นายกฯ รับไม่ได้ วิน จยย.ยกพวกตีกันในที่สาธารณะ ถามเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยหรือเปล่า กำชับทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ ด้านชาวบ้านซอยอุดมสุขผวาผู้มีอิทธิพล ยื่นจดหมายร้องทุกข์ขอทหารคุ้มครองความปลอดภัย ตำรวจยังคว้าน้ำเหลวล่า "ประมุข" หัวหน้าวิน "เบส" นอนคุกหลังถูกยื่นฝากขังไร้ญาติประกัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล บ่ายวันที่ 18 มิถุนายนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีวินรถจักรยานยนต์รับจ้างตีกันที่ซอยอุดมสุข ว่า เรื่องการตีกันนั้น ตนคิดว่าเป็นวัฒนธรรมที่ไม่ดีเลย ได้สั่งการในที่ประชุม ครม.แล้ว กฎหมายในบ้านเรามีทุกตัว แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ทำงานได้จริง
“ผมได้เน้นย้ำไปแล้วว่า สิ่งที่ผมและประชาชนทั้งประเทศรับไม่ได้ก็คือการตี การทำร้ายซึ่งกันและกันในที่สาธารณะ ถนนหนทาง หรือโรงพยาบาล โรงเรียน เหล่านี้ต้องลงโทษขั้นเด็ดขาด หาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้ ว่าทำไมเหตุการณ์นั้นจึงเกิดขึ้น เกิดจากการปล่อยปละละเลยจากใครหรือเปล่า ต้องมีการสืบสวนลงโทษทั้งหมด ต้องหาผู้ที่รับผิดชอบให้ได้ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ หากจะบอกว่าให้ทำกฎหมายให้แรงขึ้นๆ อย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องอยู่ที่ความร่วมมือของทุกคนด้วย ต้องพูดจากันดีๆ ไม่ละเมิดก้าวล่วงซึ่งกันและกัน เขตใคร ใครก็ว่ากันไป ถ้าพูดจากันเสียหายไปเรื่อยๆ ก็ไม่ดี”
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตถึงการพกพาอาวุธกันง่าย ไม่มีการควบคุม จนนำมาทำร้ายกันบ่อยๆ ว่า ถ้าจะตรวจรถทุกคันเพื่อหาอาวุธจะไหวกันหรือไม่ ซึ่งการจะออกใบอนุญาตพกพาอาวุธเขาก็มีการตรวจสอบกันมาแล้ว ส่วนปืนเถื่อนที่ผ่านมาก็มีการสอบสวน จับกุม ดำเนินคดีกันมาตลอด แต่ที่ยังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ก็เพราะคนไม่เกรงกลัวกฎหมาย ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่เข้มงวดตรวจค้นบ้างก็เพราะจำเป็น ไม่ใช่ว่าเป็นประชาธิปไตยแล้วไม่ต้องเคารพกฎหมาย มันไม่ใช่ ไม่มีประเทศไหนเขาทำกันหรอก ทุกประเทศต้องเอากฎหมายมาเป็นหลักในการบริหารประเทศทั้งนั้น
ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยหนึ่งในตัวแทนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี
นายรณณรงค์กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ ชาวบ้านในพื้นที่หวาดกลัวอย่างมากว่าจะเกิดเหตุซ้ำขึ้นมาอีก จึงมายื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ 3 ข้อ คือ 1.ขอให้นายกฯ ส่งทหารคุ้มครองความปลอดภัยคนในพื้นที่ จนถึงออกมาตรการคุ้มครองพยาน 2.ขอให้สั่งตั้งคณะกรรมการที่มีทหารร่วมด้วยเข้าแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และ 3.ขอให้ตรวจสอบ ปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุมานานแล้ว มีอาชีพขี่จักรยานยนต์รับจ้างในซอยอุดมสุข แต่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุทะเลาะวิวาทด้วย ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องอิทธิพลมานานแล้ว และที่ต้องมายื่นหนังสือร้องเรียนในวันนี้ เพราะหลังจากเกิดเหตุ ในซอยเงียบมากจนน่ากลัว ชาวบ้านต่างก็หวาดกลัว จึงอยากให้นายกฯ ช่วยส่งทหารเข้าไปช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ด้วย เพราะคิดว่าตำรวจอย่างเดียวไม่น่าจะคุมสถานการณ์ได้
ผู้ร้องยังเปิดเผยว่าเป็นญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าผู้เสียชีวิตร่วมก่อเหตุจริงหรือไม่ ผู้ร้องตอบว่า “ใช่”
ด้านความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางนา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดพระโขนง ลงวันที่ 18 มิ.ย.62 เข้าค้นบ้านพัก 2 หลังปลูกติดกันของนายประมุข วิเชียรดิลกกุล หนึ่งในผู้ถูกออกหมายจับที่ยังหลบหนี ในซอยอุดมสุข 26 เขตบางนา กรุงเทพฯ ภายหลัง พล.ต.ต.มงคลเปิดเผยว่า ผลการตรวจค้นไม่พบทั้งนายประมุข และหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี โดยหลังจากนี้จะติดตามรจับกุมนายประมุข หากเจอที่ไหนก็จะจับ เมื่อวันจันทร์ก็ได้ไปที่ รพ.ไทยนครินทร์ ซึ่งนายประมุขรักษาตัวอยู่ แต่พบว่าออกจาก รพ.ไปแล้ว จากการพูดคุยกับพ่อแม่ของนายประมุข บอกว่ามีการติดต่อมาหาครอบครัว เตรียมเข้ามอบตัว แต่ติดเรื่องหลักทรัพย์
จนถึงขณะนี้ ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 6 คน ประกอบด้วย นายปิยะ พวงเกษร, นายรังสรรค์ ศรไชยากร, นายจีระพงษ์ หรือเบส วิบูลย์รัชกิจ, นายมานพ มิ่งมงคล, นายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์ และนายเจริญ เจริญผล ส่วนนายวันชัย มงคลเข็ม และนายประมุข วิเชียรดิลกกุล หัวหน้าวินรถจักรยานยนต์ซอยอุดมสุข 1 ยังหลบหนี
พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางนา เปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์มีการดำเนินคดีกับผู้ร่วมก่อเหตุอีก 8 คนที่มามอบตัว เป็นฝั่งวินจักรยานยนต์ใหม่ ซอยอุดมสุข 2 ซึ่งทุกคนเป็นคนที่มีภาพปรากฏในคลิปวิดีโอ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ และเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่หลักฐานโยงไปถึงต่อไป
ที่ศาลจังหวัดพระโขนง พนักงานสอบสวน สน.บางนา คุมตัวนายจีระพงษ์ หรือเบส วิบูลย์รัชกิจ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายกพวกทะเลาะวิวาทบนถนนสุขุมวิท มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-29 มิ.ย. นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 6 ปาก รอผลตรวจของกลางและผลการตรวจสอบพิมพ์มือผู้ต้องหา ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้ว อนุญาตให้ฝากขัง
ต่อมาจนสิ้นสุดเวลาราชการศาลแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีญาติของนายจีระพงษ์ ผู้ต้องหา มายื่นคำร้องและหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมตัวนายจีระพงษ์ไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างฝากขังต่อไป
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้กำชับไปยังกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้เข้ามากำกับดูแลวินจักรยานยนต์ ต้องมีการรับรองการขึ้นทะเบียนถูกต้อง ยกระดับการกำกับดูแลโดยประสานกันทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง รับประกันความปลอดภัยกับทุกชีวิตบนท้องถนน เพราะถือว่าจักรยานยนต์เป็นการให้บริการประจำท้องถิ่น และควรบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาอีก
ส่วนนายธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดี ขบ. กล่าวว่า ขบ.มีมาตรการกำกับดูแลอยู่แล้วในการขึ้นทะเบียนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ และการออกใบขับขี่สาธารณะ ตลอดจนบทลงโทษด้านกฎหมายจราจรและขนส่ง แต่จากเหตุการที่เกิดขึ้น ในอนาคตจะร่วมมือกับทางท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาในลักษณะนี้ ตลอดจนนำไปสู่การปราบปรามวินเถื่อนและอิทธิพลเบื้องหลัง
"ปัญหาการซื้อเสื้อวินเพื่อเข้าเป็นสมาชิกมีราคาสูงถึงตัวละ 100,000-800,000 บาทนั้นมีอยู่จริง เกิดจากการสมยอมกันของผู้ขับขี่ที่ยอมให้มีสมาชิกรายใหม่เข้าสู่ทีม" นายธานีระบุ และว่า ในส่วนของมาตรการจัดการวินเถื่อน ขบ.อยู่ระหว่างพัฒนาแอปพลิเคชันแสดงใบขับขี่สาธารณะของวินจักรยานยนต์ คล้ายการพัฒนาใบขับขี่ดิจิทัลของประชาชนทั่วไป ดังนั้นในอนาคตประชาชนจะสามารถสแกน QR Code หรือการนำเลขประจำตัวผู้ขับขี่จักรยานยนต์ไปค้นหาในแอปพลิเคชันและเว็บไซต์เพื่อตรวจสอบว่าผู้ขับขี่ขึ้นทะเบียนถูกต้องกับกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ นอกจากนี้จะทำแผนที่จุดจอดวินจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการย้ายวินโดยไม่ได้รับอนุญาต.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |