18มิ.ย.62-ที่สวนเฉลิมหล้า สะพานหัวช้าง กรุงเทพฯ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) จัดแถลงข่าวโครงการรณรงค์ "จดหมายลาครู" ความร่วมมือแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำทางการศึกษา คืนเด็กๆ กลุ่มเสี่ยงหลุดออกนอกระบบการศึกษากลับสู่โรงเรียน ภายในงานมีการแสดงนิทรรศการ "จดหมายลาครู" จาก 7 พื้นที่ 4 ภูมิภาค ทั่วประเทศ
โดยนพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า โครงการรณรงค์จดหมายลาครู ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตจริงของนักเรียนด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งต้องลาออกไปหารายได้ เป็นเสาหลักของครอบครัว ซึ่งจากฐานข้อมูล กสศ.และศธ. พบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีเด็กนักเรียนมากกว่า 2 ล้านคน ที่อาศัยอยู่กับครอบครัวที่มีปัญหาความยากจนและมีความเสี่ยงที่จะหลุดออกจากระบบการศึกษา โดยอุปสรรคสำคัญที่ทำให้นักเรียนไม่ไปโรงเรียน เช่น ความห่างไกลของสถานศึกษา ไม่มีค่าเดินทาง ไม่มีค่าอาหาร หรือมีความจำเป็นต้องออกไปทำงานแบ่งเบาภาระครอบครัว เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำดังกล่าว ในปีการศึกษา 2562 กสศ.ได้ขยายความร่วมมือกับ สพฐ. สถ. และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ในโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไขสำหรับนักเรียนทุนเสมอภาค ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และมีคุณสมบัติตามเกณฑ์การคัดกรอง ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อขจัดอุปสรรคในการมาเรียนเพิ่มขึ้นจากเดิม 510,000 คนในปีการศึกษาที่ผ่านมา เป็นประมาณ 800,000 คน
"สิ่งสำคัญยิ่งกว่าเงินอุดหนุน คือ การเยี่ยมบ้าน เพื่อค้นหา คัดกรองให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่เดือดร้อนที่สุดตามเกณฑ์ของ กสศ. จริงๆ เพราะต้องยอมรับว่า กสศ. ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะช่วยเหลือเด็กทุกคน ดังนั้นการคัดกรองเด็ก จึงเป็นเรื่องสำคัญ อย่างไรก็ตาม ประชาชนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในการส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษากับ กสศ. ได้ หากพบเห็นเรื่องราวของเด็กๆ เหล่านี้ สามารถแจ้งไปยังโรงเรียนหรือเขตพื้นที่การศึกษาในพื้นที่ รวมถึง สายด่วน กสศ. 02-0795475 กด1 เพื่อที่จะช่วยเหลือเด็กที่ต้องเขียนจดหมายลาครู ไปช่วยเหลือทางบ้านให้หมดไป"ผู้จัดการ กสศ. กล่าว
ด้านนายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2561 สพฐ. และ กสศ. ร่วมมือกันสำรวจและคัดกรองนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สามารถช่วยบรรเทาอุปสรรค ปัญหาต่างๆ ในการไปเรียน เพิ่มโอกาสทางการศึกษาของนักเรียนได้จำนวน 510,040 คน และในปีนี้ สพฐ.ได้กำชับให้เขตพื้นที่การศึกษาทุกจังหวัด สถานศึกษา และคุณครูทั่วประเทศ ให้ความสำคัญกับการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและคัดกรองเด็กที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ เพื่อไม่ให้มีใครต้องตกหล่นอีกต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ายังมีนักเรียนกว่า 1 แสนคนที่น่าจะเข้าข่ายได้รับเงินอุดหนุน แต่ไม่ได้รับโอกาสนี้
ด้านนายขจร ศรีชวโนทัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (รองอธิบดี สถ.) กล่าวว่า เด็กยากจนด้อยโอกาสมีความเสี่ยงที่จะหลุดออกนอกระบบการศึกษาได้ทุกวินาที หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจึงต้องทำงานเชิงรุกเพื่อช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ให้ทันท่วงที ในช่วงเดือน กรกฎาคมนี้ ครูสังกัด องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 377 โรงเรียน จะลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน คัดกรองนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล - ม.ต้นจำนวนมากกว่า 120,000 คน เพื่อแก้ปัญหาได้เป็นรายคน ตามบริบทพื้นที่ได้อย่างแท้จริง โดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาที่ทาง กสศ.อำนวยความสะดวกให้ทั้ง 10 จังหวัดนำร่องของ อปท. จะเป็นตัวแบบเพื่อขยายผลการปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของสถานศึกษาสังกัด อปท.ทั่วประเทศทั้งหมดในปีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.วันชาติ คำเครือคง รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กล่าวว่า นักเรียนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) มีจำนวนทั้งสิ้น 26,552 คน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร และด้อยโอกาส จากนี้ครูในสังกัด ตชด. จะลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน เพื่อค้นหาคัดกรองอย่างรัดกุมให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่กำลังเดือดร้อนตามเกณฑ์ ของ กสศ. เงินอุดหนุนนี้แม้จำนวนไม่มากแต่อย่างน้อยก็ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองได้ ทั้งในส่วนของค่าเดินทาง ค่าอาหาร ฯลฯ ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญของการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กๆ กลุ่มนี้ ความร่วมมือระหว่าง บช.ตชด. และ กสศ.จะไม่ใช่งานเฉพาะหน้า ระยะสั้น แต่จะเป็นการช่วยเด็กนักเรียนกลุ่มนี้ในระยะยาว และมีความยั่งยืน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |