่จะพัฒนาภาคใต้ ให้เสนอมาทางพรรค เพื่อส่งต่อไปถึงรัฐบาล ตรงนี้ทำให้เราเกิดความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าการขับเคลื่อนงานจะเป็นผลดีกับประชาชนในภาคใต้ทั้งหมด โดยพรรคไม่ได้ละเลยภาคใต้
    “แม้จะไม่มีตัวแทนเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งใด แต่หัวหน้าพรรครับปากว่าจะดูแลพื้นที่ภาคใต้อย่างดี โดยมี “คณะกรรมการขับเคลื่อนภาคใต้” เป็นผู้ประสานงานในพื้นที่ โดยเฉพาะให้ ส.ส.ทั้ง 13 คนได้สะท้อนปัญหาได้โดยตรง เมื่อก่อนอาจจะมีช่องว่างระหว่าง ส.ส.กับผู้บริหารของพรรค แต่วันนี้ได้พูดคุยขจัดช่องว่างจนหมดไป นับจากนี้เราจะปรึกษาหารือกันเรื่องต่างๆ เพื่อพัฒนาภาคใต้ให้ที่ดีสุด” นายนิพันธ์ กล่าว
    ด้านนายเอกราชกล่าวว่า การพูดคุยเป็นไปด้วยดี โดยหัวหน้าพรรครับปากว่าจะช่วยดูแลสิ่งที่เป็นปัญหา ซึ่งตนในฐานะผู้ประสานงานของกลุ่มจะนำเสนอปัญหาไปถึงหัวหน้าพรรค เพื่อส่งต่อไปผู้มีอำนาจพิจารณา รวมถึงการพิจารณาการเข้าไปทำงานในตำแหน่งอื่นๆ ต่อไป ทุกอย่างจากนี้เราจะขับเคลื่อนการทำงานให้อยู่ในระบบของพรรคต่อไป
     ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว จึงถือว่าภายใน พปชร.ไม่มีปัญหาแล้ว เพราะหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคลงมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว 
    เมื่อถามว่า ช่วงจัดสรรตำแหน่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) จะเกิดปัญหางัดข้อภายในของส.ส.อีกหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เนื่องจากระบบของพรรคในเวลานี้เริ่มอยู่ตัวแล้ว ดังนั้นการจัดสรรตำแหน่ง กมธ.และตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ ต้องขับเคลื่อนด้วย กก.บห.ของพรรคและ ส.ส.
    ถามว่า ได้ทำความเข้าใจกับนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยได้มีผู้ใหญ่ไปพูดคุยแล้ว ซึ่งทราบข่าวว่าพูดคุยกันจบแล้ว ส่วนตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นายดำรงค์คงมีเหตุผลส่วนตัว ท้ายที่สุดด้วยบุคลิกส่วนตัวคิดว่าน่าจะยังอยู่ร่วมรัฐบาล
โผ ครม.ทุกพรรคนิ่งแล้ว
    ส่วนนายดำรงค์กล่าวว่า ต้องรอความชัดเจน หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. หากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้ดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตนก็เดินทางมาถึงทางตัน ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมพรรครักษ์ผืนป่าฯ ให้ตัดสินใจ 3 ทางเลือกคือ 1.อยู่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐต่อไป 2.เป็นฝ่ายค้านอิสระที่จะลงมติเฉพาะบางนโยบายที่เราเห็นด้วยหรือบางครั้งไปช่วยรัฐบาลได้ 3.เป็นฝ่ายค้านร่วมกับ 7 พรรคที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ  
    "ในช่วงที่ผ่านมายังไม่เคยมีการติดต่อมาจากพรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาล หากจะให้ทำงานในฐานะกรรมาธิการในรัฐสภา คิดว่ากรรมาธิการไม่สามารถทำงานได้เท่ากับฝ่ายบริหาร หากคนจัดโผ ครม.ไม่ไว้วางใจเรา เราก็ต้องถอย เขาขาดเสียง ส.ส.เราแค่ 2 เสียง คงไม่สะเทือนหรอก" นายดำรงกล่าว 
    มีรายงานจากพรรค พปชร. ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่ารายชื่อ ครม.นิ่งแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติตามกฎหมาย ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในเดือน มิ.ย.นี้นั้น ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ จะนั่งควบ รมว.กลาโหม ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะนั่งรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเดียว, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม
    ด้านสัดส่วนของพรรค พปชร. นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง, นายอนุชา นาคาศัย รมช.การคลัง, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี,  นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.พลังงาน, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิจัย วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม,  นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.อุตสาหกรรม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายอัครา พรหมเผ่า รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม
    ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โควตา 7 คน 8 ตำแหน่ง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จะนั่งรองนายกฯ ควบ รมว.พาณิชย์, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย, คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ, นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม และนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข 
    ส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะนั่งรองนายกฯ ควบ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย, นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ และ น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ 
    นอกจากนี้ ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา จะนั่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล จะมานั่ง รมว.การต่างประเทศ 
รมต.ต้องลาออกจาก ส.ส.
    ทั้งนี้ รายชื่อทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ ทั้งในเรื่องของคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ แฟ้มประวัติอาชญากรรม ตลอดจนดูว่าประกอบอาชีพอะไร
     ในส่วนของกลุ่มด้ามขวานไทย เป็นที่แน่นอนแล้วว่าจะไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ผู้ใหญ่ในพรรคได้รับปากกับแกนนำกลุ่มว่าจะดูแลอย่างทั่วถึง โดยจะตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนภาคใต้ ทำหน้าที่เป็นตัวประสานความต้องการจากในพื้นที่ไปยังกระทรวงต่างๆ ขณะที่ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล แกนนำกลุ่มด้ามขวานไทย จากเดิมที่มีความประสงค์รับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่หลังจากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคจะสนับสนุนให้ พ.อ.สุชาติลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ย.นี้ โดยคู่แข่งคนสำคัญคือ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี อดีต ผบช.ตำรวจท่องเที่ยว จาก ปชป. ผู้ใหญ่ในพรรคยังกำชับให้ ส.ส.และสมาชิกพรรคเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นใน 6-7 จังหวัดภาคใต้เอาไว้เลยตั้งแต่เนิ่นๆ
    นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พปชร. ในฐานะประธานคณะทำงานประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลในการจัดทำนโยบายของรัฐบาล กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำนโยบายว่า ขณะนี้ถือว่าโผครม.นิ่งแล้ว จากนี้จะดูเพื่อเตรียมการ เพียงแต่ไม่ถึงกับต้องเร่งรีบ เพราะเวลายังมี และให้พรรคร่วมรัฐบาลมีเวลาเตรียมการ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลถึงความพร้อมว่าจะพูดคุยกันได้เมื่อไร 
      เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวถึงการพิจารณาหลักเกณฑ์ผู้ที่ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจะต้องลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อเปิดทางให้ลำดับถัดไปได้เป็น ส.ส.หรือไม่ ว่าถ้าเสียงปริ่มน้ำมากๆ ต้องดูปัจจัยหลายด้านประกอบกัน โดยอยู่ระหว่างการหารือ ซึ่งหากมีการแต่งตั้ง ครม.แล้ว ต้องดูว่าบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น ส.ส.หรือไม่ รวมถึงการจัดสรรบุคคลไปนั่งในตำแหน่งอื่นๆ เรามีคณะทำงานดูแลเรื่องนี้ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องของแต่ละพรรคพิจารณา
    “โดยส่วนตัวถ้าเป็นผมคงจะเลือกทางใดทางหนึ่งไม่มีใครอยากอยู่สองทาง เพราะว่ามันเหนื่อยมาก ต้องแยกแยะบทบาท ถ้าผมเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อและได้เป็นรัฐมนตรี ผมลาออกแน่นอน เพราะผมแบกจ๊อบไว้ไม่ไหว แต่เมื่อเป็นเสียงปริ่มน้ำแบบนี้ ก็ต้องมีวิธีการบริหารงานในสภาด้วย ไม่ใช่จะมาดูว่ามีกี่เสียง ใครต้องออกหรือไม่ออก” นายสนธิรัตน์กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังต้องจับตาความเคลื่อนไหวของพรรคจากนี้ว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค จำนวน 5 คน ได้แก่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ,  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์,  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสันติ พร้อมพัฒน์ ซึ่งมีชื่อเป็นรัฐมนตรีจะลาออกหรือไม่ เพื่อเปิดทางให้ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 20-24 คือ นายพรชัย ตระกูลวรานนท์, นายยุทธนา โพธสุธน, นายต่อศักดิ์ อัศวเหม, นายชวน ชูจันทร์ และนายภิรมย์ พลวิเศษ ได้เลื่อนมาเป็น ส.ส. ซึ่งก่อนหน้านี้มีการหารือกันแบบไม่เป็นทางการว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคคนใดที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจะต้องลาออก 
    ขณะที่แหล่งข่าวจาก พปชร.ระบุว่า ตามธรรมเนียมต้องลาออก แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดให้ รมต.ที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ สามารถโหวตออกเสียงในสภาได้ รวมถึงสามารถโหวตไว้วางใจกรณีที่ รมต.คนอื่นๆ ใน ครม.ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยกเว้นกรณีที่ตัวเองถูกอภิปรายต่างจากรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ที่อาจมีความผิดได้
'ธนาธร'ใช้ ปชช.เป็นเหยื่อ
    ด้านนายณัฏฐพลกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ในพรรคจะได้พิจารณาในภาพรวมทั้งข้อดี-ข้อเสีย โดยข้อดีจะทำให้สามารถแบ่งเวลาการทำงานได้ชัดเจน ส่วนข้อเสียอาจกระทบการทำงานในสภา เนื่องจากแต่ละคนที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และมีชื่อเป็น รมต.นั้น ต่างมีประสบการณ์ทั้งในฐานะ ส.ส.และงานบริหาร โดยเฉพาะการคุมเกมในสภา การประสานงานกับพรรคร่วมและกำหนดทิศทางในการสู้กับฝ่ายค้าน ดังนั้นจะต้องดูการทำงานในสภาไประยะหนึ่งก่อนหรือไม่ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร เชื่อว่าทางพรรคจะพิจารณอย่างรอบด้าน เพื่อหาข้อสรุปที่เหมาะสม และหากพรรคมีมติอย่างไร ตนก็ต้องเคารพ ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งแต่อย่างใด
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ได้ส่งรายชื่อ รมต.อย่างเป็นทางการไปให้พล.อ.ประยุทธ์เรียบร้อยแล้ว จากนั้นยังไม่ได้คุยกับนายกฯ อีกเลย แต่ไม่ได้มีการตีกลับมาแน่นอน ส่วนการลาออกจากความเป็น ส.ส.ของคนที่ดำรงตำแหน่งรมต. แม้ไม่ได้มีกฎหมายบังคับว่าต้องลาออก แต่ในส่วนของพรรค ภท. คนที่ไปเป็น รมต.จะต้องลาออกจาก ส.ส. ยกเว้นหัวหน้าและเลขาธิการพรรค เพราะต้องกำกับการทำงานในสภา        
    นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรค ภท.ยอมรับในกระแสข่าวกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อของตน ในตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ และทางพรรคได้เสนอชื่อ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาว และตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ไปนั่งในตำแหน่งดังกล่าวแทน ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอะไร และยังมีความสุขดีในการทำหน้าที่ ส.ส.ที่จะได้ดูแลพี่น้องประชาชน ตนเคารพการตัดสินใจของผู้ใหญ่ในพรรค และความเห็นของคนอื่นๆ
    เมื่อถามว่า สาเหตุที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี เพราะถูกมองเป็นผู้มีอิทธิพลใช่หรือไม่ นายชาดากล่าวว่า อยากถามว่าเจ้าพ่อคืออะไร ถ้าหากเป็นบุคคลในลักษณะดังกล่าวจริง ตำรวจคงไม่กล้าเข้าบ้านตรวจค้นทุกปีตลอดช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่ถ้าบอกว่าตนเป็นผู้มีอิทธิพล ก็ขอยอมรับ แต่เป็นผู้มีอิทธิพลที่สร้างบ้านสร้างเมือง ช่วยเหลือผู้อื่น และไม่ทำร้ายใคร ตนเป็นคนเฮฮา เข้ากับคนได้ทุกกลุ่ม และอยากถามว่าถ้าตนไม่ดีจริง ทำไมคนอุทัยธานียังเลือกตนและหลาน จนได้คะแนนเสียงมากว่า 9 หมื่นเสียง
    นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค พปชร. กล่าวว่า ขณะนี้ตนเป็นห่วงการทำงานการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ ที่เคลื่อนไหวโดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ เห็นได้ชัดเจนจากการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคประกาศเดินสายลงพื้นที่ชายทะเล โดยบอกว่ามีความตั้งใจจะแก้กฎหมายต่างๆ เพื่อพี่น้องชาวประมง แต่สุดท้ายกลับคำพูดว่าไม่มีข้อเสนอใดๆ ทำเพื่อต้องการต่อต้าน คสช.เท่านั้น ตามที่นายธนพร ศรียากุล ที่ปรึกษากรมประมง ออกมาระบุ ซึ่งทำให้พี่น้องชาวประมงกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ จะทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมโดยไม่ได้ยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
          "เกรงว่าหลังจากนี้พรรคอนาคตใหม่จะเดินสายไปดำเนินการแบบนี้กับภาคเกษตรอีก จึงอยากให้นายธนาธรทำการเมืองแบบคนรุ่นใหม่จริงๆ สร้างสรรค์ ไม่ใช่วันๆ พูดแต่เรื่องสืบทอดอำนาจเผด็จการ ไม่เป็นประชาธิปไตย ทั้งที่วันนี้ประเทศมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว อยากให้ตรวจสอบรัฐบาลโดยใช้กลไกรัฐสภา ไม่ใช่ว่า พล.อ.ประยุทธ์แค่หายใจก็ผิดแล้ว ให้นำเสนอนโยบายหรือแนวทางการบริหารประเทศจะดีกว่า เลิกใช้วาทกรรมสืบทอดอำนาจเผด็จการ เลิกติดหล่มความคิดแคบๆ ของตัวเองได้แล้ว" นายธนกรกล่าว 
    ที่หอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยมอบหมายให้นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาฯ อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีให้ที่ประชุมรับทราบ จากนั้นได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบเรื่องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากการเป็นส.ส. เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ทำให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลง และผู้มีรายชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่าง คือนายสุทัศน์ เงินหมื่น ต่อมานายสุทัศน์ได้ปฏิญาณตนในที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่
    จากนั้น ร.ท.วิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้ขอหารือในที่ประชุมเรื่องการโปรดเกล้าฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าเมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ แล้ว ย่อมทำให้ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ที่แต่งตั้งโดย คสช. เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 167 (1) กำหนดว่า เมื่อนายกฯ พ้นจากหน้าที่ย่อมทำให้ ครม.พ้นหน้าที่ไปด้วยโดยปริยาย จึงไม่มี ครม.ทำงานจนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ โดยที่ระหว่างนี้ ให้ปลัดกระทรวงทำหน้าที่ครม.ไปพลางก่อน 
     โดยนายชวนชี้แจงว่า ตามบทเฉพาะกาล มาตรา 264 ของรัฐธรรมนูญ ครม.ที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ก่อน สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ ก่อนสั่งปิดการประชุมในเวลา 10.00 น.
     ด้านนายวิษณุ เครืองงาม กล่าวว่า ขอย้ำและเตือนว่า ครม.ชุดนี้ มีทั้งอำนาจและหน้าที่ อำนาจคือการที่จะบริหารราชการแผ่นดินต่อไปจนถึงที่สุด คำว่าถึงที่สุดนั้น หมายถึงวันที่ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณฯ เป็นวันที่พ้นจากตำแหน่งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่ง ครม.และ คสช.จะสิ้นสุดลงในวันนั้น ส่วนที่ต้องประชุม ครม. เพราะใกล้ประชุมอาเซียน จึงมีสิ่งที่ที่ประชุมปลัดกระทรวงและรัฐมนตรีแยกไปประชุมกับต่างประเทศเกือบ 100 เรื่อง ซึ่งจะต้องนำกลับเข้ามาให้ ครม.เห็นชอบ เพื่อจะได้นำเสนอต่อที่ประชุมอาเซียนซัมมิตในวันที่ 22-23 มิถุนายน ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งมีบทเฉพาะกาลเขียนว่าให้ ครม.ยังคงเป็นครม.ต่อไป จนกว่า ครม.ชุดใหม่จะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯ.